นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างการทำงานช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาว่า ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ได้ทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างใกล้ชิด และไม่ได้มีปัญหาอะไรรุนแรงอย่างที่มีบางฝ่ายเอามาพูดขยายผล เพราะการทำงานที่ผ่านมาทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการจัดตั้งรัฐบาลที่มีหลายพรรคการเมืองมาร่วม ความคิดเห็นต่างๆย่อมแตกต่างกันบ้าง แต่เมื่อเรายึดหลักประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง และทุกอย่างทำด้วยเหตุผล ด้วยความถูกต้อง ก็รับกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ ตนพยายามประสานให้ทุกพรรคการเมือง ทำงานด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน และจะพยายามทำหน้าที่นี้ต่อไปให้ดีที่สุด โดยมั่นใจว่าจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น
"ทุกวันมีคนพยายามที่จะเอาแต่เรื่องพรรค์อย่างนี้มาพูดทุกวัน เพื่อให้เห็นว่าเป็นเรื่องตื่นเต้น ผมคิดว่ามันไม่ได้ประโยชน์อะไร และผมไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่ผมยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง รัฐบาลไม่มีความแตกแยก ผมคุยกันด้วยดีตลอด" นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎกติกาใหม่จะต้องเรียบร้อยก่อน จึงจะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของตน เพราะตนมีหน้าที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเพียงพอที่จะผลักดันนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ และประชาชน ดังนั้นอย่ารีบพูดว่า มีกติกาใหม่แล้วจะมีการเลือกตั้งทันที หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ทำอะไรให้เสร็จเรียบร้อย จึงไม่ควรคิดอะไรดักไว้ล่วงหน้า
ส่วนการทำงานการเมืองในส่วนของพรรค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ยังมี ส.ส.น้อย จะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ในพื้นที่ต่างๆ ยอมรับว่าความนิยมของประชาชนต่อพรรค การเมืองย่อมแตกต่างกันไป ดังนั้นขออย่าย้ำมาก เพราะคนจะยิ่งรู้สึกกันมาก ทั้งนี้ตนอยู่พรรคประชาธิปัตย์มา 31 ปีแล้ว เห็นว่า พรรคมีส.ส.ในพื้นที่อีสานไม่มาก โดยครั้งที่มี ส.ส.อีสานมากที่สุดก็ประมาณ 17 -18 คน และตอนนี้มี 8 คน ก็พอใจ แต่ถ้าประชาชนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานดี มีผลงานแล้วจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น เรายิ่งพอใจมากขึ้น
"ต้องยอมรับว่า เรื่องการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่มีตัวแปรหลายประการ เช่น ผู้สมัครต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีความรู้ ความสามารถเป็นที่ยอมรับของประชาชน แต่คนเหล่านี้ไม่อยากมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอุดมการณ์ไม่สอดคล้องกัน หรือคนที่มีอุดมการณ์เดียวกับพรรค ก็ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะได้รับการยอมรับจากประชาชน" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนกรณีที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณลงพื้นที่ภาคอีสานจำนวนมาก จะสามารถซื้อใจประชาชนชาวอีสานได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า การนำงบประมาณลงไปช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้เพื่อแลกกับคะแนนเสียง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลของคนทุกภาคทุกจังหวัด เพียงแต่เห็นว่าชาวอีสานมีปัญหาเรื่องน้ำที่จะใช้ทำการเกษตร หากจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำต้องใช้งบประมาณถึง 2 แสนกว่าล้านบาท รัฐบาลจึงได้ทุ่มงบประมาณในส่วนนี้ เพื่อให้ประชาชนชาวอีสานได้มีน้ำใช้ในการทำนา ทำเกษตรต่าง ๆ จะได้มีรายได้ดีขึ้น แต่เมื่อทำไปแล้วประชาชนจะลงคะแนนเสียงให้หรือไม่ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงผลการสำรวจความเห็นประชาชนที่ยังไม่ค่อยพอใจผลการทำงานของรัฐบาล และมองว่ามีการแบ่งผลประโยชน์กันว่า ไม่ทราบว่าโพลจะเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลไม่ได้ย่อท้อ จะเร่งทำงานต่อไป และยิ่งโพลบอกว่ารัฐบาลคะแนนนิยมน้อย เรายิ่งมุมานะทำงานให้มากยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันด้วยว่า ตอนนี้สุขภาพดีแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำงานหนักจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล โดยตอนนี้หายป่วย และพร้อมที่จะลุยงานต่อ
ทั้งนี้ ตนพยายามประสานให้ทุกพรรคการเมือง ทำงานด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน และจะพยายามทำหน้าที่นี้ต่อไปให้ดีที่สุด โดยมั่นใจว่าจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น
"ทุกวันมีคนพยายามที่จะเอาแต่เรื่องพรรค์อย่างนี้มาพูดทุกวัน เพื่อให้เห็นว่าเป็นเรื่องตื่นเต้น ผมคิดว่ามันไม่ได้ประโยชน์อะไร และผมไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร แต่ผมยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง รัฐบาลไม่มีความแตกแยก ผมคุยกันด้วยดีตลอด" นายสุเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎกติกาใหม่จะต้องเรียบร้อยก่อน จึงจะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่หน้าที่ของตน เพราะตนมีหน้าที่ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเพียงพอที่จะผลักดันนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ และประชาชน ดังนั้นอย่ารีบพูดว่า มีกติกาใหม่แล้วจะมีการเลือกตั้งทันที หรือไม่ เพราะขณะนี้ยังไม่ได้ทำอะไรให้เสร็จเรียบร้อย จึงไม่ควรคิดอะไรดักไว้ล่วงหน้า
ส่วนการทำงานการเมืองในส่วนของพรรค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ยังมี ส.ส.น้อย จะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ในพื้นที่ต่างๆ ยอมรับว่าความนิยมของประชาชนต่อพรรค การเมืองย่อมแตกต่างกันไป ดังนั้นขออย่าย้ำมาก เพราะคนจะยิ่งรู้สึกกันมาก ทั้งนี้ตนอยู่พรรคประชาธิปัตย์มา 31 ปีแล้ว เห็นว่า พรรคมีส.ส.ในพื้นที่อีสานไม่มาก โดยครั้งที่มี ส.ส.อีสานมากที่สุดก็ประมาณ 17 -18 คน และตอนนี้มี 8 คน ก็พอใจ แต่ถ้าประชาชนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานดี มีผลงานแล้วจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น เรายิ่งพอใจมากขึ้น
"ต้องยอมรับว่า เรื่องการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่มีตัวแปรหลายประการ เช่น ผู้สมัครต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีความรู้ ความสามารถเป็นที่ยอมรับของประชาชน แต่คนเหล่านี้ไม่อยากมาอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอุดมการณ์ไม่สอดคล้องกัน หรือคนที่มีอุดมการณ์เดียวกับพรรค ก็ยังไม่เข้มแข็งพอที่จะได้รับการยอมรับจากประชาชน" เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนกรณีที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณลงพื้นที่ภาคอีสานจำนวนมาก จะสามารถซื้อใจประชาชนชาวอีสานได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า การนำงบประมาณลงไปช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้เพื่อแลกกับคะแนนเสียง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาลของคนทุกภาคทุกจังหวัด เพียงแต่เห็นว่าชาวอีสานมีปัญหาเรื่องน้ำที่จะใช้ทำการเกษตร หากจะแก้ปัญหาเรื่องน้ำต้องใช้งบประมาณถึง 2 แสนกว่าล้านบาท รัฐบาลจึงได้ทุ่มงบประมาณในส่วนนี้ เพื่อให้ประชาชนชาวอีสานได้มีน้ำใช้ในการทำนา ทำเกษตรต่าง ๆ จะได้มีรายได้ดีขึ้น แต่เมื่อทำไปแล้วประชาชนจะลงคะแนนเสียงให้หรือไม่ ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงผลการสำรวจความเห็นประชาชนที่ยังไม่ค่อยพอใจผลการทำงานของรัฐบาล และมองว่ามีการแบ่งผลประโยชน์กันว่า ไม่ทราบว่าโพลจะเป็นอย่างไร แต่รัฐบาลไม่ได้ย่อท้อ จะเร่งทำงานต่อไป และยิ่งโพลบอกว่ารัฐบาลคะแนนนิยมน้อย เรายิ่งมุมานะทำงานให้มากยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันด้วยว่า ตอนนี้สุขภาพดีแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำงานหนักจนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล โดยตอนนี้หายป่วย และพร้อมที่จะลุยงานต่อ