xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีความเชื่อมั่นจัดสรรฟื้น หวังอีก6เดือนเศรษฐกิจดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ” เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในไตรมาส 2 ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 48.1 หลังเคยต่ำสุด 36.3 ในไตรมาส 4/51 ส่วนความคาดหวังใน 6 เดือนข้างหน้า 62.2 เพิ่มจาก 50.4 ผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์เชื่อมั่นสูงสุด 69.9 ชี้มาตรการกรุต้นอสังหาฯเอื้อประโยชน์บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ไตรมาส 2 ปี 2552 จากผู้ประกอบการที่ตอบแบบสอบถามจำนวน 149 บริษัท ในจำนวนนี้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 28 บริษัท และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ 121 บริษัท

สำหรับผลการสำรวจประจำไตรมาส 2 ปี 52 พบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสปัจจุบัน (Current Situation Index) มีค่าเท่ากับ 48.1 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 1/52 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 42.2 ถือเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากที่เคยอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 36.3 ในไตรมาส 4/51

ทั้งนี้เมื่อแยกประเภทผู้ตอบเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พบว่าบริษัทจดทะเบียนมีค่าความเชื่อมั่นในไตรมาสปัจจุบัน 56.8 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 1/52 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 50.8 ค่าดัชนีเพิ่มสูงขึ้นมากแสดงถึงความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นมาก ขณะที่บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสปัจจุบันเท่ากับ 39.2 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/52 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 33.5

สำหรับดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าเท่ากับ 62.2 ปรับตัวสูงขึ้นมากจากไตรมาส 1/52 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 50.4 โดยในส่วนของบริษัทจดทะเบียนมีค่าความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 69.9 ปรับตัวสูงขึ้นจากการสำรวจในไตรมาส 1/52 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 57.7 ขณะที่บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 54.4 ปรับตัวสูงขึ้นจากการสำรวจในไตรมาส 1/52 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 43.1

จากผลสำรวจดังกล่าวสามารถวิเคราะห์ได้ว่า การที่ดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย (ในการสำรวจเดือนมิถุนายน 2552) เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยและสถานการณ์การเมืองได้ปรับตัวดีขึ้นมาก ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มียอดขายสูงขึ้น และมีมุมมองเชิงบวก ต่อการจ้างงาน และ การลงทุน

ขณะที่บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนยังมีมุมมองต่อสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ดีนัก สะท้อนออกมาผ่านค่าดัชนีที่ยังต่ำกว่าค่ากลาง ทั้งนี้ มาตรการสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากกว่า และสภาพการแข่งขันที่รายใหญ่กว่าได้เปรียบ ทำให้ผู้ประกอบการรายกลางและเล็กอาจไม่มีความมั่นใจในการลงทุน อีกทั้งผู้บริโภคมักเลือกซื้อที่อยู่อาศัยจากบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและความเสี่ยงต่ำกว่า

การที่ดัชนีความคาดหวังใน 6 เดือนข้างหน้าปรับสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยและสถานการณ์การเมืองในครึ่งปีข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ประกอบการทั้งจดทะเบียนและบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน ต่างก็มีมุมมองเชิงบวกต่ออนาคต ซึ่งอาจส่งผลมาจากความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ลดความรุนแรงลง
กำลังโหลดความคิดเห็น