ASTV ผู้จัดการรายวัน- เอสซีจี ทำใจ! ธุรกิจจัดจำหน่ายในปี 52 คาดลดต่ำกว่า 10% เหตุทุกผลิตภัณฑ์ราคาลดฮวบ ซ้ำโครงการขนาดใหญ่ของรัฐเกิดขึ้นน้อย ธุรกิจอสังหาฯระวังลง ทุนโครงการใหม่ เผยเกาหลี-ญี่ปุ่น หันส่งออกปูนซิเมนต์มากขึ้น หลังโครงการภายในประเทศหดตัวลง คาดยอดส่งของบริษัททั้งปี 7-7.5 ล้านตัน
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด หรือ SCT ซึ่งทำหน้าจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างทั้งหมดในเครือบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG กล่าวว่า ยอดขายของธุรกิจจัดจำหน่ายในปีนี้ น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้วมากกว่า 10% เนื่องจากราคาสินค้าปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ อาทิ เหล็ก ปูนซิเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง แม้ว่าขณะนี้ ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลมากนักต่อสินค้าในส่วนดิสทริบิวชั่น
ประกอบกับการแข่งขันในประเทศค่อนข้างรุนแรงมากขึ้น ทั้งในส่วนของตลาดส่งออกและการนำเข้าสินค้าวัสดุก่อสร้างจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ทำให้ยอดขายวัสดุก่อสร้างรวมในตลาดลดลง
" แม้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ก็ไม่ได้กระตุ้นให้ภาคเอกชนกล้าลงทุนเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จาก งานก่อสร้างและการลงทุนโครงการอสังหาฯใหม่ๆไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ หรือ เมกะโปรเจกต์ของภาครัฐบาล เกิดขึ้นน้อย ทำให้แนวโน้มการเติบโตของตลาดในปีนี้ น่าจะทรงตัวเท่าๆ กับปีที่ผ่านมา"
นายขจรเดช กล่าวถึงตลาดการส่งออกปูนซิเมนต์ว่า ในปีนี้ตัวเลขยอดขายจะเท่ากับปีที่ผ่านมา 7-7.5 ล้านตัน แม้ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดส่งออกจะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากคู่แข่งขันในภูมิภาคเอเชีย เช่น ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น ได้เร่งการส่งออกมากขึ้น เนื่องจากปริมาณงานก่อสร้างลดลง ทำให้มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลือภายในประเทศ
โดยกลยุทธ์การแข่งขันในตลาดส่งออกของบริษัทฯ เนื่องจากปริมาณปูนซิเมนต์มีสูง ทำให้บริษัทผู้ผลิตต้องหันมาเน้นเรื่องราคา เพื่อระบายสต๊อกออกไป ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นมา เศรษฐกิจโลกเริ่มมีทิศทางที่ดี ส่งผลให้ยอดการส่งออกปูนซิเมนต์ของบริษัทฯมียอดขายที่ดีขึ้น คาดว่าทั้งปีจะมียอดขายเท่ากับปีที่ผ่านมาได้
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด หรือ SCT ซึ่งทำหน้าจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างทั้งหมดในเครือบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG กล่าวว่า ยอดขายของธุรกิจจัดจำหน่ายในปีนี้ น่าจะต่ำกว่าปีที่แล้วมากกว่า 10% เนื่องจากราคาสินค้าปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในทุกๆ ผลิตภัณฑ์ อาทิ เหล็ก ปูนซิเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง แม้ว่าขณะนี้ ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลมากนักต่อสินค้าในส่วนดิสทริบิวชั่น
ประกอบกับการแข่งขันในประเทศค่อนข้างรุนแรงมากขึ้น ทั้งในส่วนของตลาดส่งออกและการนำเข้าสินค้าวัสดุก่อสร้างจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ทำให้ยอดขายวัสดุก่อสร้างรวมในตลาดลดลง
" แม้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะมีทิศทางที่ดีขึ้น ก็ไม่ได้กระตุ้นให้ภาคเอกชนกล้าลงทุนเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จาก งานก่อสร้างและการลงทุนโครงการอสังหาฯใหม่ๆไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ หรือ เมกะโปรเจกต์ของภาครัฐบาล เกิดขึ้นน้อย ทำให้แนวโน้มการเติบโตของตลาดในปีนี้ น่าจะทรงตัวเท่าๆ กับปีที่ผ่านมา"
นายขจรเดช กล่าวถึงตลาดการส่งออกปูนซิเมนต์ว่า ในปีนี้ตัวเลขยอดขายจะเท่ากับปีที่ผ่านมา 7-7.5 ล้านตัน แม้ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดส่งออกจะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากคู่แข่งขันในภูมิภาคเอเชีย เช่น ประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น ได้เร่งการส่งออกมากขึ้น เนื่องจากปริมาณงานก่อสร้างลดลง ทำให้มีกำลังการผลิตส่วนเกินเหลือภายในประเทศ
โดยกลยุทธ์การแข่งขันในตลาดส่งออกของบริษัทฯ เนื่องจากปริมาณปูนซิเมนต์มีสูง ทำให้บริษัทผู้ผลิตต้องหันมาเน้นเรื่องราคา เพื่อระบายสต๊อกออกไป ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นมา เศรษฐกิจโลกเริ่มมีทิศทางที่ดี ส่งผลให้ยอดการส่งออกปูนซิเมนต์ของบริษัทฯมียอดขายที่ดีขึ้น คาดว่าทั้งปีจะมียอดขายเท่ากับปีที่ผ่านมาได้