วานนี้ (14 ก.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) เพื่อพิจารณากรณี นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย สมัยอยู่พรรคพลังประชาชน ได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำของ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ 28 ราย กระทำการอันมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 48 ประกอบ 265 ของรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา 106 ( 6) ของรัฐธรรมนูญ กรณีถือหุ้นบริษัทที่เป็นสื่อ และบริษัทที่เป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐมีสัมปทานกับรัฐว่า กกต. มีมติให้เลื่อนการลงมติ ไปเป็นวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.ค. ที่จะถึงนี้เนื่องจาก ในการรายงาน ของฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการไต่สวน มีการระบุว่าบริษัทที่เข้าข่ายเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐมีมากกว่า ที่ กกต. เคยวินิจฉัยไว้เมื่อครั้ง ส.ว.
รวมทั้งมีรายละเอียดว่า ส.ส. คนใดถือหุ้นประเภทใด ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้ด้วย แต่ก็ไม่ได้จัดหมวดหมู่ให้มีความชัดเจน ทำให้ กกต. เกรงว่า หากลงมติไป อาจจะไม่สอดคล้องกับที่เคยได้ลงมติกับ ส.ว. เอาไว้ และจะทำให้กลายเป็น 2 มาตรฐานจึงสั่งให้ฝ่ายเลขาฯกรรมการไต่สวน ไปจัดหมวดหมู่ ของบริษัทที่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ส.ส.เข้าไปมีหุ้น และจัดหมวดหมู่ว่า ส.ส.กลุ่มใดถือหุ้นต้องห้ามหรือไม่ โดยให้ยึดหลักสอดคล้องกับที่กกต.เคยวินิจฉัยไว้ในคราวส.ว. แล้วให้นำกลับมารายงานให้ที่ประชุมทราบในวันที่ 16 ที่จะถึงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ส.ส.ถือหุ้นกู้ถือว่าไม่มีความผิดใช่หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ในชั้นของคณะกรรมการไต่สวน 16 ส.ว. ระบุไว้ว่าหุ้นกู้เป็นตราสารที่บริษัท ต่างๆ เสนอขายให้กับผู้ลงทุนเพื่อกู้ยืมเงินไม่อยู่ในความหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 และ 265 ดังนั้น เมื่อ กกต. ระบุว่าจะยึดถือคำวินิจฉัยกรณี 16 ส.ว. ในการลงมติ ในส่วนของ ส.ส. จึงเท่ากับว่าหากผู้ใดถือหุ้นกู้ก็ไม่ถือว่ากระทำการต้องห้าม
อย่างไรก็ตามในส่วนของคำวินิจฉัย 16 ส.ว. นั้นในขณะนี้ ประธาน กกต. และ กกต. ทุกคนได้ลงนามเรียบร้อยและคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะส่งถึงประธานวุฒิสภาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมในครั้งนี้ กกต. เกือบทุกคนเห็นว่า รายงานที่คณะกรรมการไต่สวนเสนอมาและสรุปมามีความครบถ้วนชัดเจนและสามารถลงมติได้เลย ทั้งการพิจารณาว่าหุ้นใดต้องห้าม หรือใครถือหุ้นต้องห้ามบ้าง แต่นาง สดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมิองกลับตั้งข้อสงสัย และต้องการให้คณะกรรมการไต่สวน ไปจัดหมวดหมู่ให้ละเอียดกว่านี้ ดังนั้นเพื่อความสบายใจ กกต. ที่เหลือจึงอนุมัติให้เลื่อนการพิจารณาออกไป
นายสุทธิพลยังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้ กกต. ยังได้มีมติขยายเวลาในการสืบสวน สอบสวนเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.สกลนครเขต 3 อีก 10 วันซึ่งถือ เป็นการขยายเวลาครั้งที่ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการประชุม กกต. ปรากฎว่า บรรดา กกต. ต่างเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์โดยเดินทางเข้าสู่สำนักงานด้วยการใช้เส้นทางอื่น แทนทางเข้าหลักซึ่งมักจะใช้เป็นประจำ ซึ่งมีสื่อมวลชนมาดักรอทำข่าวเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนเท่านั้นที่เข้าตามเส้นทางเดิม แต่ก็ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์โดยระบุว่าตนไม่สบาย ไม่มีเสียง
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวแล้วเมื่อได้อ่านสำนวนทั้งหมดเห็นว่า จะลงมติในวันนี้ได้เลยหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วผมไม่มีปัญหาอะไร
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือและชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงกับ กกต. โดยมั่นใจว่าส.ส. ของพรรคไม่มีเจตนาเข้าไปแทรกแซงการทำงานของบริษัทที่ถือหุ้น และเชื่อว่าไม่ว่า ผลการวินิจฉัยของกกต.จะออกมาอย่างไรก็ไม่กระทบต่อจำนวนเสียงส.ส.ที่จะโหวตหนุนร่างกฎหมายการเงินที่จะเข้าสู่การประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ แต่อย่างใด
รวมทั้งมีรายละเอียดว่า ส.ส. คนใดถือหุ้นประเภทใด ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้ด้วย แต่ก็ไม่ได้จัดหมวดหมู่ให้มีความชัดเจน ทำให้ กกต. เกรงว่า หากลงมติไป อาจจะไม่สอดคล้องกับที่เคยได้ลงมติกับ ส.ว. เอาไว้ และจะทำให้กลายเป็น 2 มาตรฐานจึงสั่งให้ฝ่ายเลขาฯกรรมการไต่สวน ไปจัดหมวดหมู่ ของบริษัทที่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ส.ส.เข้าไปมีหุ้น และจัดหมวดหมู่ว่า ส.ส.กลุ่มใดถือหุ้นต้องห้ามหรือไม่ โดยให้ยึดหลักสอดคล้องกับที่กกต.เคยวินิจฉัยไว้ในคราวส.ว. แล้วให้นำกลับมารายงานให้ที่ประชุมทราบในวันที่ 16 ที่จะถึงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ส.ส.ถือหุ้นกู้ถือว่าไม่มีความผิดใช่หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ในชั้นของคณะกรรมการไต่สวน 16 ส.ว. ระบุไว้ว่าหุ้นกู้เป็นตราสารที่บริษัท ต่างๆ เสนอขายให้กับผู้ลงทุนเพื่อกู้ยืมเงินไม่อยู่ในความหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 48 และ 265 ดังนั้น เมื่อ กกต. ระบุว่าจะยึดถือคำวินิจฉัยกรณี 16 ส.ว. ในการลงมติ ในส่วนของ ส.ส. จึงเท่ากับว่าหากผู้ใดถือหุ้นกู้ก็ไม่ถือว่ากระทำการต้องห้าม
อย่างไรก็ตามในส่วนของคำวินิจฉัย 16 ส.ว. นั้นในขณะนี้ ประธาน กกต. และ กกต. ทุกคนได้ลงนามเรียบร้อยและคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะส่งถึงประธานวุฒิสภาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมในครั้งนี้ กกต. เกือบทุกคนเห็นว่า รายงานที่คณะกรรมการไต่สวนเสนอมาและสรุปมามีความครบถ้วนชัดเจนและสามารถลงมติได้เลย ทั้งการพิจารณาว่าหุ้นใดต้องห้าม หรือใครถือหุ้นต้องห้ามบ้าง แต่นาง สดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมิองกลับตั้งข้อสงสัย และต้องการให้คณะกรรมการไต่สวน ไปจัดหมวดหมู่ให้ละเอียดกว่านี้ ดังนั้นเพื่อความสบายใจ กกต. ที่เหลือจึงอนุมัติให้เลื่อนการพิจารณาออกไป
นายสุทธิพลยังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้ กกต. ยังได้มีมติขยายเวลาในการสืบสวน สอบสวนเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.สกลนครเขต 3 อีก 10 วันซึ่งถือ เป็นการขยายเวลาครั้งที่ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการประชุม กกต. ปรากฎว่า บรรดา กกต. ต่างเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์โดยเดินทางเข้าสู่สำนักงานด้วยการใช้เส้นทางอื่น แทนทางเข้าหลักซึ่งมักจะใช้เป็นประจำ ซึ่งมีสื่อมวลชนมาดักรอทำข่าวเป็นจำนวนมาก เหลือเพียงนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนเท่านั้นที่เข้าตามเส้นทางเดิม แต่ก็ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์โดยระบุว่าตนไม่สบาย ไม่มีเสียง
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวแล้วเมื่อได้อ่านสำนวนทั้งหมดเห็นว่า จะลงมติในวันนี้ได้เลยหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนตัวแล้วผมไม่มีปัญหาอะไร
ด้าน นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมให้ความร่วมมือและชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงกับ กกต. โดยมั่นใจว่าส.ส. ของพรรคไม่มีเจตนาเข้าไปแทรกแซงการทำงานของบริษัทที่ถือหุ้น และเชื่อว่าไม่ว่า ผลการวินิจฉัยของกกต.จะออกมาอย่างไรก็ไม่กระทบต่อจำนวนเสียงส.ส.ที่จะโหวตหนุนร่างกฎหมายการเงินที่จะเข้าสู่การประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ แต่อย่างใด