รอยเตอร์ – ส.ส.ของพรรครัฐบาลผสมญี่ปุ่น ร่วมกันลงมติคว่ำญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ ในวันอังคาร (14) อย่างไรก็ตาม ภายในพรรคลิเบอรัล เดโมแครติก ปาร์ตี้(แอลดีพี) ของเขา กลับมีความปั่นป่วนหนักหน่วงขึ้นอีก เนื่องจากเกิดความหวาดผวากันเพิ่มขึ้นทุกทีว่า พรรคจะประสบความพ่ายแพ้ครั้งประวัติการณ์ ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นเดือนหน้า
หากพรรคร่วมรัฐบาลผสมของอาโซะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ก็จะส่งผลกระทบกระเทือนหนักหน่วงต่อพรรคแอลดีพี ซึ่งได้เป็นรัฐบาลญี่ปุ่นแทบต่อเนื่องโดยตลอดมานานนับครึ่งศตวรรษ แม้ว่าล่าสุดจะพยายามเรียกคะแนนนิยมด้วยการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกัน ปัญหาหนักของแอลดีพีก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้พรรคเดโมแครติก ปาร์ตี้ ออฟ แจแปน (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ที่จะช่วงชิงการควบคุมสภาล่าง และยุติภาวะชะงักงันในการดำเนินนโยบายในรัฐสภา เนื่องจากฝ่ายค้านนั้นสามารถครองเสียงข้างมากอยู่แล้วในสภาสูง ซึ่งเป็นสภาที่มีอำนาจชะลอการออกกฎหมายต่างๆ
พรรคดีพีเจ ซึ่งกำลังพยายามหาประโยชน์อย่างเต็มที่จากคะแนนนิยมที่ตกต่ำลงของพรรคแอลดีพี จึงได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีของอาโซะต่อสภาล่าง โดยอ้างเหตุผลในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ
“คณะรัฐมนตรีใช้จ่ายงบประมาณไปมหาศาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่เราเห็นว่ารัฐบาลมีเป้าหมายเพียงเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนในการเลือกตั้งเท่านั้น” ยูกิโอะ ฮาโตยามะ หัวหน้าพรรคดีพีเจกล่าว “มาตรการต่างๆ ที่ออกมาไม่ได้ช่วยให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม”
ปรากฏว่าญัตติดังกล่าวต้องตกไปตามคาดหมาย จากการที่ฝ่ายรัฐบาลลงคะแนนคัดค้านแบบบล็อกโหวด แต่กะรนั้น พรรคดีพีเจก็หวังว่า การกดดันให้ ส.ส. ของแอลดีพีต้องโหวตสนับสนุนอาโซะ จะทำให้เป็นเรื่องยากลำบากขึ้นไปอีก ที่พวกซึ่งวิพากษ์วิจารณ์อาโซะภายในพรรค จะหาทางขับเขาออกจากตำแหน่งก่อนการเลือกตั้งทั่วไป
ทั้งนี้ จากการที่ความสนับสนุนของประชาชนที่ต่ออาโซะกำลังทรุดฮวบ จึงทำให้มี ส.ส.แอลดีพีหลายคน ออกมาเรียกร้องให้เขาลาออกก่อนที่จะถึงการเลือกตั้ง และเลื่อนเวลาการเลือกตั้งผู้นำพรรคขึ้นมาให้เร็วขึ้น จากที่ตามกำหนดจะจัดในเดือนกันยายนนี้
อดีตเลขาธิการพรรคแอลดีพี ฮิเดนาโอะ นากางาวะ เป็นผู้หนึ่งที่ได้เรียกร้องมาหลายครั้งให้อาโซะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่อาโซะปฏิเสธโดยกล่าวต่อที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาของพรรคว่า “เวลานี้เป็นเวลาที่เราต้องต่อสู้ และเราจำเป็นต้องต่อสู้ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ มิฉะนั้นแล้วเราจะไม่สามารถต่อสู้ให้ชนะได้”
อันที่จริงแล้วในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคแอลดีพีมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคไปถึง 4 คนด้วยกัน และผู้ออกเสียงก็อาจไม่รู้สึกประทับใจหากจะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำพรรคอีกครั้ง โดยที่แอลดีพีนั้นกำลังขาดผู้สืบทอดที่จะสามารถดึงคะแนนนิยมของพรรคกลับขึ้นมา และเพิ่มโอกาสให้พรรคได้ชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป
สำหรับสภาสูงซึ่งพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่นั้น ก็คาดว่าจะลงมติรับญัตติไม่ไว้ใจอาโซะในวันอังคารเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นญัตติที่ไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย แต่ก็จะสร้างความอับอายให้กับรัฐบาลอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ภายในพรรคฝ่ายค้านเองก็ใช่ว่าจะไร้ปัญหาใดๆ เพราะยูกิโอะ ฮาโตยามะ ก็เพิ่งกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนจากกรณีที่ว่า ในบัญชีรายการผู้บริจาคทางการเมืองให้แก่เขานั้น มีชื่อของบุคคลซึ่งแท้จริงเสียชีวิตไปแล้วอยู่หลายราย
นอกจากนั้น แผนงบประมาณของพรรคดีพีเจ ที่วางโครงการใช้จ่ายเอาไว้สูงลิ่ว ก็เป็นที่เฝ้าจับตาดูจากพวกนักวิเคราะห์ทางการเงินอยู่เช่นกัน โดยมีเสียงวิจารณ์ว่ามาตรการอย่างเช่น การแจกเงินให้กับแต่ละครอบครัว และการไม่เก็บค่าบริการทางด่วน อาจทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินด้วยการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้น และต้องแบกรับภาระจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น
หากพรรคร่วมรัฐบาลผสมของอาโซะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ ก็จะส่งผลกระทบกระเทือนหนักหน่วงต่อพรรคแอลดีพี ซึ่งได้เป็นรัฐบาลญี่ปุ่นแทบต่อเนื่องโดยตลอดมานานนับครึ่งศตวรรษ แม้ว่าล่าสุดจะพยายามเรียกคะแนนนิยมด้วยการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกัน ปัญหาหนักของแอลดีพีก็เป็นการเพิ่มโอกาสให้พรรคเดโมแครติก ปาร์ตี้ ออฟ แจแปน (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ที่จะช่วงชิงการควบคุมสภาล่าง และยุติภาวะชะงักงันในการดำเนินนโยบายในรัฐสภา เนื่องจากฝ่ายค้านนั้นสามารถครองเสียงข้างมากอยู่แล้วในสภาสูง ซึ่งเป็นสภาที่มีอำนาจชะลอการออกกฎหมายต่างๆ
พรรคดีพีเจ ซึ่งกำลังพยายามหาประโยชน์อย่างเต็มที่จากคะแนนนิยมที่ตกต่ำลงของพรรคแอลดีพี จึงได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีของอาโซะต่อสภาล่าง โดยอ้างเหตุผลในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ
“คณะรัฐมนตรีใช้จ่ายงบประมาณไปมหาศาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่เราเห็นว่ารัฐบาลมีเป้าหมายเพียงเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนในการเลือกตั้งเท่านั้น” ยูกิโอะ ฮาโตยามะ หัวหน้าพรรคดีพีเจกล่าว “มาตรการต่างๆ ที่ออกมาไม่ได้ช่วยให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม”
ปรากฏว่าญัตติดังกล่าวต้องตกไปตามคาดหมาย จากการที่ฝ่ายรัฐบาลลงคะแนนคัดค้านแบบบล็อกโหวด แต่กะรนั้น พรรคดีพีเจก็หวังว่า การกดดันให้ ส.ส. ของแอลดีพีต้องโหวตสนับสนุนอาโซะ จะทำให้เป็นเรื่องยากลำบากขึ้นไปอีก ที่พวกซึ่งวิพากษ์วิจารณ์อาโซะภายในพรรค จะหาทางขับเขาออกจากตำแหน่งก่อนการเลือกตั้งทั่วไป
ทั้งนี้ จากการที่ความสนับสนุนของประชาชนที่ต่ออาโซะกำลังทรุดฮวบ จึงทำให้มี ส.ส.แอลดีพีหลายคน ออกมาเรียกร้องให้เขาลาออกก่อนที่จะถึงการเลือกตั้ง และเลื่อนเวลาการเลือกตั้งผู้นำพรรคขึ้นมาให้เร็วขึ้น จากที่ตามกำหนดจะจัดในเดือนกันยายนนี้
อดีตเลขาธิการพรรคแอลดีพี ฮิเดนาโอะ นากางาวะ เป็นผู้หนึ่งที่ได้เรียกร้องมาหลายครั้งให้อาโซะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่อาโซะปฏิเสธโดยกล่าวต่อที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาของพรรคว่า “เวลานี้เป็นเวลาที่เราต้องต่อสู้ และเราจำเป็นต้องต่อสู้ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ มิฉะนั้นแล้วเราจะไม่สามารถต่อสู้ให้ชนะได้”
อันที่จริงแล้วในระยะ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคแอลดีพีมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคไปถึง 4 คนด้วยกัน และผู้ออกเสียงก็อาจไม่รู้สึกประทับใจหากจะมีการเปลี่ยนตัวผู้นำพรรคอีกครั้ง โดยที่แอลดีพีนั้นกำลังขาดผู้สืบทอดที่จะสามารถดึงคะแนนนิยมของพรรคกลับขึ้นมา และเพิ่มโอกาสให้พรรคได้ชนะการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป
สำหรับสภาสูงซึ่งพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่นั้น ก็คาดว่าจะลงมติรับญัตติไม่ไว้ใจอาโซะในวันอังคารเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นญัตติที่ไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย แต่ก็จะสร้างความอับอายให้กับรัฐบาลอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ภายในพรรคฝ่ายค้านเองก็ใช่ว่าจะไร้ปัญหาใดๆ เพราะยูกิโอะ ฮาโตยามะ ก็เพิ่งกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนจากกรณีที่ว่า ในบัญชีรายการผู้บริจาคทางการเมืองให้แก่เขานั้น มีชื่อของบุคคลซึ่งแท้จริงเสียชีวิตไปแล้วอยู่หลายราย
นอกจากนั้น แผนงบประมาณของพรรคดีพีเจ ที่วางโครงการใช้จ่ายเอาไว้สูงลิ่ว ก็เป็นที่เฝ้าจับตาดูจากพวกนักวิเคราะห์ทางการเงินอยู่เช่นกัน โดยมีเสียงวิจารณ์ว่ามาตรการอย่างเช่น การแจกเงินให้กับแต่ละครอบครัว และการไม่เก็บค่าบริการทางด่วน อาจทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินด้วยการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้น และต้องแบกรับภาระจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น
