"มาร์ค" ชัดเจนยังไม่ปลด"กษิต" ขณะที่"เทพเทือก"บอกให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่เต้นตามที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามเคลื่อนไหวกดดัน ระบุเหตุเกิดก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี จึงไม่เกี่ยวกับกฎเหล็ก 9 ข้อ ชี้ตั้งข้อกล่าวหาเกินจริง ตำรวจสมควรถูกฟ้องกลับ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.)ว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.ด้วย เนื่องจากลาเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลโพลระบุว่า นายกษิต ควรลาอกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ หลังจากถูกแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้าย จากกรณีไปชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถามย้อนกลับไปว่า ดูให้ละเอียดว่าโพลระบุอย่างไร เขาระบุว่าให้ลาออกหลังการประชุมอาเซียน ใช่หรือไม่ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะไม่มีการตัดสินใจอะไรในตอนนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าให้ไปดูผลโพล เขาบอกว่าหลังการประชุมอาเซียน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกลุ่มเสื้อแดง พยายามกดดันให้มีการปลดนายกษิต จากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศว่า ความจริงเรื่องของนายกษิต ได้ดำเนินการตั้งข้อกล่าวหามาตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็พยายามดำเนินการมาตลอด โดยไม่มีการถ่วงเวลาจากรัฐบาลนี้เลย และไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด ปล่อยให้ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ทั้งนี้ เป็นความรับผิดชอบของตำรวจ ที่ทำคดีซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอน โดยเฉพาะในขั้นตอนอัยการ ซึ่งยังไม่แน่ว่าอัยการจะเห็นด้วยกับตำรวจทุกอย่างหรือไม่ ซึ่งจุดยืนของเราคือ เคารพกฎหมาย ทุกอย่าง ว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย
เรื่องเกิดก่อนรับตำแหน่งรมต.
อย่างไรก็ตาม กรณีของนายกษิต ไม่ถือว่าเข้าข่ายกฎ 9 ข้อของนายกฯ เพราะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นความผิดในตำแหน่งหน้าที่ เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดมาก่อนที่นายกษิต จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ ดังนั้นนายกษิต ยังทำหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเราไปเต้นตามกระแสก็เหนื่อย
เมื่อถามว่าเป็นเพราะรัฐบาลเกรงใจพันธมิตรฯ อยู่หรือไม่ จึงไม่กล้าดำเนินการกับนายกษิต นายสุเทพ กล่าวว่านายกษิต ก็ถูกกล่าวหาแล้ว จะหาว่าไม่กล้าทำอะไรอีกได้อย่างไร เมื่อถามว่าจะเป็นการทำลายขวัญ และกำลังใจเจ้าหน้าที่หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ไม่หรอก เจ้าหน้าที่เขาทำไปตามหน้าที่ ทำไปตามความรับผิดชอบของตัวเอง ส่วนที่จะมีการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่นั้น ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว หากมีการตั้งข้อกล่าวหาเกินเหตุ แล้วถูกเขาฟ้องกลับ
รอคดีถึงศาลค่อยพิจารณา
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้นายกษิตได้ไปทำหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ ที่ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นการทำหน้าที่สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะการกล่าวสุนทรพจน์ ต่อนักธุรกิจต่างชาติ ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และเข้าใจดีในสถานการณ์การเมืองไทย มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่ไม่พยายามไม่เข้าใจ โดยเฉพาะทีมโฆษกของพรรคเพื่อไทย ที่พยายามเคลื่อนไหวสร้างภาพ สร้างข่าวรายวัน
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องนี้ ชัดเจนว่า ถ้าเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พรรคจะมีการพิจารณาอย่างแน่นอน
"การตั้งข้อกล่าวหาเป็นเพียงกระบวนการยุติธรรมเริ่มต้น ยังไม่ใช่ข้อสรุป ข้อยุติคือคำตัดสินของศาล เว้นแต่บางคนที่ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล พยายามกระเสือกกระสน ให้ลิ่วล้อ ล่าชื่อขอพระราชทานอภัยโทษ"
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ว.วิเคราะห์การตั้งข้อกล่าวหา รมว.ต่างประเทศ มีนัยเงื่อนงำบางอย่าง ซึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย ว่า ตนไม่อยากให้การวิเคราะห์โดยการใช้จินตนาการปราศจากข้อเท็จจริง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหายได้ การตั้งข้อกล่าวหาของนายกษิต เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่ต้องการจัดฉากเพื่อเอานายกษิต ออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ตรงกับการตั้งข้อกล่าวหาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับผู้นำกัมพูชา ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังเชื่อมั่นในความถูกต้องของนายกษิต จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไปกลั่นแกล้งตามที่หลายคนได้วิเคราะห์
ชทพ.ไม่ติดใจปัญหา“กษิต”
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ถูกแจ้งข้อหาก่อการร้าย กรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิว่า เป็นเรื่องเก่า ควรปล่อยไปตามขั้นตอน
ส่วนกรณีที่ผลโพลออกมาระบุให้ นายกษิต ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เห็นว่าโพล ก็ส่วนโพล ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ยังเชื่อมั่น แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้มีความเห็นสองฝ่าย ซึ่งแล้วแต่กระบวนการยุติธรรมจะตัดสินอย่างไร พรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีปัญหา เราทำงานลูกเดียว เรื่องการเมืองเราแยกออก และเชื่อว่าไม่มีผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาล
"นายกษิต ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่บุกงานเก่งมากพอสมควร แต่อาจเกิดคำถาม ซึ่งคนไทยมี 65 ล้าน ทุกคนมีสิทธิ์ มีความเห็นที่แตกต่างกันได้" นายชุมพล กล่าว
เมื่อถามว่า หากเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทย จะเอาออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ตนไม่เอาลูกพรรคออกง่ายๆหรอก ต้องมีเหตุผล มีน้ำหนักพอสมควร ว่าเขาทำอะไรเสียหายแก่ประเทศชาติ เขาทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายหรือเปล่า เมื่อถามว่า การปิดสนามบิน ถือว่าเสียหายหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า มันไม่ได้ปิดคนเดียว ข้อเท็จจริงคนอื่นปิด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.)ว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.ด้วย เนื่องจากลาเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลโพลระบุว่า นายกษิต ควรลาอกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ หลังจากถูกแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้าย จากกรณีไปชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถามย้อนกลับไปว่า ดูให้ละเอียดว่าโพลระบุอย่างไร เขาระบุว่าให้ลาออกหลังการประชุมอาเซียน ใช่หรือไม่ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะไม่มีการตัดสินใจอะไรในตอนนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าให้ไปดูผลโพล เขาบอกว่าหลังการประชุมอาเซียน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกลุ่มเสื้อแดง พยายามกดดันให้มีการปลดนายกษิต จากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศว่า ความจริงเรื่องของนายกษิต ได้ดำเนินการตั้งข้อกล่าวหามาตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็พยายามดำเนินการมาตลอด โดยไม่มีการถ่วงเวลาจากรัฐบาลนี้เลย และไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใด ปล่อยให้ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ทั้งนี้ เป็นความรับผิดชอบของตำรวจ ที่ทำคดีซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอน โดยเฉพาะในขั้นตอนอัยการ ซึ่งยังไม่แน่ว่าอัยการจะเห็นด้วยกับตำรวจทุกอย่างหรือไม่ ซึ่งจุดยืนของเราคือ เคารพกฎหมาย ทุกอย่าง ว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย
เรื่องเกิดก่อนรับตำแหน่งรมต.
อย่างไรก็ตาม กรณีของนายกษิต ไม่ถือว่าเข้าข่ายกฎ 9 ข้อของนายกฯ เพราะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นความผิดในตำแหน่งหน้าที่ เรื่องที่เกิดขึ้น เกิดมาก่อนที่นายกษิต จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ ดังนั้นนายกษิต ยังทำหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเราไปเต้นตามกระแสก็เหนื่อย
เมื่อถามว่าเป็นเพราะรัฐบาลเกรงใจพันธมิตรฯ อยู่หรือไม่ จึงไม่กล้าดำเนินการกับนายกษิต นายสุเทพ กล่าวว่านายกษิต ก็ถูกกล่าวหาแล้ว จะหาว่าไม่กล้าทำอะไรอีกได้อย่างไร เมื่อถามว่าจะเป็นการทำลายขวัญ และกำลังใจเจ้าหน้าที่หรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ไม่หรอก เจ้าหน้าที่เขาทำไปตามหน้าที่ ทำไปตามความรับผิดชอบของตัวเอง ส่วนที่จะมีการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่นั้น ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว หากมีการตั้งข้อกล่าวหาเกินเหตุ แล้วถูกเขาฟ้องกลับ
รอคดีถึงศาลค่อยพิจารณา
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้นายกษิตได้ไปทำหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ ที่ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นการทำหน้าที่สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะการกล่าวสุนทรพจน์ ต่อนักธุรกิจต่างชาติ ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และเข้าใจดีในสถานการณ์การเมืองไทย มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่ไม่พยายามไม่เข้าใจ โดยเฉพาะทีมโฆษกของพรรคเพื่อไทย ที่พยายามเคลื่อนไหวสร้างภาพ สร้างข่าวรายวัน
อย่างไรก็ตาม จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ในเรื่องนี้ ชัดเจนว่า ถ้าเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พรรคจะมีการพิจารณาอย่างแน่นอน
"การตั้งข้อกล่าวหาเป็นเพียงกระบวนการยุติธรรมเริ่มต้น ยังไม่ใช่ข้อสรุป ข้อยุติคือคำตัดสินของศาล เว้นแต่บางคนที่ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล พยายามกระเสือกกระสน ให้ลิ่วล้อ ล่าชื่อขอพระราชทานอภัยโทษ"
นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ว.วิเคราะห์การตั้งข้อกล่าวหา รมว.ต่างประเทศ มีนัยเงื่อนงำบางอย่าง ซึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย ว่า ตนไม่อยากให้การวิเคราะห์โดยการใช้จินตนาการปราศจากข้อเท็จจริง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหายได้ การตั้งข้อกล่าวหาของนายกษิต เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่ต้องการจัดฉากเพื่อเอานายกษิต ออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ตรงกับการตั้งข้อกล่าวหาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับผู้นำกัมพูชา ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังเชื่อมั่นในความถูกต้องของนายกษิต จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไปกลั่นแกล้งตามที่หลายคนได้วิเคราะห์
ชทพ.ไม่ติดใจปัญหา“กษิต”
นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ถูกแจ้งข้อหาก่อการร้าย กรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิว่า เป็นเรื่องเก่า ควรปล่อยไปตามขั้นตอน
ส่วนกรณีที่ผลโพลออกมาระบุให้ นายกษิต ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เห็นว่าโพล ก็ส่วนโพล ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ยังเชื่อมั่น แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้มีความเห็นสองฝ่าย ซึ่งแล้วแต่กระบวนการยุติธรรมจะตัดสินอย่างไร พรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีปัญหา เราทำงานลูกเดียว เรื่องการเมืองเราแยกออก และเชื่อว่าไม่มีผลต่อคะแนนนิยมของรัฐบาล
"นายกษิต ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่บุกงานเก่งมากพอสมควร แต่อาจเกิดคำถาม ซึ่งคนไทยมี 65 ล้าน ทุกคนมีสิทธิ์ มีความเห็นที่แตกต่างกันได้" นายชุมพล กล่าว
เมื่อถามว่า หากเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทย จะเอาออกจากตำแหน่งหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า ตนไม่เอาลูกพรรคออกง่ายๆหรอก ต้องมีเหตุผล มีน้ำหนักพอสมควร ว่าเขาทำอะไรเสียหายแก่ประเทศชาติ เขาทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ทำให้เกิดความเสียหายหรือเปล่า เมื่อถามว่า การปิดสนามบิน ถือว่าเสียหายหรือไม่ นายชุมพล กล่าวว่า มันไม่ได้ปิดคนเดียว ข้อเท็จจริงคนอื่นปิด
