00 ดูหัวเรื่องแล้วอาจยังนึกงงๆว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลที่ส่งไปประลองยุทธ์ในศึกเลือกตั้งซ่อมพ่ายเป็นรายทาง เริ่มจาก“ภูมิใจเนวิน” ที่อุตส่าห์นำทีมไปตั้งแคมป์ จัดเรียลลิตี้ “ดำนาโชว์” ที่สกลนคร แต่เอาเข้าจริงก็แพ้ยับเยินกลับมาไม่เป็นท่า ถัดมาไม่นานก็ถึงคิว “เสี่ยเติ้ง” ที่ต้องรักษาพื้นที่ในศรีสะเกษเอาไว้ แต่ด้วยตัวเลขที่ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้ไม่มีแรง“จูงใจ” ต่อการลงทุนจึง“โยนผ้า” มาตั้งแต่ต้นมือแล้ว
00 ทีนี้หากมองกันทีละมุม เอาในมุมของฝ่ายรัฐบาลก่อน หลังพ่ายศึกทั้งสองครั้ง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่ก่อนหน้านี้ใครก็รู้ว่า“ฮึกเหิม” กันถึงขนาด แต่พอพลิกผันมันก็ “ดับซ่า”ลงมาหลายขีด ขณะที่อีกพรรคคือ “ชาติไทยพัฒนา” ไม่ต้องพูดถึง ลมเพลมพัดอยู่แล้ว ดังนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี่แหละคือเหตุผลที่ผลักดันให้ “มาร์ค” อยู่ได้แบบปลอดโปร่งไปอีกพักใหญ่
00 ขณะที่ในมุมของ“เพื่อไทย” แม้จะอยู่ในอารมณ์ตีปี๊บ ฉลองชัย แต่ก็คงเคลื่อนไหวอะไรเกินเลยมากไม่ได้ เพราะนี่คือกรอบ “กติกา” ที่ยินยอมลงมาเล่นเอง และเมื่อได้ชัยชนะกลับมาก็สมเหตุสมผลที่จะดีใจ ส่วนจะมีลิ่วล้อระดับจะได้รับปูนบำเหน็จบ้าง ก็ว่ากันไป ส่วนจะคิดเดินทางลัด สร้างกระแสป่วนนอกลู่นอกทาง เชื่อว่าอารมณ์ของสังคมคงไม่เอาด้วยแล้ว และนี่ไงถึงได้บอกว่าการพ่ายแพ้ของ “เนวิน-เติ้ง” เที่ยวนี้ได้ลดแรงกดดันในรัฐบาลไปได้เยอะ
00 สำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่กำลังดิ้นรนทุกวิถีทางให้พ้นจากความผิด โดยวิธีการที่จับอาการได้ก็คือ ยังใช้วิธีการเดิมๆ คือใช้มวลชนมากดดันให้ “พระราชทานอภัยโทษ” โดยขบวนการที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างก็คือการ “ล่าชื่อ” ถวายฎีกา ทั้งที่ในทางปฏิบัตินอกจากผิดขั้นตอนแล้วมันยังเป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้นั้น อย่างแรกต้องเป็นนักโทษอยู่ในคุก และตัวเองต้องสำนึกผิดก่อน แต่นี่ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม
00 สมมุติว่ามีการล่าชื่อจริง ก็ขอให้ระวังเอาไว้บ้างว่า อาจมีอีกกลุ่มล่าชื่อขอถวายฎีกาคัดค้านบ้าง ซึ่งก็ไม่บังควรกันสองฝ่าย แต่ด้วยอารมณ์ของคนอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เพราะขนาดคนที่เคยเป็นถึงผู้บัญชาการทหารบกอย่าง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ยังออกมาหลับหูหลับตา พูดสนับสนุนให้ล่าชื่อ ทั้งที่คนระดับนี้น่าจะรู้ขั้นตอนดีกว่าใคร มันก็น่าเศร้า !!
00 เมื่อพูดถึงอารมณ์แล้ว ไม่รู้เกี่ยวข้องกับความแปรปรวนของ “ชายหน้าเหลี่ยมๆ” คนนั้นหรือเปล่า เพราะแม้ว่าในคำพูดที่ยืนยันมาตามสายว่า “ผมไม่ได้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก” แต่ก็ดันมีคนแอบเห็นความเคลื่อนไหวการส่งทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชื่อดังย่านสุขุมวิท ไปรักษาเยียวยากันถึง “กลางทะเลทราย” ซึ่ง “วงใน” ยืนยันกันว่า“ของจริง” ไม่โกหก มิน่าทุกอย่างถึงได้รีบร้อนแข่งกับเวลากันนัก!!
00 ทีนี้หากมองกันทีละมุม เอาในมุมของฝ่ายรัฐบาลก่อน หลังพ่ายศึกทั้งสองครั้ง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่ก่อนหน้านี้ใครก็รู้ว่า“ฮึกเหิม” กันถึงขนาด แต่พอพลิกผันมันก็ “ดับซ่า”ลงมาหลายขีด ขณะที่อีกพรรคคือ “ชาติไทยพัฒนา” ไม่ต้องพูดถึง ลมเพลมพัดอยู่แล้ว ดังนั้นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี่แหละคือเหตุผลที่ผลักดันให้ “มาร์ค” อยู่ได้แบบปลอดโปร่งไปอีกพักใหญ่
00 ขณะที่ในมุมของ“เพื่อไทย” แม้จะอยู่ในอารมณ์ตีปี๊บ ฉลองชัย แต่ก็คงเคลื่อนไหวอะไรเกินเลยมากไม่ได้ เพราะนี่คือกรอบ “กติกา” ที่ยินยอมลงมาเล่นเอง และเมื่อได้ชัยชนะกลับมาก็สมเหตุสมผลที่จะดีใจ ส่วนจะมีลิ่วล้อระดับจะได้รับปูนบำเหน็จบ้าง ก็ว่ากันไป ส่วนจะคิดเดินทางลัด สร้างกระแสป่วนนอกลู่นอกทาง เชื่อว่าอารมณ์ของสังคมคงไม่เอาด้วยแล้ว และนี่ไงถึงได้บอกว่าการพ่ายแพ้ของ “เนวิน-เติ้ง” เที่ยวนี้ได้ลดแรงกดดันในรัฐบาลไปได้เยอะ
00 สำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่กำลังดิ้นรนทุกวิถีทางให้พ้นจากความผิด โดยวิธีการที่จับอาการได้ก็คือ ยังใช้วิธีการเดิมๆ คือใช้มวลชนมากดดันให้ “พระราชทานอภัยโทษ” โดยขบวนการที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างก็คือการ “ล่าชื่อ” ถวายฎีกา ทั้งที่ในทางปฏิบัตินอกจากผิดขั้นตอนแล้วมันยังเป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้นั้น อย่างแรกต้องเป็นนักโทษอยู่ในคุก และตัวเองต้องสำนึกผิดก่อน แต่นี่ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม
00 สมมุติว่ามีการล่าชื่อจริง ก็ขอให้ระวังเอาไว้บ้างว่า อาจมีอีกกลุ่มล่าชื่อขอถวายฎีกาคัดค้านบ้าง ซึ่งก็ไม่บังควรกันสองฝ่าย แต่ด้วยอารมณ์ของคนอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เพราะขนาดคนที่เคยเป็นถึงผู้บัญชาการทหารบกอย่าง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ยังออกมาหลับหูหลับตา พูดสนับสนุนให้ล่าชื่อ ทั้งที่คนระดับนี้น่าจะรู้ขั้นตอนดีกว่าใคร มันก็น่าเศร้า !!
00 เมื่อพูดถึงอารมณ์แล้ว ไม่รู้เกี่ยวข้องกับความแปรปรวนของ “ชายหน้าเหลี่ยมๆ” คนนั้นหรือเปล่า เพราะแม้ว่าในคำพูดที่ยืนยันมาตามสายว่า “ผมไม่ได้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก” แต่ก็ดันมีคนแอบเห็นความเคลื่อนไหวการส่งทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชื่อดังย่านสุขุมวิท ไปรักษาเยียวยากันถึง “กลางทะเลทราย” ซึ่ง “วงใน” ยืนยันกันว่า“ของจริง” ไม่โกหก มิน่าทุกอย่างถึงได้รีบร้อนแข่งกับเวลากันนัก!!