พะเยา - เตือนหญิงไทยระวังถูกหลอกแต่งงานกับชายเกาหลีเหนือ เผยสินสอดต่ำแต่ค่าปรับสูง ย้ำพ่อแม่ระวัง! อย่าหลงเชื่อ ด้านนายก อบต.ตื่นเร่งเตือนลูกบ้านให้ระวังตัวมากขึ้น
นางสาวอณิรา ธินนท์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้หญิงไทยในพื้นที่ ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ และ ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา แต่งงานกับผู้ชายเกาหลีเหนือ ผ่านบริษัทจัดหาคู่ในประเทศเกาหลีและประเทศไทย เมื่อเดือนเมษายน 2552 ที่ผ่านมา จำนวน 5 คู่ว่า เหตุที่เกิดขึ้นและทำให้หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทราบ เนื่องจากผู้หญิงคนหนึ่งในห้าคนที่แต่งงานกับผู้ชายเกาหลีเหนือนั้น เกิดเปลี่ยนใจไม่ต้องการเดินทางไปเกาหลีเหนือกับสามีของตนเอง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและติดต่อเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. มาดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันบ้านพักเด็กฯ กำลังติดตามให้การช่วยเหลือผู้หญิงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ พะเยา กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากค่านิยมของหญิงไทยส่วนหนึ่งที่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายต่างประเทศเพื่อต้องการมีครอบครัวจริง หรือต้องการใช้เป็นช่องทางไปทำงานต่างประเทศ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับไม่ทราบว่าเมื่อไปแล้วจะเกิดปัญหาหรืออันตรายใดๆ ตามมา โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้ชายเกาหลี ซึ่งผู้หญิงที่ปฏิเสธการเดินทางให้เหตุผลว่าไม่สามารถทนพฤติกรรมก้าวร้าวของผู้ชายเกาหลีได้จึงเปลี่ยนใจ ปรากฏว่าจะต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ขณะที่สินสอดที่พ่อแม่ของผู้หญิงได้รับจากบริษัทนายหน้าเพียง 13,000 บาทเท่านั้น
นายเฉลิมชัย มีสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ไม่เพียงผู้ชายเกาหลีเท่านั้นที่ผู้หญิงใน ต.แม่ลาว บางส่วนแต่งงานและมีครอบครัวด้วย ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2535 ยอมรับผู้หญิงใน ต.แม่ลาว ส่วนหนึ่งนิยมแต่งงานและมีครอบครัวกับผู้ชายต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และล่าสุดเกาหลี เนื่องจากส่วนหนึ่งเห็นว่าผู้หญิงบางคนที่แต่งงานกับผู้ชายไทยไม่สมหวัง เลิกร้างกันไปแล้วมีโอกาสแต่งงานกับชายต่างประเทศจนสามารถมีเงินซื้อบ้าน รถ หรือสิ่งของที่ต้องการ ทำให้เกิดค่านิยมเลียนแบบกันตามมา หากได้ดีมีสุขก็น่ายินดี แต่หากประสบทุกข์คือสิ่งที่น่าเป็นห่วง
เช่นกรณีของเด็กผู้หญิงของ ต.แม่ลาว ที่ได้รับการช่วยเหลือมาเมื่อเร็วๆ นี้ คงจะต้องติดตามดูแล และเตือนให้ผู้ปกครองของผู้หญิงแม่ลาวอีกจำนวนมาก ให้ระวังอย่าหลงเชื่อที่จะให้ลูกสาวของตนเองแต่งงานไปกับผู้ชายต่างประเทศ หากต้องพลัดหลงเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์จะทำให้ได้รับความลำบากและช่วยเหลือได้ยาก
ดังนั้น ทางเดียวที่จะได้ผลตั้งแต่ต้นคือการเฝ้าระวังและให้ข้อมูลด้านอันตรายเพื่อป้องกันหญิงสาวไม่ให้ถูกล่อลวงจากคนใกล้ชิดหรือคนรู้จักด้วย
นางสาวอณิรา ธินนท์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพะเยา เปิดเผยถึงกรณีที่ผู้หญิงไทยในพื้นที่ ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ และ ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา แต่งงานกับผู้ชายเกาหลีเหนือ ผ่านบริษัทจัดหาคู่ในประเทศเกาหลีและประเทศไทย เมื่อเดือนเมษายน 2552 ที่ผ่านมา จำนวน 5 คู่ว่า เหตุที่เกิดขึ้นและทำให้หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทราบ เนื่องจากผู้หญิงคนหนึ่งในห้าคนที่แต่งงานกับผู้ชายเกาหลีเหนือนั้น เกิดเปลี่ยนใจไม่ต้องการเดินทางไปเกาหลีเหนือกับสามีของตนเอง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและติดต่อเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. มาดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันบ้านพักเด็กฯ กำลังติดตามให้การช่วยเหลือผู้หญิงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ พะเยา กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากค่านิยมของหญิงไทยส่วนหนึ่งที่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายต่างประเทศเพื่อต้องการมีครอบครัวจริง หรือต้องการใช้เป็นช่องทางไปทำงานต่างประเทศ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับไม่ทราบว่าเมื่อไปแล้วจะเกิดปัญหาหรืออันตรายใดๆ ตามมา โดยเฉพาะพฤติกรรมของผู้ชายเกาหลี ซึ่งผู้หญิงที่ปฏิเสธการเดินทางให้เหตุผลว่าไม่สามารถทนพฤติกรรมก้าวร้าวของผู้ชายเกาหลีได้จึงเปลี่ยนใจ ปรากฏว่าจะต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ขณะที่สินสอดที่พ่อแม่ของผู้หญิงได้รับจากบริษัทนายหน้าเพียง 13,000 บาทเท่านั้น
นายเฉลิมชัย มีสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ไม่เพียงผู้ชายเกาหลีเท่านั้นที่ผู้หญิงใน ต.แม่ลาว บางส่วนแต่งงานและมีครอบครัวด้วย ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2535 ยอมรับผู้หญิงใน ต.แม่ลาว ส่วนหนึ่งนิยมแต่งงานและมีครอบครัวกับผู้ชายต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และล่าสุดเกาหลี เนื่องจากส่วนหนึ่งเห็นว่าผู้หญิงบางคนที่แต่งงานกับผู้ชายไทยไม่สมหวัง เลิกร้างกันไปแล้วมีโอกาสแต่งงานกับชายต่างประเทศจนสามารถมีเงินซื้อบ้าน รถ หรือสิ่งของที่ต้องการ ทำให้เกิดค่านิยมเลียนแบบกันตามมา หากได้ดีมีสุขก็น่ายินดี แต่หากประสบทุกข์คือสิ่งที่น่าเป็นห่วง
เช่นกรณีของเด็กผู้หญิงของ ต.แม่ลาว ที่ได้รับการช่วยเหลือมาเมื่อเร็วๆ นี้ คงจะต้องติดตามดูแล และเตือนให้ผู้ปกครองของผู้หญิงแม่ลาวอีกจำนวนมาก ให้ระวังอย่าหลงเชื่อที่จะให้ลูกสาวของตนเองแต่งงานไปกับผู้ชายต่างประเทศ หากต้องพลัดหลงเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์จะทำให้ได้รับความลำบากและช่วยเหลือได้ยาก
ดังนั้น ทางเดียวที่จะได้ผลตั้งแต่ต้นคือการเฝ้าระวังและให้ข้อมูลด้านอันตรายเพื่อป้องกันหญิงสาวไม่ให้ถูกล่อลวงจากคนใกล้ชิดหรือคนรู้จักด้วย