ASTVผู้จัดการรายวัน – คินเนติค ชี้ทางรุ่งสื่อนอกบ้าน เชื่อ แอร์พอร์ตลิงค์ –BTS ช่วยดันสื่อนอกบ้านพุ่งอีก 5-10% ส่วน 5 เดือนที่ผ่านมาสื่อทรานซิท และสื่ออินสโตร์ยังโตสวนกระแส เหตุลูกค้าเห็นความสำคัญในการใช้สื่อนี้มากขึ้น
นายสุรเชษฐ์ บำรุงสุข ผู้จัดการ บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านที่ปรึกษาการใช้สื่อนอกบ้าน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของทางนีลสัน มีเดีย รีเสิร์ช พบว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media /OHM) มูลค่า 6,000 ล้านบาท ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีการเติบโต 2% แบ่งได้เป็นสื่อทรานซิทมีส่วนแบ่ง 26.9% เติบโตขึ้น 30.8% สื่ออินสโตร์ สัดส่วน 23% เติบโตขึ้น 12.3%
โดยมีเพียงสื่อเอาท์ดอร์ หรือป้ายโฆษณากลางแจ้ง ที่มีส่วนแบ่งมากสุด 60.8% กลับตกลง 7.7%
การที่สื่อเอาท์ดอร์ตกลงนั้นเกิดจากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้อุตสาหกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ทำให้สื่อเอาท์ดอร์ซึ่งถือเป็นสื่อที่ภาคอสังหาริมทรัพย์นิยมใช้มากสุดก็หายไปด้วย นอกจากนี้ในกลุ่มสื่อนอกบ้าน ยังมีทางเลือกใหม่ๆที่ทดแทนสื่อเอาท์ดอร์ได้มากขึ้น จึงทำให้ภาพรวมสื่อเอาท์ดอร์ตกลง
โดยทั้งปีนี้เชื่อว่าเฉพาะสื่อเอาท์ดอร์จะตกลงถึง 10%
ส่วนสื่ออินสโตร์ มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การเข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด ย่อมได้เปรียบ ดังนั้นสื่ออินสโตร์ จึงเริ่มมีบทบาทและมีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสนใจ และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ณ จุดขายได้ง่ายขึ้น
บวกกับธุรกิจด้านไฮเปอร์มาร์เก็ตมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สื่อนี้ขยายตัวตามไปด้วย ดังนั้น สิ้นปีนี้เชื่อว่า สื่ออินสโตร์ จะมีการเติบโตได้ถึง 15%
สำหรับสื่อทรานซิทนั้น เป็นสื่อที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ในวงกว้าง ขณะที่ราคาการซื้อสื่อนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าสื่อเอาท์ดอร์อีกด้วย ที่สำคัญในระยะอันใกล้นี้ มั่นใจว่าหากมีการเปิดให้บริการแอร์พอร์ทลิงค์สุวรรณภูมิ สายด่วนและสาย City Line ที่จะมาเชื่อมต่อกับ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีพญาไท จะยิ่งทำให้จุดเชื่อมต่อเหล่านี้ จะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการอีกมากมาย ดังนั้นในอนาคต ทั้งสองปัจจัยนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้สื่อทรานซิทโตขึ้นได้อีกมาก ล่าสุดกับการเพิ่มจำนวนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 2 สถานี ที่สถานีกรุงธนบุรีและวงเวียนใหญ่ ยิ่งตอกย้ำประสิทธิภาพของสื่อทรานซิทได้เป็นอย่างดี กับการที่มีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการมากขึ้นโดยสิ้นปีนี้เชื่อว่าสื่อทรานซิทนี้ จะมีอัตราการเติบโตได้สูงถึง 40%
ส่วนภาพรวมสื่อนอกบ้าน ทั้งปีเชื่อว่าจะทรงตัวที่ 6,000 ล้านบาท เท่าปีก่อน เพราะลูกค้ามีการย้ายการใช้สื่อเอาท์ดอร์ มาสู่สื่อทรานซิทและอินสโตร์มากขึ้น และหากแอร์พอร์ตลิงค์เปิดให้บริการ มั่นใจว่า จะส่งผลให้ภาพรวมสื่อนอกบ้านโตได้อีกอย่างน้อย 5-10%
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า พฤติกรรมและกลุ่มธุรกิจที่หันมาใช้สื่อทรานซิทและอินสโตร์มากขึ้นนั้น จะเป็นกลุ่ม เครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์, สถาบันการเงิน และสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค โดยในกลุ่มสุดท้ายนี้ จะเห็นได้ชัดว่า มีการให้ความสำคัญกับสื่ออินสโตร์ ณ จุดขาย มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าของทางกลุ่มยูนิลีเวอร์
ทั้งนี้ ปัจจุบันลูกค้าของคินเนติค จะมาจากทางกรุ๊ปเอ็มเป็นหลัก โดยรายใหญ่ๆ ได้แก่ ยูนิลีเวอร์, โนเกีย, เนสท์เล่, ธนาคารกสิกรไทย และคอลเกต ซึ่ง 5 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้ายังไม่ได้มีการตัดงบลง ส่วนหนึ่งมองว่า สื่อนอกบ้าน ราคาไม่สูง จึงมองไม่เห็นภาพชัดเจนว่าลูกค้ามีการจำกัดงบประมาณทางโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้นหรือไม่
นายสุรเชษฐ์ บำรุงสุข ผู้จัดการ บริษัท คินเนติค เวิลด์ไวด์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านที่ปรึกษาการใช้สื่อนอกบ้าน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของทางนีลสัน มีเดีย รีเสิร์ช พบว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media /OHM) มูลค่า 6,000 ล้านบาท ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มีการเติบโต 2% แบ่งได้เป็นสื่อทรานซิทมีส่วนแบ่ง 26.9% เติบโตขึ้น 30.8% สื่ออินสโตร์ สัดส่วน 23% เติบโตขึ้น 12.3%
โดยมีเพียงสื่อเอาท์ดอร์ หรือป้ายโฆษณากลางแจ้ง ที่มีส่วนแบ่งมากสุด 60.8% กลับตกลง 7.7%
การที่สื่อเอาท์ดอร์ตกลงนั้นเกิดจากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ส่งผลให้อุตสาหกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ทำให้สื่อเอาท์ดอร์ซึ่งถือเป็นสื่อที่ภาคอสังหาริมทรัพย์นิยมใช้มากสุดก็หายไปด้วย นอกจากนี้ในกลุ่มสื่อนอกบ้าน ยังมีทางเลือกใหม่ๆที่ทดแทนสื่อเอาท์ดอร์ได้มากขึ้น จึงทำให้ภาพรวมสื่อเอาท์ดอร์ตกลง
โดยทั้งปีนี้เชื่อว่าเฉพาะสื่อเอาท์ดอร์จะตกลงถึง 10%
ส่วนสื่ออินสโตร์ มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจจากลูกค้ามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การเข้าถึงผู้บริโภคได้มากที่สุด ย่อมได้เปรียบ ดังนั้นสื่ออินสโตร์ จึงเริ่มมีบทบาทและมีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสนใจ และช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ณ จุดขายได้ง่ายขึ้น
บวกกับธุรกิจด้านไฮเปอร์มาร์เก็ตมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สื่อนี้ขยายตัวตามไปด้วย ดังนั้น สิ้นปีนี้เชื่อว่า สื่ออินสโตร์ จะมีการเติบโตได้ถึง 15%
สำหรับสื่อทรานซิทนั้น เป็นสื่อที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะเป็นสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ในวงกว้าง ขณะที่ราคาการซื้อสื่อนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว ยังมีราคาถูกกว่าสื่อเอาท์ดอร์อีกด้วย ที่สำคัญในระยะอันใกล้นี้ มั่นใจว่าหากมีการเปิดให้บริการแอร์พอร์ทลิงค์สุวรรณภูมิ สายด่วนและสาย City Line ที่จะมาเชื่อมต่อกับ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีพญาไท จะยิ่งทำให้จุดเชื่อมต่อเหล่านี้ จะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการอีกมากมาย ดังนั้นในอนาคต ทั้งสองปัจจัยนี้ เชื่อว่าจะส่งผลให้สื่อทรานซิทโตขึ้นได้อีกมาก ล่าสุดกับการเพิ่มจำนวนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 2 สถานี ที่สถานีกรุงธนบุรีและวงเวียนใหญ่ ยิ่งตอกย้ำประสิทธิภาพของสื่อทรานซิทได้เป็นอย่างดี กับการที่มีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการมากขึ้นโดยสิ้นปีนี้เชื่อว่าสื่อทรานซิทนี้ จะมีอัตราการเติบโตได้สูงถึง 40%
ส่วนภาพรวมสื่อนอกบ้าน ทั้งปีเชื่อว่าจะทรงตัวที่ 6,000 ล้านบาท เท่าปีก่อน เพราะลูกค้ามีการย้ายการใช้สื่อเอาท์ดอร์ มาสู่สื่อทรานซิทและอินสโตร์มากขึ้น และหากแอร์พอร์ตลิงค์เปิดให้บริการ มั่นใจว่า จะส่งผลให้ภาพรวมสื่อนอกบ้านโตได้อีกอย่างน้อย 5-10%
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า พฤติกรรมและกลุ่มธุรกิจที่หันมาใช้สื่อทรานซิทและอินสโตร์มากขึ้นนั้น จะเป็นกลุ่ม เครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์, สถาบันการเงิน และสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภค โดยในกลุ่มสุดท้ายนี้ จะเห็นได้ชัดว่า มีการให้ความสำคัญกับสื่ออินสโตร์ ณ จุดขาย มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าของทางกลุ่มยูนิลีเวอร์
ทั้งนี้ ปัจจุบันลูกค้าของคินเนติค จะมาจากทางกรุ๊ปเอ็มเป็นหลัก โดยรายใหญ่ๆ ได้แก่ ยูนิลีเวอร์, โนเกีย, เนสท์เล่, ธนาคารกสิกรไทย และคอลเกต ซึ่ง 5 เดือนที่ผ่านมา ลูกค้ายังไม่ได้มีการตัดงบลง ส่วนหนึ่งมองว่า สื่อนอกบ้าน ราคาไม่สูง จึงมองไม่เห็นภาพชัดเจนว่าลูกค้ามีการจำกัดงบประมาณทางโฆษณาประชาสัมพันธ์มากขึ้นหรือไม่
