นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า หากประเมินการทำงานของรัฐบาลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมายังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เพราะรัฐบาลยังไม่ สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกับปัญหาทางการเมืองที่รัฐบาล ต้องทำให้การเมืองนิ่ง ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมาก รัฐบาลจะต้องประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านพ้นไปให้ได้
นายประสพสุข กล่าวด้วยว่า จากการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ อย่างเป็น ทางการ เช่น โรมาเนีย และโปแลนด์ ชาวต่างชาติได้สอบถามและแสดงความเป็นห่วงทั้งสถานการณ์ทางการเมืองและปัญหา เศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะเรื่องการ ปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ความมั่นใจว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก ต่างชาติเข้าใจเรื่องปัญหาทางการเมือง แต่ไม่เข้าใจเพียงเรื่องการปิดสนามบินเท่านั้น
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว ถึงกรณีนายประสพสุข บุญเดช ประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือน สอบตก ว่า ได้บอกกับทุกกระทรวงว่าเมื่อครบเวลา 6 เดือนแล้ว รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงควรที่จะมีการชี้แจงงานที่ตนเองทำมีอะไรบ้าง เท่าที่รับฟังจากคณะกรรมการรวบรวมข้อมูล แต่ละกระทรวงดำเนินงานไปมากทีเดียว แต่กลับมีเสียงวิจารณ์ว่าช่วง 6 เดือนรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลยกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่ความจริงรัฐบาล ทำงานไปเยอะมาก และผลงานที่ออกมาก็เป็นผลงานในนามของรัฐบาลไม่ใช่ของ พรรคประชาธิปัตย์หรือของพรรคใดพรรคหนึ่ง ขณะเดียวกันการชี้แจงคงไม่ส่งผล ให้เกิดการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในบางกระทรวงที่ ไม่มีผลงาน เพียงแต่นายกรัฐมนตรีอาจเร่งรัดให้ทำงานมากขึ้นเท่านั้น
นายสาทิตย์ กล่าวถึง ความคืบหน้าในการจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการรวบรวมผลงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้จัดประชุมคณะกรรมการฯ ไปแล้ว 2 ครั้ง และได้กำหนดกรอบไว้ว่าให้คณะกรรมการฯ ไปติดตาม ผลงานของรัฐบาลที่เกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วน ซึ่งต้องปฏิบัติใน 1 ปีแรก ตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และให้ดูในเรื่องของงบประมาณรายจ่ายกลางปีที่รัฐบาล เสนอต่อรัฐสภาไปจำนวน 100,000 ล้านบาท ในช่วง 1 เดือนแรกของการเป็นรัฐบาล
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบและกำลังจัดทำเป็นรูปเล่ม รวมทั้งจะสรุปเป็นข้อมูลครั้งสุดท้ายก่อนประชุมอีกครั้งในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับไปว่า เมื่อทำเป็นรูปเล่มแล้วต้องมีการประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบด้วย โดยจะทำใน 3 รูปแบบ คือ
1.ทำเป็นเอกสารเสนอนายกรัฐมนตรี 2.ทำเป็นแผนที่จะเสนอผ่านสื่อมวลชน เช่น ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ทำสกู๊ปสัมภาษณ์พิเศษ หรือสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์ และ 3.ผลิตเป็นสื่อ เช่น หนังสือ หรือแผ่นวีซีดี ที่จะนำไปเผยแพร่ในวิทยุชุมชน หรือเคเบิลทีวี หรือโทรทัศน์ดาวเทียม สถานีโทรทัศน์และวิทยุทั่วไป
นายประสพสุข กล่าวด้วยว่า จากการเดินทางเยือนประเทศต่างๆ อย่างเป็น ทางการ เช่น โรมาเนีย และโปแลนด์ ชาวต่างชาติได้สอบถามและแสดงความเป็นห่วงทั้งสถานการณ์ทางการเมืองและปัญหา เศรษฐกิจของไทย โดยเฉพาะเรื่องการ ปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ความมั่นใจว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก ต่างชาติเข้าใจเรื่องปัญหาทางการเมือง แต่ไม่เข้าใจเพียงเรื่องการปิดสนามบินเท่านั้น
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว ถึงกรณีนายประสพสุข บุญเดช ประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือน สอบตก ว่า ได้บอกกับทุกกระทรวงว่าเมื่อครบเวลา 6 เดือนแล้ว รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงควรที่จะมีการชี้แจงงานที่ตนเองทำมีอะไรบ้าง เท่าที่รับฟังจากคณะกรรมการรวบรวมข้อมูล แต่ละกระทรวงดำเนินงานไปมากทีเดียว แต่กลับมีเสียงวิจารณ์ว่าช่วง 6 เดือนรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลยกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งที่ความจริงรัฐบาล ทำงานไปเยอะมาก และผลงานที่ออกมาก็เป็นผลงานในนามของรัฐบาลไม่ใช่ของ พรรคประชาธิปัตย์หรือของพรรคใดพรรคหนึ่ง ขณะเดียวกันการชี้แจงคงไม่ส่งผล ให้เกิดการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในบางกระทรวงที่ ไม่มีผลงาน เพียงแต่นายกรัฐมนตรีอาจเร่งรัดให้ทำงานมากขึ้นเท่านั้น
นายสาทิตย์ กล่าวถึง ความคืบหน้าในการจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการรวบรวมผลงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้จัดประชุมคณะกรรมการฯ ไปแล้ว 2 ครั้ง และได้กำหนดกรอบไว้ว่าให้คณะกรรมการฯ ไปติดตาม ผลงานของรัฐบาลที่เกี่ยวกับนโยบายเร่งด่วน ซึ่งต้องปฏิบัติใน 1 ปีแรก ตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา และให้ดูในเรื่องของงบประมาณรายจ่ายกลางปีที่รัฐบาล เสนอต่อรัฐสภาไปจำนวน 100,000 ล้านบาท ในช่วง 1 เดือนแรกของการเป็นรัฐบาล
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการฯ ได้ตรวจสอบและกำลังจัดทำเป็นรูปเล่ม รวมทั้งจะสรุปเป็นข้อมูลครั้งสุดท้ายก่อนประชุมอีกครั้งในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับไปว่า เมื่อทำเป็นรูปเล่มแล้วต้องมีการประชาสัมพันธ์ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบด้วย โดยจะทำใน 3 รูปแบบ คือ
1.ทำเป็นเอกสารเสนอนายกรัฐมนตรี 2.ทำเป็นแผนที่จะเสนอผ่านสื่อมวลชน เช่น ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ ทำสกู๊ปสัมภาษณ์พิเศษ หรือสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์ และ 3.ผลิตเป็นสื่อ เช่น หนังสือ หรือแผ่นวีซีดี ที่จะนำไปเผยแพร่ในวิทยุชุมชน หรือเคเบิลทีวี หรือโทรทัศน์ดาวเทียม สถานีโทรทัศน์และวิทยุทั่วไป
