"นช.แม้ว" เหิมหนักโฟนอินปลุกเพื่อไทยสั่งต่อยอดชนะเลือกตั้งซ่อม 2 เสียง ล้มรัฐบาลใน 3 เดือน เชื่อ "มาร์ค"ไม่รอดทั้งปัญหาเศรษฐกิจและผลประโยชน์ของพรรคร่วม ลั่นห้ามรับก๊กเนวินเข้ารัง ขณะที่คนตระกูล "ชินวัตร" เดินแผนทาบ "เสนาะ-ประชา" ร่วมก๊วน เจ้าตัวแบะท่ารับแต่ขอมีอำนาจคุมเบ็ดเสร็จ หวังดึง พท.ตั้งรัฐบาลร่วม ปชป. ด้าน "อภิสิทธิ์"ไม่กังวล "นช.แม้ว" เคลื่อนไหว บอกอยากให้กลับประเทศมารับโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมพรรคเพื่อไทย วานนี้ (30 มิ.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินเข้ามาที่ประชุมพรรคว่า การยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเรื่องของภาคประชาชน ทำให้เห็นน้ำใจเพื่อเอาคนที่เขาเชื่อว่า สามารถ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้กลับมาทำงานให้เขา และยังเห็นว่า ในช่วง 3 เดือนจากนี้ ต้องจับตาปัญหาเศรษฐกิจที่สถานการณ์จะหนักขึ้น เมื่อบวกกับโครงสร้างรัฐบาล ที่มีความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมกับพรรคแกนนำ ที่แตกแยกกันเรื่องการประมูลข้าว ข้าวโพดที่มีการทุจริต เมื่ออีกฝ่ายต้องการประโยชน์เมื่อถูกสื่อวิจารณ์ก็เคลียร์กันไม่จบ ขายไม่ได้และผลผลิตใหม่ก็กำลังจะออกมา นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ไปจับ ทำให้ขายของไม่ได้ ดังนั้น 3 เดือนนี้จากนี้ปัญหาเศรษฐกิจจะหนัก และขอให้นำผลการเลือกตั้งซ่อม ที่พรรคชนะจ.ศรีสะเกษและจ.สกลนครไปขยายผลในช่วง 3 เดือนนี้ เพราะแค่ชนะก็ทำให้รัฐบาลสะเทือนหนัก
ส่วนคนที่ย้ายพรรคออกไปนั้นจะไม่มีทางรับกลับแน่ โดยเฉพาะคนที่โหวตเลือกนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าจะกลับมาก็ต้องตัดมือทิ้งก่อน
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ส.ส.พรรค โดยชี้ว่า ถ้าตนเข้ามาแก้เองก็ไม่จำเป็นต้องกู้ เพราะเงินในโลกนี้มีเยอะแยะไปหมด ส่วนรายละเอียดนั้น จะอัดเป็นซีดีแจกให้ ส.ส.ไปชี้แจงกับชาวบ้านต่อไป
มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้แกนนำพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะสายชินวัตร เช่น นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นางเยาวภา นายสมชาย วงศ์สวสัดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แกนนำกลุ่มในพรรคเพื่อแผ่นดินซึ่งมีข่าวว่าจะย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย ได้เข้าหารือกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่บ้านพักเมืองทองธานี เพื่อติดต่อให้เข้าร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง หลังจากนายเสนาะออกจากพรรคไทยรักไทย
โดยทั้งหมดได้บอกกับนายเสนาะ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอเชิญให้กลับมา พรรเพื่อไทย เพื่อรับตำแหน่งคณะผู้บริหารพรรค จะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค หรือ หัวหน้าพรรคในอนาคต เพราะเห็นว่า นายเสนาะเคยร่วมตั้งพรรคไทยรักไทยมาด้วยกัน และเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของส.ส.ในพรรค โดยนายเสนาะ มีท่าทีตอบรับ เพียงแต่ มีเงื่อนไขสองข้อ คือ 1. ถ้าอยู่ในพรรคแล้วต้องมีอำนาจจัดการ ไม่ใช่เป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ และ 2. ถ้าเข้ามาแล้วต้องไม่มีเสียงคัดค้านในพรรคโดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรค ซึ่งเป็นแม่ทัพภาคอีสานในการเลือกตั้งซ่อม ที่ผ่านมาและจองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งทางพี่น้องพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่มีท่าทีคัดค้าน
ทั้งนี้ นายเสนาะ ระบุว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และตนมีอำนาจตัดสินใจในพรรค หากจะทำตามที่เคยประกาศไว้ คือ การตั้งรัฐบาลสมานฉันท์คือ พรรคเพือ่ไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นไปได้เหรือไม่ เพราะถ้าสถานการณ์ยังเป็นการแบ่งสี แล้วมีการเลือกตั้งปัญหาก็ไม่จบเพราะจะเป็นการเลือกระหว่างสีเหลืองกับสีแดง ซึ่งบรรดาน้องๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ปฏิเสธนายเสนาะ โดยบอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์
อย่างไรก็ตาม ในการหารือดังกล่าวได้มีการพูดถึงจังหวะที่นายเสนาะเข้าพรรคเพื่อไทยว่า จะดูจังหวะเวลาการวินิจฉัยของ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ที่นายเสนาะติดอยู่ในบัญชี ส.ส.ที่กกต.กำลังตรวสอบเพราะมีหุ้นสัมปทานกับรัฐ ซึ่งเมื่อดูเงื่อนไขทางกฎหมายแล้ว หากนายเสนาะหมดสมาชิกภาพ ก็สามารถอยู่กับพรรคได้ทันที โดยอาจรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค และถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจะให้คนตระกูลเทียนทองเข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นายเสนาะได้นัดรับประทานอาหารกับ กลุ่ม สว.อีสาน ประมาณ 10 คนในวันที่ 2 ก.ค.นี้ นอกจากนี้ได้มีอดีต สส.อีสาน พรรคไทยรักไทย ที่ย้ายออกจากได้ติดต่อขอกลับเข้ามาพรรคจำนวนมาก โดยเฉพาะที่เคยย้ายไปอยู่ พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่มี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ย้ายกลับไปพรรคเพื่อไทย แต่จะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในภาคอีสานและภาคกลาง ย้ายมา พรรคภูมิใจไทย 4 คน ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เพราะจะรอให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยรายชื่อ ส.ส.ที่ย้ายไป 11 คนก่อน ซึ่งหลังเทศกาลเข้าพรรษา พรรคภูมิใจไทยจะลงพื้นที่สู้ศึกเลือกตั้งล่วงหน้า เพื่อชี้ให้ประชาชนทราบว่าเราไม่ใช้คนทรยศ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นคนทำเพื่อรักษาประเทศ รวมทั้งบอกถึงผลงานของพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ทราบข่าวเช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากดูไบมาอยู่ในเอาเซีย แต่ไม่ทราบรายละเอียดแต่การโฟนอิน อยู่ไหนก็ทำได้ และถ้าเราทราบว่าอยู่ที่ไหนก็จะขอความร่วมมือประเทศนั้นๆ ว่า อย่าทำอะไรให้กระทบกระเทือนความมั่นคงของเรา และถ้ามีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ขอให้ส่งตัวมา เป็นเรื่องของหน่วยงานที่ติดตามตัวอยู่
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันไม่หวั่นวิตกกรณี พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเข้าประเทศ เพราะเราเป็นฝ่ายที่บอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาในประเทศ ไม่ใช่ว่าเราห้ามหรือกลัวว่าจะเข้ามา ตนบอกตลอดว่าอดีตนายกฯควรกลับมารับโทษ และถ้าท่านมาก็ตรงกับแนวคิดตน
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สื่อสารกับประชาชนว่าต้องกลับมาเพื่อล้างหนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อไว้ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า แปลงดีเพราะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ความจริงที่เกิดปัญหาครั้งที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ไปกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ แต่เราก็เข้าใจคนที่ไปกู้ว่ามีความจำเป็นในการแก้ปัญหาและต่อมารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำงาจนสามารถหยุดกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ และสามารถใช้หนี้คืนได้ก่อนกำหนด ดังนั้นความพร้อมในการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟเสร็จกิ่นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามา และเมื่อตอนพ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลก็กู้มามหาศาล ออกพ.ร.ก.กู้เงิน 7.8 แสนล้านบาท ทำงบฯขาดดุล 3-4 ปี แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าจริ งๆแล้วรัฐบาลตั้งใจนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาลงโทษจริง หรือไม่ หรือ ไม่กล้าทำเนื่องจากกลัวบ้านเมืองลุกเป็นไฟ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจจริงที่จะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาลงโทษ ไม่ได้กลัวอะไร ซึ่งตนคิดว่าที่ดีที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ควรกลับมารับโทษตามกฎหมาย เพราะจะช่วยทำให้ทุกคนยอมรับกติกาว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมพรรคเพื่อไทย วานนี้ (30 มิ.ย.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินเข้ามาที่ประชุมพรรคว่า การยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเรื่องของภาคประชาชน ทำให้เห็นน้ำใจเพื่อเอาคนที่เขาเชื่อว่า สามารถ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้กลับมาทำงานให้เขา และยังเห็นว่า ในช่วง 3 เดือนจากนี้ ต้องจับตาปัญหาเศรษฐกิจที่สถานการณ์จะหนักขึ้น เมื่อบวกกับโครงสร้างรัฐบาล ที่มีความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมกับพรรคแกนนำ ที่แตกแยกกันเรื่องการประมูลข้าว ข้าวโพดที่มีการทุจริต เมื่ออีกฝ่ายต้องการประโยชน์เมื่อถูกสื่อวิจารณ์ก็เคลียร์กันไม่จบ ขายไม่ได้และผลผลิตใหม่ก็กำลังจะออกมา นายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ไปจับ ทำให้ขายของไม่ได้ ดังนั้น 3 เดือนนี้จากนี้ปัญหาเศรษฐกิจจะหนัก และขอให้นำผลการเลือกตั้งซ่อม ที่พรรคชนะจ.ศรีสะเกษและจ.สกลนครไปขยายผลในช่วง 3 เดือนนี้ เพราะแค่ชนะก็ทำให้รัฐบาลสะเทือนหนัก
ส่วนคนที่ย้ายพรรคออกไปนั้นจะไม่มีทางรับกลับแน่ โดยเฉพาะคนที่โหวตเลือกนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าจะกลับมาก็ต้องตัดมือทิ้งก่อน
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ส.ส.พรรค โดยชี้ว่า ถ้าตนเข้ามาแก้เองก็ไม่จำเป็นต้องกู้ เพราะเงินในโลกนี้มีเยอะแยะไปหมด ส่วนรายละเอียดนั้น จะอัดเป็นซีดีแจกให้ ส.ส.ไปชี้แจงกับชาวบ้านต่อไป
มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้แกนนำพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะสายชินวัตร เช่น นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นางเยาวภา นายสมชาย วงศ์สวสัดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แกนนำกลุ่มในพรรคเพื่อแผ่นดินซึ่งมีข่าวว่าจะย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย ได้เข้าหารือกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่บ้านพักเมืองทองธานี เพื่อติดต่อให้เข้าร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง หลังจากนายเสนาะออกจากพรรคไทยรักไทย
โดยทั้งหมดได้บอกกับนายเสนาะ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ขอเชิญให้กลับมา พรรเพื่อไทย เพื่อรับตำแหน่งคณะผู้บริหารพรรค จะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค หรือ หัวหน้าพรรคในอนาคต เพราะเห็นว่า นายเสนาะเคยร่วมตั้งพรรคไทยรักไทยมาด้วยกัน และเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของส.ส.ในพรรค โดยนายเสนาะ มีท่าทีตอบรับ เพียงแต่ มีเงื่อนไขสองข้อ คือ 1. ถ้าอยู่ในพรรคแล้วต้องมีอำนาจจัดการ ไม่ใช่เป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ และ 2. ถ้าเข้ามาแล้วต้องไม่มีเสียงคัดค้านในพรรคโดยเฉพาะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรค ซึ่งเป็นแม่ทัพภาคอีสานในการเลือกตั้งซ่อม ที่ผ่านมาและจองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ซึ่งทางพี่น้องพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่มีท่าทีคัดค้าน
ทั้งนี้ นายเสนาะ ระบุว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น และตนมีอำนาจตัดสินใจในพรรค หากจะทำตามที่เคยประกาศไว้ คือ การตั้งรัฐบาลสมานฉันท์คือ พรรคเพือ่ไทยกับพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นไปได้เหรือไม่ เพราะถ้าสถานการณ์ยังเป็นการแบ่งสี แล้วมีการเลือกตั้งปัญหาก็ไม่จบเพราะจะเป็นการเลือกระหว่างสีเหลืองกับสีแดง ซึ่งบรรดาน้องๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ปฏิเสธนายเสนาะ โดยบอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์
อย่างไรก็ตาม ในการหารือดังกล่าวได้มีการพูดถึงจังหวะที่นายเสนาะเข้าพรรคเพื่อไทยว่า จะดูจังหวะเวลาการวินิจฉัยของ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ที่นายเสนาะติดอยู่ในบัญชี ส.ส.ที่กกต.กำลังตรวสอบเพราะมีหุ้นสัมปทานกับรัฐ ซึ่งเมื่อดูเงื่อนไขทางกฎหมายแล้ว หากนายเสนาะหมดสมาชิกภาพ ก็สามารถอยู่กับพรรคได้ทันที โดยอาจรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค และถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจะให้คนตระกูลเทียนทองเข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทย
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นายเสนาะได้นัดรับประทานอาหารกับ กลุ่ม สว.อีสาน ประมาณ 10 คนในวันที่ 2 ก.ค.นี้ นอกจากนี้ได้มีอดีต สส.อีสาน พรรคไทยรักไทย ที่ย้ายออกจากได้ติดต่อขอกลับเข้ามาพรรคจำนวนมาก โดยเฉพาะที่เคยย้ายไปอยู่ พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคเพื่อแผ่นดิน
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่มี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ย้ายกลับไปพรรคเพื่อไทย แต่จะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในภาคอีสานและภาคกลาง ย้ายมา พรรคภูมิใจไทย 4 คน ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เพราะจะรอให้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยเปิดเผยรายชื่อ ส.ส.ที่ย้ายไป 11 คนก่อน ซึ่งหลังเทศกาลเข้าพรรษา พรรคภูมิใจไทยจะลงพื้นที่สู้ศึกเลือกตั้งล่วงหน้า เพื่อชี้ให้ประชาชนทราบว่าเราไม่ใช้คนทรยศ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นคนทำเพื่อรักษาประเทศ รวมทั้งบอกถึงผลงานของพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ทราบข่าวเช่นกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากดูไบมาอยู่ในเอาเซีย แต่ไม่ทราบรายละเอียดแต่การโฟนอิน อยู่ไหนก็ทำได้ และถ้าเราทราบว่าอยู่ที่ไหนก็จะขอความร่วมมือประเทศนั้นๆ ว่า อย่าทำอะไรให้กระทบกระเทือนความมั่นคงของเรา และถ้ามีข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ขอให้ส่งตัวมา เป็นเรื่องของหน่วยงานที่ติดตามตัวอยู่
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันไม่หวั่นวิตกกรณี พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเข้าประเทศ เพราะเราเป็นฝ่ายที่บอกให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาในประเทศ ไม่ใช่ว่าเราห้ามหรือกลัวว่าจะเข้ามา ตนบอกตลอดว่าอดีตนายกฯควรกลับมารับโทษ และถ้าท่านมาก็ตรงกับแนวคิดตน
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สื่อสารกับประชาชนว่าต้องกลับมาเพื่อล้างหนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อไว้ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า แปลงดีเพราะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ความจริงที่เกิดปัญหาครั้งที่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ไปกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ แต่เราก็เข้าใจคนที่ไปกู้ว่ามีความจำเป็นในการแก้ปัญหาและต่อมารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำงาจนสามารถหยุดกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ และสามารถใช้หนี้คืนได้ก่อนกำหนด ดังนั้นความพร้อมในการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟเสร็จกิ่นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามา และเมื่อตอนพ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลก็กู้มามหาศาล ออกพ.ร.ก.กู้เงิน 7.8 แสนล้านบาท ทำงบฯขาดดุล 3-4 ปี แต่ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าจริ งๆแล้วรัฐบาลตั้งใจนำตัวพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาลงโทษจริง หรือไม่ หรือ ไม่กล้าทำเนื่องจากกลัวบ้านเมืองลุกเป็นไฟ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลตั้งใจจริงที่จะนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาลงโทษ ไม่ได้กลัวอะไร ซึ่งตนคิดว่าที่ดีที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ควรกลับมารับโทษตามกฎหมาย เพราะจะช่วยทำให้ทุกคนยอมรับกติกาว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย
