xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ กร้าวโผโยกย้ายตร.ขัดกม. จำเป็นต้องยับยั้ง ปัดล้วงลูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
"อภิสิทธิ์" ยอมรับในฐานะประธานกตช.พบเห็นการใช้กฏหมายโดยขาดความรอบคอบ จึงจำเป็นต้องยับยั้ง ไม่ใช่ล้วงโผนายพล ยันป๋าเติ้งส่งคนปรับความเข้าใจแล้ว ปฏิเสธไม่เคยให้สัมภาษณ์ตำหนินายกฯ มั่นใจเถียรภาพพรรคร่วมเหนียวแน่น

วานนี้(12 ส.ค.) ที่หน้าบ้านพักซอยสุขุมวิท 31 นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนาย บรรหาร ศิลปอาชา แกนพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายกฯเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจมากเกินไปว่า เรื่องตำรวจไม่มี วันก่อนนายบรรหารให้คนมาบอกตนว่า ที่มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไปลงเป็นบทสัมภาษณ์ ท่านบอกว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ใช่ที่นายบรรหารได้ให้สัมภาษณ์พิเศษในหนังสือพิมพ์ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ครับ ท่านให้คนมาบอกว่า ท่านไม่ได้ให้สัมภาษณ์เลย” เมื่อถามต่อว่า รวมถึงเรื่องที่นายบรรหารบอกว่าไม่อยากให้นายกฯไปยุ่งกับโผโยกย้ายตำรวจด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “นั่นแหละครับ ไม่เห็นมีอะไร และผมก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย”

เมื่อ ถามว่า แต่นายบรรหารแนะนำให้นายกฯฟังหลายฝ่ายให้มากขึ้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะนายบรรหารให้คนมาบอกว่า ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ท่านบอกว่ามีเรื่องที่ไปเข้าใจว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นไปพาดพิงอะไรเกี่ยว กับเรื่องท่องเที่ยว มีการคุยกันเฉพาะในกรอบนั้น แต่ไปลงเป็นเรื่องอื่นหมด

เมื่อถามว่า แต่อีกไม่กี่วันหลังจากนั้น นาย วัรชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ออกมาแถลงข่าวที่ที่ทำการพรรค และพูดทำนองเดียวกันด้วยว่า นายกฯไม่ควรไปแทรกแทรงโผตำรวจ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ถูกต้อง ก็ไม่มีใครเข้าไปแทรกแซงตำรวจ ก็ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกัน เมื่อถามว่า แสดงว่านายกฯยังมั่นใจในพรรคร่วมใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา มีความเข้าใจกัน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แต่ภาพที่ออกมา ดูเหมือนนายกฯลงไปจัดการกับโผตำรวจเอง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับโผตำรวจเลย ตนมีหน้าที่เดียวคือให้คดียิงนาย สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯเดินได้ ส่วนเรื่องตำรวจมี 2 ประเด็นที่เป็นเชิงนโยบาย ไม่ได้เป็นเรื่องตัวบุคคล คือ 1.การ โยกย้ายแต่งตั้ง เนื่องจากมีความคาบเกี่ยวกับการจัดโครงสร้างตำรวจใหม่ ที่ต้องให้มีความระมัดระวังในข้อกฎหมาย เหตุผลที่ทำอันนี้บอกตรงๆเลยว่า เพราะที่ผ่านมา ตนนั่งเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(กตช.) หลายครั้ง เห็นความไม่รอบคอบในเรื่องกฎหมาย เสนอเรื่องเข้ามาในกตช. 2 ครั้ง ที่ตนเห็นว่าขัดต่อกฎหมาย สุดท้ายต้องยับยั้งไป ดังนั้นไม่อยากให้เกิดปัญหา เพราะรัฐบาลต้องทำตามกฎหมาย และ 2.มัน มาซ้อนกับการโยกย้ายประจำปี คือต้องคิดถึงอนาคตที่เราต้องมีผู้บริหารสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สต ช.) ถ้าไปทำอะไรไว้ ผู้บริหารใหม่เข้ามาบริหารงานไม่ได้ งานก็เสียหายเท่านั้นเอง ตนไม่ได้ไปดูเลยว่าตัวบุคคลใครเป็นใคร

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันมีเพียง 2 เรื่องเท่านั้นเอง ที่ดูแลให้เรียบร้อย และไม่ต้องการให้กระบวนการตรงนี้ไปข่มขวัญคนที่เขาทำคดี เพราะเขากลัวเรื่องนี้ ว่าทำคดีไป เดี๋ยวมีเสียงพูดจากฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ว่าเขาจะถูกลงโทษอะไรต่างๆ ตนก็บอกว่าต้องไม่ให้มีเรื่องพวกนี้ แต่ตนไม่ได้ไปแทรกแซงเรื่องตัวบุคคล เมื่อถามว่า แต่ดูเหมือนนายกฯไปใส่ใจคดีใดคดีหนึ่งเป็นการเฉพาะ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้มีอยู่ 3-4 คดี ที่ตนติดตามอยู่ บังเอิญสื่อไปสนใจคดีนายสนธิมากเป็นพิเศษ มีคดีอื่นอีกที่ตนติดตามอยู่ เพราะเป็นผลกระทบต่อผลประโยชน์ชาติ ซึ่งหากไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างดีแล้วมันเสียหายกับส่วนรวม ส่วนคดีนายสนธิก็พอใจในระดับหนึ่ง เพราะคิดว่ามันยังมีมากกว่านี้ ก็ต้องให้เขาเดินต่อ คือ1.การออกหมายจับ ก็ต้องพยายามจับให้ได้ และ2.พยายามขยายผล

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะกำชับคนรอบข้างไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซงโผตำรวจอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็ชัดเจน อย่าไปยุ่ง เรื่องของการเมืองเข้าไปแทรกแซงเรื่องตัวบุคคลนั้นไม่ควร แต่ตนดูในเชิงนโยบายเท่านั้นเองว่า อย่าไปทำอะไรผิดกฎหมาย ซึ่งต้องท้วงติงกัน เช่น เรื่องคุณสมบัติ ก็ต้องท้วงติงกันไป ว่าไปยกเว้นรวมๆไม่ได้ กฎหมายระบุว่าให้ยกเว้นเฉพาะรายเป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น