xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คยอมแก้กม.กบข.ห้ามบิ๊กเล่นหุ้น-ม็อบสลายตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ตัวแทนสมาชิก กบข.นับพันสลาย หลังยื่นหนังสือให้รัฐบาลแก้ไข 6 ข้อ ทั้งการคำนวณเงินบำนาญ สิทธิประโยชน์และดำเนินคดีบิ๊ก กบข.ขั้นเด็ดขาด ที่ประชุมใหญ่ประจำปีโวยขาดทุน 1.86 หมื่นล้าน แถมไม่รับรองงบดุล ประธานบอร์ดเด้งรับออกกฎห้ามบอร์ดและเลขาฯ กบข. "เล่นหุ้น" พร้อมแก้ไข พ.ร.บ.กบข.เพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิก "มาร์ค-กรณ์" สลายม็อบพร้อมยาหอมดูแลความมั่นคงในชีวิต เดินหน้าแก้กฎหมายวาระ 2 ชงสภาฯ ส.ค.นี้ แกนนำ กบข.อ้าง นายกฯ ให้ย้ายกองทุนไปกองทุนอื่นได้

เช้าวานนี้ (29 มิ.ย.) นายวิศร์ อัครสันตติกุล ประธานองค์กรเครือข่ายสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) นำสมาชิก กบข.ทั่วประเทศกว่า 1,000 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำ ร่วมชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า พร้อมมีการนำรถ 6 ล้อ ติดตั้งเครื่องขยายเสียงปราศรัยโจมตีการบริหารงานของ กบข.ที่บริหารงานขาดทุน ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล ฝั่งสะพานชมัยมรุเชษฐ์ เพื่อเข้ายื่นหนังสือให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้กับสมาชิก กบข. รวม 6 ข้อ ประกอบด้วย
1.ให้แก้ไขการคำนวณเงินบำนาญในอัตราใหม่ให้เป็นธรรม โดยแก้ไขมาตรา 63 ของ พ.ร.บ.กบข. 2539 2.แก้ไขการได้รับสิทธิ์และประโยชน์ กรณีสมาชิกลาออก และถึงแก่ความตาย 3.ให้ดำเนินคดีกับเลขาธิการ กบข. และคณะกรรมการที่ทำให้กองทุน กบข.ขาดทุนทุกคนอย่างเฉียบขาด 4.ให้กรรมการ กบข.ทุกคนรับผิดชอบด้วยการคืนเงินของสมาชิกที่ขาดหายไป พร้อมดอกเบี้ย 5.ใช้หลักเกณฑ์การคำนวนเงินบำนาญใหม่ซึ่งมีผลย้อนหลังและ 6.หากไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา สมาชิก กบข.ทั่วประเทศ กว่า 1.1 ล้านคน จะงดส่งเงินเข้ากองทุน และยื่นใบออกจากการเป็นสมาชิก รวมทั้งจะนัดหยุดงานและยื่นฟ้องต่อศาลเพิ่มเติม

***โวยขาดทุน 1.86 หมื่นล้าน
เวลา 10.00น. ที่กรมประสัมพันธุ์ กบข. ได้จัดประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก กบข. ประจำปี 2552 กว่า 600 คน โดยที่มีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะกรรมการ กบข.ทั้งหมด เข้าชี้แจงกับผู้แทนสมาชิก ว่าผลการดำเนินงานของ กบข.เป็นไปตามทิศทางของเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มดีขึ้น และจะมีระบบรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกมากขึ้น พร้อมกับให้สมาชิกเข้ามามีส่วนร่วม รวมทั้งจะนำข้อเสนอ 6 ข้อมาพิจารณา แต่บางประเด็นอาจต้องมีการแก้ไข ก็ต้องหารือกันในระดับนโยบาย นอกจากนี้ จะวางระบบกำกับดูแลการดำเนินงานของเลขาธิการ กบข.ให้มีความโปร่งใส
ขณะที่บรรยากาศภายในห้องประชุม สมาชิก กบข.ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นอย่างเข้มข้นและรุนแรง ถึงกรณีการบริหารงานของ กบข. ซึ่งทำให้ขาดทุนกว่า 1.86 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุม กบข. ไม่สามารถที่จะรองรับงบดุลได้ เนื่องจากเห็นว่า มีการทุจริตดังนั้นจึงต้องมีการสอบสวน อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายจะต้องเปิดประชุมใหญ่ในอีก 30 วัน
ทั้งนี้ ปัจจุบัน สมาชิก กบข.ทั่วประเทศมีทั้งสิ้น 1,180,000 คนมีเงินในกองทุนสะสม 3.9 แสนล้านบาท

***ห้ามบอร์ด-เลขาฯ กบข."เล่นหุ้น"
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการ กบข. เปิดเผยภายหลังการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกประจำปี 2552 ว่า ในที่ประชุมครั้งนี้บอร์ดได้เสนอผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องการลงทุนและการตรวจสอบการบริหาร และการชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสมาชิก พร้อมกับการรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ จากสมาชิก ซึ่งข้อสรุปจากการประชุมครั้งนี้ ทำให้ กบข.เตรียมจัดประชุมผู้แทนสมาชิกอีกครั้ง หลังได้เลขาธิการ กบข.คนใหม่แล้ว เพื่อจะได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน โดยกระบวนการสรรหา เลขาธิการคนใหม่เอง คาดจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ส.ค.นี้ โดยคุณสมบัติจะต้องมีความเชี่ยวชาญการบริหารงานการลงทุน สามารถสื่อสารให้เกิดความเข้าใจกับสมาชิกได้ และจะต้องมีธรรมาภิบาลในการบริหารงาน
สำหรับข้อเรียกร้องของสมาชิก กบข.ส่วนหนึ่งที่ขอให้ยกเลิก กบข. นั้น ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า เป็นเรื่องระดับนโยบายที่ต้องมีการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ. กบข. ซึ่งได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง และหาแนวทางดำเนินการ เพื่อให้ระบบกบข. มีการดูแลสมาชิกโดยเฉพาะผู้เกษียณอายุให้ดีที่สุด ซึ่งคงต้องใช้เวลาศึกษาระยะหนึ่งในการระดมความเห็นเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เกิดประโยชน์สูงสุด
ในขณะที่ข้อเรียกร้องของสมาชิกที่ต้องการกลับไปมีระบบบำนาญแบบเดิมนั้น ต้องขอเวลาพิจารณาก่อน ซึ่งเรื่องนี้ต้องอยูบนหลักการที่ว่า ผลจากข้อเรียกร้องไม่กระทบต่อมาตรการทางการคลังระยะยาว แต่ปัจจุบันตนขอยืนยันว่าการออมกับ กบข.มีความมั่นคงที่สุดแล้ว โดยแม้ว่าปีก่อนผลการดำเนินงานจะชะลอลงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็กลับมาเป็นบวกที่ 3% แล้ว
สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบของคณะกรรมการวินัยนายวิสิฐ ตันติสุนทร อดีตเลขาธิการ กบข. ที่มีนายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นประธานนั้น ขณะนี้ได้ขอขยายระยะเวลาเพิ่มอีก 1 เดือน เนื่องจากมีข้อเท็จจริงและบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องเข้ามาเพิ่มเติม จึงต้องใช้ขยายเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังนี้ กระบวนการตรวจสอบน่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้
ขณะเดียวกัน ในการประชุมคณะกรรมการหรือบอร์ด กบข.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 ก.ค.นี้ ตนจะนำเสนอต่อที่ประชุมให้พิจารณาระบบการตรวจสอบธรรมมาภิบาลของผู้บริหาร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุน ให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยการออกเป็นระเบียบชัดเจน ห้ามมิให้เลขาธิการ กบข.และผู้ที่มีส่วนได้เสียต่อการลงทุนของกบข. ลงทุนในตลาดหุ้นอีก โดยหากข้อเสนอนี้สามารถออกเป็นระเบียบได้ ก็จะบังคับใช้กับเลขาธิการ กบข.คนใหม่ทันที ส่วนจะรวมถึงคณะกรรมการด้วยหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานของ กบข.มีธรรมาภิบาลในทุกระดับ

***"วิสิฐ" โผล่ชี้แจงความผิดดักซื้อหุ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้นายวิสิฐ ตันติสุนทร อดีตเลขาธิการ กบข.ได้เดินทางมาชี้แจงข้อมูลแก่คณะกรรมการตรวจสอบกรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กบข.ในการรายงานการซื้อขายหุ้นเพื่อบัญชีส่วนตัวและมีกระบวนการลงทุนที่ไม่โปร่งใส ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบได้ทำหนังสือให้มาชี้แจงข้อเท็จจริง ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย โดยการเดินทางของนายวิสิฐ ได้มีการใช้ทางขึ้นลงอาคารโดยลิฟท์ใต้ดิน
ภายหลังการชี้แจงข้อมูล นายสุจินดา สุขุม ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กบข. และในฐานเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ เปิดเผยว่า การชี้แจงของนายวิสิฐในครั้งนี้ เป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นตามที่คณะกรรมการฯได้มีการสอบถามไปจำนวน 12 ข้อ โดยนายวิสิฐ ได้ชี้แจงทั้งการซักถาม และชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการสอบถามและชี้แจงข้อมูล โดยถือว่าการชี้แจงของนายวิสิฐในครั้งนี้ มีความชัดเจนและครบถ้วนทุกประเด็นที่คณะกรรมการตรวจสอบฯต้องการทราบ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบฯได้มีมติเกี่ยวกับการตรวจสอบของนายวิสิฐแล้ว ว่าเบื้องต้นจะมีการพิจารณาความผิดไปในแนวทางใด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ เพราะทางคณะกรรมการตรวจสอบฯ ได้ให้ทางฝ่ายเลขานุการไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอีก จากคำชี้แจงของนายวิสิฐ เพื่อประกอบคำวินิจฉัยในเรื่องกรณีการซื้อขายหุ้นของนายวิสิฐว่า กบข.ได้มีการเปิดเผยข้อมูลหุ้นที่จะเข้าไปลงทุนหรือไม่ จากที่นายวิสิฐชี้แจงว่า กบข.มีการเปิดเผยข้อมูลแก่ประชาชนทั่วไป ดังนั้นหากนายวิสิฐเข้าไปลงทุน ก็ถือว่าไม่ได้เป็นการเอาเปรียบกองทุนจากที่กองทุนเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน
“ประกาศของการตรวจสอบได้กำหนดว่า ในการพิจารณาตรวจสอบ ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหา ได้มีโอกาสชี้แจงข้อมูล ซึ่งทางคณะกรรมการตรวจสอบได้เชิญนายวิสิฐมาชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งมี 5 คน โดยนายวิสิฐเอง ได้มีการชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมตอบข้อสักถาม ซึ่งถือว่าชัดเจนครบทุกประเด็น แต่เราต้องมีการไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มว่าข้อมูลที่ชี้แจงนั้น จริงหรือไม่ เพื่อใช้ประกอบคำวินิจฉัยเพิ่ม จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะหากไปตรวจสอบเพิ่มข้อเท็จจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงไป” นายสุจินดากล่าว
นอกจากนี้ การพิจารณาว่าการกระทำความผิดระเบียบของกบข.ว่าด้วยการซื้อขายหุ้นของพนักงาน 2546 นั้น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กบข.หรือไม่ และหากมีแล้วจะต้องมีการให้จ่ายค่าเสียหายกับกบข.หรือไม่ เพราะบางครั้งการกระทำความผิดระเบียบ แต่ก็อาจไม่ได้ส่งผลเสียหายแก่กบข.ก็ได้ โดยคาดว่าใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมต่างๆเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ หากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเสร็จ คาดว่าจะมีการจัดทำร่างสรุปมติคำวินิจฉัยของคณะกรรมการตรวจสอบฯเสร็จ และนำมาเสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบฯพิจารณาภายในวันที่ 13-14 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้น จะมีการเสนอผลดังกล่าวให้กับ บอร์ดกบข. ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เพื่อให้ทันกับที่บอร์ด กบข.จะมีการประชุมในวันที่ 17 กรกฎาคม และจะมีการประกาศผลการตรวจสอบว่านายวิสิฐมีความผิดในเรื่องการซื้อขายหุ้น และจะต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายให้กับทาง กบข.หรือไม่

***“มาร์ค-กรณ์” ยาหอมสยบม็อบ
เวลา 13.00 น.ตัวแทนสมาชิก กบข. นำโดยนายวิศร์ และสมาชิกอีก 5 คนเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรณ์ จาติกวาณิช รมว.คลัง นายสถิตย์ และนายปณิธาน รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมหารือกว่า 30 นาที
หลังหารือนายกรณ์ พร้อมด้วยนายสถิตย์ ได้เดินเท้าไปหากลุ่มผู้ชุมนุมที่เชิงสะพาน ชมัยมรุเชษฐ์ โดยขึ้นเวทีและกล่าวว่า จากนี้ไปคณะกรรมการสอบสวนต่อพฤติกรรม ของผู้บริหารกขบ. จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน แต่จะดูข้อมูลให้ครบถ้วน อาจขยายเวลาเพื่อความรอบคอบ โดยยอมรับว่า การขาดทุนของกบข.เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่มีพฤติกรรมของฝ่ายบริหารที่ขัดต่อระเบียบของกองทุนฯ และเลขาธิการกบข.ก็ออกจากตำแหน่งไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาเลขาธิการกบข.คนใหม่ที่ตระหนักถึงคุณสมบัติที่เหมาะสมในการเข้ามาดูแลเงินก้อนโต ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต เข้าใจวิถีชีวิตและความคิดของข้าราชการ โดยขอเวลา 30 วันในการคัดสรรเลขาธิการคนใหม่ และขอเวลาอีก 30 วันในการทำงานกับเลขาฯ คนใหม่
สำหรับการแก้ไขกฎหมายที่มีความจำเป็น นายกรณ์กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสัดส่วนการคำนวณ เรื่องของสัดส่วนของคณะกรรมการ เรื่องของบทบาทของสมาชิกในคณะกรรมการ โดยเห็นว่า กระบวนการการแก้กฎหมายไม่ได้อยู่ในอำนาจของรัฐบาลเพียงผู้เดียวเพราะเป็นกลไกของรัฐสภา และการแก้กฎหมายไม่ใช่เรื่องเล็กจะต้องผ่านสภาผู้แทนฯ 3 วาระและผ่านวุฒิสภา ซึ่งระบุระยะเป็นเดือนรัฐบาลคงไม่สามารถเป็นผู้กำหนดได้ เพราะอาจจะใช้เวลานานกว่านั้น ดังนั้นจึงไม่อยากให้บีบบังคับตนในเรื่องที่ตนไม่สามารถปฏิบัติได้ ดังนั้นขอวิงวอนสมาชิก กบข.ว่าเราต้องตระหนักถึงพี่น้องร่วมชาติของเราที่ยังไม่มีสวัสดิการเมื่อเปรียบเทียบกับสมาชิกกบข.ที่เป็นข้าราชการ ดังนั้นรัฐบาลจึงมีหน้าที่ดูแลประชาชนส่วนนั้นเป็นส่วนแรก

***แก้กฎหมายวาระ 2 ชงสภาฯ ส.ค.นี้
นายออน กาจกระโทก โฆษกองค์กรเครือข่ายสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรับข้อเสนอ แต่เห็นว่า การแก้ไขการคำนวณเงินบำนาญในอัตราใหม่ให้เป็นธรรม โดยแก้ไขมาตรา 63 ของ พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)พ.ศ. 2539 นั้นขณะนี้คณะอนุกรรมาธิการซึ่งยกร่าง ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม กบข. ปี 2539 ฉบับแก้ไข ที่มีว่าที่ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีที เป็นประธานฯกำลังจะผ่านวาระ 2 เข้าสู่วาระ 3 และคาดกว่าจะเสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเดือนสิงหาคม 2552

***อ้างนายกฯ ให้ย้ายไปกองทุนอื่นได้
ทั้งนี้ ข้อเสนอที่สมาชิก กบข.จะขอลาออกจากกองทุนนั้น นายกรัฐมนตรี เห็นว่า การลาออกทำได้ยาก แต่ก็เห็นด้วยที่สมาชิกจะต้องมีความมั่นคงในชีวิต ดังนั้นอาจจะให้ย้ายสมาชิก กบข.ไปอยู่กับกองทุนอื่น ๆหรือกองทุนของภาคเอกชน แต่เรื่องนี้ไม่มีกฎหมายในเรื่องการลาออกจากสมาชิกกองทุนฯ ดังนั้นจึงมอบหมายให้นายกรณ์และปลัดคลังไปศึกษาว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งนายกฯเห็นว่าการปรับลดเงินบำนาญจะต้องมีความสมเหตุสมผล และมีสูตรคำนวณที่เหมาะสม
“การลาออกจากกองทุนไม่มีกฎหมายว่าด้วยการลาออก แต่นายกฯเห็นว่า เป็นไปได้ว่าอาจจะให้ย้ายจาก กบข.ไปกองทุนอื่น เพราะสมาชิกที่เป็นข้าราชการจะต้องมีความมั่นคงในชีวิต และสมาชิกก็มีสิทธิที่จะย้ายกองทุนฯ จึงขอให้กระทรวงการคลังไปศึกษา”นายออนอ้างคำพูดนายกฯ
ขณะที่กรณีนายวิสิฐ ตันตีสุนทร อดีตเลขาธิการ กบข.ที่ลาออกไปนั้น นายออนกล่าวว่า นายกฯขอให้มีการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา โดยขอให้มีการตั้งกรรมการฯขึ้นมาตรวจสอบโดยเฉพาะ
นายออน กล่าวว่า จากนี้ไปสมาชิกฯจะไปขอมติเพื่อติดตามร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว และราวเดือนกรกฎาคม จะเข้ายื่นหนังสือกับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นแกนนำ กบข. บนเวทีได้ขอให้นายกรณ์ช่วยพูดกับผู้บังคับบัญชาของข้าราชการที่มาร่วมชุมนุมวันนี้ที่ต้องลางานมาชุมนุม นายกรณ์ กล่าวว่า “ก็ตราบใดที่ยังไม่มีการเผาทำเนียบ ก็คงไม่มีใครว่าอะไร” ส่งผลให้สมาชิกกบข.ต่างพากันปรบมือโห่ร้องดีใจ และจากนั้นสมาชิกกบข.ที่เป็นผู้หญิงต่างเข้ามามอบดอกกุหลายสีชมพูให้กับนายกรณ์เพื่อให้กำลังใจ ก่อนที่ผู้ชุมนุมก็สลายการชุมนุมและเปิดการจราจรตามปกติในเวลาต่อมา.
กำลังโหลดความคิดเห็น