นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการสั่งปิดการประชุมวุฒิสภาเมื่อคืนวันที่ 22 มิ.ย. โดยไม่พิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.....(ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนลาท) ว่า การสั่งปิดการประชุมไปก่อนเพราะหมดเวลา และตามที่มีพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญให้การประชุมต้องปิดก่อนเวลา 24.00 น. จะเกินเวลาไม่ได้แม้แต่หนึ่งนาที ดังนั้นเมื่อลงมติ พ.ร.ก.กู้เงินฯ เป็นเวลา 23.00 น. เศษไปแล้ว การจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฯ ต่อคงเป็นไปไม่ได้
เมื่อวานที่ปิดทุกคนตกใจ ท่านนายกรัฐมนตรีก็ตกใจหมด คือต้องคำนวณดูเวลาทำไม่ทันแล้วมันต้องปิด
ส่วนกระแสข่าวรัฐมนตรีโทรศัพท์มาล็อบบี้ ส.ว.ให้ลงมติสนับสนุนร่าง พ.ร.ก. กู้เงิน 4 แสนล้านบาทนั้น นายประสพสุข กล่าวว่า อย่าเรียกว่า ล็อบบี้เลยเรียกว่า เป็นการขอความร่วมมือโดยคนรู้จักมักคุ้นที่อาจจะมีการทำอย่างนั้นบ้าง โดยคงเป็น การชี้แจงทำความเข้าใจว่าจำเป็นอย่างไรจึงต้องผ่าน อย่าบอกว่าเป็นการล็อบบี้เลย
นาย ทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลล๊อบบี้ให้วุฒิสภา ช่วยอนุมัติ พ..ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทนั้นเป็นเรื่องจริง ตนเห็นนาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับ ส.ว.หลายคนระหว่างรับประทานอาหารเพื่อขอความร่วมมือในการผลักดันพ.ร.ก. เงินกู้ 4 แสนบาท ซึ่งตนไม่อยากให้คำว่าล๊อบบี้
น.ส. รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่ามีรัฐมนตรีมาพูดทำความเข้าใจและขอร้องว่า หาก พ.ร.ก.ไม่ผ่านจะมีปัญหา งบดุลอีก 2 แสนล้านปิดหีบไม่ได้ข้าราชการจะไม่มีเงินเดือน แต่สิ่งที่ส.ว.ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่างบอีก 2 แสนล้านบาทที่รัฐบาลอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเกรงว่าจะเกิดการรั่วไหล่ สำหรับตนไม่มีใครมาล๊อบบี้ มีเพื่อนส.ว.บางคนมาเจรจาให้โหวตให้รัฐบาลเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหา ทั้งนี้ยืนยันว่า การเจราจาไม่ให้การยื่นหมูยื่นแมวแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ แต่รัฐบาลรับปาก การใช้เงินจะเป็นประโยชน์อย่างเต็มที่
ทางรัฐบาลเปิดให้มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ดังนั้นวุฒิสภา ต้องเข้าไปดู อย่างใกล้ชิดเพราะเงินจำนวนมหาศาลหากใช้ดีก็เกิดประโยชน์ หากมาเร็ว ไปเร็ว กินเร็ว ก็มีปัญหาได้ แต่ที่ รมว.คลังรับปากว่าจะไม่มีเงินปากถุง ก็ถือว่าเป็นสัญญาที่มีต่อกันแล้ว จึงมีผลให้กลุ่มส.ว.ที่รอฟังข้อมูลเห็นคล้อยตามและลงมติให้
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า การลงมิตพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทนั้น ตนเห็นว่าการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี มีผลต่อการตัดสินใจ ที่เห็นว่านายกรัฐมนตรีให้เกียรติกับวุฒิสภา
สำหรับร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทนั้น คิดว่าถ้าเข้าสู่การพิจารณาของ วุฒิสภา คงจะลงมติรับหลักการแล้วตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้น ซึ่งตนคิดว่า คงมีการแก้ไขมากพอสมควร วงเงินอาจไม่ถึง 4 แสนล้านบาท และกรอบการใช้เงิน ก็อยากให้เข้าสู่ระบบงบประมาณปกติ รวมทั้งกลไกการตรวจสอบการใช้เงินและอำนาจของรัฐมนตรีว่ามีอำนาจ มากเกินไป หรือไม่และควรตัดทอนอำนาจอย่างไรเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
นอกจากนี้วุฒิสภาคงจะมอบให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2553 ของวุฒิสภาทั้ง 27 คน มาเป็นผู้มาดูแลและตรวจสอบการใช้เงินตามพ.ร.บ.เงินกู้ ส่วนพ.ร.ก.เงินกู้ อาจตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา เป็นการเฉพาะอีกหนึ่งชุดเพื่อมาดูแล
เมื่อวานที่ปิดทุกคนตกใจ ท่านนายกรัฐมนตรีก็ตกใจหมด คือต้องคำนวณดูเวลาทำไม่ทันแล้วมันต้องปิด
ส่วนกระแสข่าวรัฐมนตรีโทรศัพท์มาล็อบบี้ ส.ว.ให้ลงมติสนับสนุนร่าง พ.ร.ก. กู้เงิน 4 แสนล้านบาทนั้น นายประสพสุข กล่าวว่า อย่าเรียกว่า ล็อบบี้เลยเรียกว่า เป็นการขอความร่วมมือโดยคนรู้จักมักคุ้นที่อาจจะมีการทำอย่างนั้นบ้าง โดยคงเป็น การชี้แจงทำความเข้าใจว่าจำเป็นอย่างไรจึงต้องผ่าน อย่าบอกว่าเป็นการล็อบบี้เลย
นาย ทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลล๊อบบี้ให้วุฒิสภา ช่วยอนุมัติ พ..ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาทนั้นเป็นเรื่องจริง ตนเห็นนาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับ ส.ว.หลายคนระหว่างรับประทานอาหารเพื่อขอความร่วมมือในการผลักดันพ.ร.ก. เงินกู้ 4 แสนบาท ซึ่งตนไม่อยากให้คำว่าล๊อบบี้
น.ส. รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่ามีรัฐมนตรีมาพูดทำความเข้าใจและขอร้องว่า หาก พ.ร.ก.ไม่ผ่านจะมีปัญหา งบดุลอีก 2 แสนล้านปิดหีบไม่ได้ข้าราชการจะไม่มีเงินเดือน แต่สิ่งที่ส.ว.ไม่เห็นด้วยเพราะเห็นว่างบอีก 2 แสนล้านบาทที่รัฐบาลอ้างว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเกรงว่าจะเกิดการรั่วไหล่ สำหรับตนไม่มีใครมาล๊อบบี้ มีเพื่อนส.ว.บางคนมาเจรจาให้โหวตให้รัฐบาลเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหา ทั้งนี้ยืนยันว่า การเจราจาไม่ให้การยื่นหมูยื่นแมวแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ แต่รัฐบาลรับปาก การใช้เงินจะเป็นประโยชน์อย่างเต็มที่
ทางรัฐบาลเปิดให้มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่ ดังนั้นวุฒิสภา ต้องเข้าไปดู อย่างใกล้ชิดเพราะเงินจำนวนมหาศาลหากใช้ดีก็เกิดประโยชน์ หากมาเร็ว ไปเร็ว กินเร็ว ก็มีปัญหาได้ แต่ที่ รมว.คลังรับปากว่าจะไม่มีเงินปากถุง ก็ถือว่าเป็นสัญญาที่มีต่อกันแล้ว จึงมีผลให้กลุ่มส.ว.ที่รอฟังข้อมูลเห็นคล้อยตามและลงมติให้
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า การลงมิตพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทนั้น ตนเห็นว่าการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี มีผลต่อการตัดสินใจ ที่เห็นว่านายกรัฐมนตรีให้เกียรติกับวุฒิสภา
สำหรับร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทนั้น คิดว่าถ้าเข้าสู่การพิจารณาของ วุฒิสภา คงจะลงมติรับหลักการแล้วตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้น ซึ่งตนคิดว่า คงมีการแก้ไขมากพอสมควร วงเงินอาจไม่ถึง 4 แสนล้านบาท และกรอบการใช้เงิน ก็อยากให้เข้าสู่ระบบงบประมาณปกติ รวมทั้งกลไกการตรวจสอบการใช้เงินและอำนาจของรัฐมนตรีว่ามีอำนาจ มากเกินไป หรือไม่และควรตัดทอนอำนาจอย่างไรเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
นอกจากนี้วุฒิสภาคงจะมอบให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2553 ของวุฒิสภาทั้ง 27 คน มาเป็นผู้มาดูแลและตรวจสอบการใช้เงินตามพ.ร.บ.เงินกู้ ส่วนพ.ร.ก.เงินกู้ อาจตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมา เป็นการเฉพาะอีกหนึ่งชุดเพื่อมาดูแล