ASTVผู้จัดการรายวัน –เผย 6 เดือนแรกของปีนี้ทั้งยอดใช้ไฟฟ้าและน้ำมันยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยยอดใช้ ติดลบ 3.78% คาดทั้งปีติดลบไม่เกิน 2.52% ตามตัวเลขจีดีพีซึ่งถือเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 10 ปี เช่นเดียวกับยอดการใช้น้ำมันเดือนมิ.ย.ที่ปรับลดลงทุกตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ชี้ ปลายปีมีโอกาสเห็นดีเซล 30 บาทต่อลิตร
นายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เปิดเผยว่า ยอดการใช้ไฟฟ้าช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.52)ติดลบ 3.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่ายอดการใช้ไฟฟ้าทั้งปี52นี้ น่าจะติดลบไม่เกิน 2.52% จากช่วงต้นปีที่ประเมินว่ายอดการใช้ไฟฟ้าทั้งปีจะติดลบสูงถึง 4% เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ดีขึ้นเช่นสภาพอากาศและเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตามยอดใช้ไฟฟ้าที่ติดลบนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีนับจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ที่ยอดใช้ไฟติดลบ 2.65%
ทั้งนี้ ยอดการใช้ไฟฟ้าของปีนี้เดือนม.ค.ติดลบ 13.28% เดือนก.พ.ติดลบ 0.03% เดือนมี.ค.ติดลบ 3.08% เดือนเม.ย.ติดลบ 3.4% เดือนพ.ค.ติดลบ 2.16% และเฉพาะเดือนมิ.ย.ติดลบ 0.92% ซึ่งจะเห็นได้ว่ายอดการใช้ไฟฟ้าเริ่มมีแนวโน้มติดลบน้อยลงเรื่อยๆส่งผลให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าขณะนี้อยู่ที่ระดับ 29% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณสำรองอยู่ที่ 15% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงเพราะเริ่มเข้าสู่หน้าฝนแล้ว
รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)แจ้งว่า ยอดการใช้น้ำมันเดือนมิ.ย.(20 มิ.ย.)เป็นดังนี้ ยอดการใช้น้ำมันเบนซินเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 20.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 20.8 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 0.9% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แต่ยอดการใช้น้ำมันตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 21.1 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9%ยอดการใช้น้ำมันดีเซลเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 51.3 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 54 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 5% โดยยอดการใช้น้ำมันดีเซลรวมตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 53 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.1%
สำหรับยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์เดือนมิ.ย.อยู่ที่ 11.9 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 12.2 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 2.2% โดยยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 12.4 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 57.2% ส่วนยอดการใช้น้ำมันไบโอดีเซล(บี5)เดือนมิ.ย.อยู่ที่ 25.69 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 25.78 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 0.3% แต่ยอดการใช้รวมตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 22.56 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 190.6%
น.พ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงานกล่าวว่า ขณะนี้สนพ.ได้ประกาศราคาเอทานอลอ้างอิงเดือนก.ค.มีผลตั้งแต่ 3 ก.ค.นี้ที่ระดับ 20.70 บาทต่อลิตรหรือปรับขึ้นประมาณ 60 สตางค์ต่อลิตรตามต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเกรงว่าเอทานอลอาจจะขาดแคลนเพราะวัตถุดิบราคาสูงนั้น เชื่อว่าปีนี้ประเทศไทยจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนเอทานอลแน่นอน
เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตเอทานอลจากโรงงานมันสำปะหลังเพิ่มอีก 2 โรง รวมเป็น 6 โรงงาน จากจำนวนเอทานอลปีนี้มีประมาณ 15 โรงงาน และการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง ปัจจุบันมีประมาณ 560,000 ลิตรต่อวัน และหากอีก 2 โรง สามารถผลิตได้ในภายใน 1-2 เดือนนี้ กำลังการผลิตจากมันสำปะหลังจะเพิ่มอีก 450,000 ลิตรต่อวัน จึงมั่นใจว่าจะเพียงพอ
นายพิบูลย์ บัวแช่ม ผู้ช่วยผู้ว่าการควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เปิดเผยว่า ยอดการใช้ไฟฟ้าช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.52)ติดลบ 3.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่ายอดการใช้ไฟฟ้าทั้งปี52นี้ น่าจะติดลบไม่เกิน 2.52% จากช่วงต้นปีที่ประเมินว่ายอดการใช้ไฟฟ้าทั้งปีจะติดลบสูงถึง 4% เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ดีขึ้นเช่นสภาพอากาศและเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตามยอดใช้ไฟฟ้าที่ติดลบนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีนับจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ที่ยอดใช้ไฟติดลบ 2.65%
ทั้งนี้ ยอดการใช้ไฟฟ้าของปีนี้เดือนม.ค.ติดลบ 13.28% เดือนก.พ.ติดลบ 0.03% เดือนมี.ค.ติดลบ 3.08% เดือนเม.ย.ติดลบ 3.4% เดือนพ.ค.ติดลบ 2.16% และเฉพาะเดือนมิ.ย.ติดลบ 0.92% ซึ่งจะเห็นได้ว่ายอดการใช้ไฟฟ้าเริ่มมีแนวโน้มติดลบน้อยลงเรื่อยๆส่งผลให้ปริมาณสำรองไฟฟ้าขณะนี้อยู่ที่ระดับ 29% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณสำรองอยู่ที่ 15% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงเพราะเริ่มเข้าสู่หน้าฝนแล้ว
รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)แจ้งว่า ยอดการใช้น้ำมันเดือนมิ.ย.(20 มิ.ย.)เป็นดังนี้ ยอดการใช้น้ำมันเบนซินเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 20.6 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 20.8 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 0.9% ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 แต่ยอดการใช้น้ำมันตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 21.1 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9%ยอดการใช้น้ำมันดีเซลเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 51.3 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 54 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 5% โดยยอดการใช้น้ำมันดีเซลรวมตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 53 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.1%
สำหรับยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์เดือนมิ.ย.อยู่ที่ 11.9 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 12.2 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 2.2% โดยยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 12.4 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 57.2% ส่วนยอดการใช้น้ำมันไบโอดีเซล(บี5)เดือนมิ.ย.อยู่ที่ 25.69 ล้านลิตรต่อวัน ลดลงจากเดือนพ.ค.ที่อยู่ 25.78 ล้านลิตรต่อวัน หรือลดลง 0.3% แต่ยอดการใช้รวมตั้งแต่เดือนม.ค.-20 มิ.ย.อยู่ที่ 22.56 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 190.6%
น.พ. วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงานกล่าวว่า ขณะนี้สนพ.ได้ประกาศราคาเอทานอลอ้างอิงเดือนก.ค.มีผลตั้งแต่ 3 ก.ค.นี้ที่ระดับ 20.70 บาทต่อลิตรหรือปรับขึ้นประมาณ 60 สตางค์ต่อลิตรตามต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเกรงว่าเอทานอลอาจจะขาดแคลนเพราะวัตถุดิบราคาสูงนั้น เชื่อว่าปีนี้ประเทศไทยจะไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนเอทานอลแน่นอน
เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตเอทานอลจากโรงงานมันสำปะหลังเพิ่มอีก 2 โรง รวมเป็น 6 โรงงาน จากจำนวนเอทานอลปีนี้มีประมาณ 15 โรงงาน และการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง ปัจจุบันมีประมาณ 560,000 ลิตรต่อวัน และหากอีก 2 โรง สามารถผลิตได้ในภายใน 1-2 เดือนนี้ กำลังการผลิตจากมันสำปะหลังจะเพิ่มอีก 450,000 ลิตรต่อวัน จึงมั่นใจว่าจะเพียงพอ
