นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ใช้โอกาสเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ พบปะกับทีมประเทศไทยในอินโดนีเซีย โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยัน การทำงานของรัฐบาลในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ว่าเป็นไปด้วยดีที่เห็นได้ชัดคือ ความพยายามดำเนินการให้ประเทศเกิดความสงบ และเข้าสู่ภาวะปกติ เช่น การผ่านกฎหมายงบประมาณกลางปี และกรอบความตกลงอาเซียน 41 ฉบับ
นอกจากนี้ ในการประชุมอาเซียนซัมมิทที่จะมีขึ้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ว่าพร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีต่างๆ
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะเดินหน้าสร้างความสมานฉันท์ต่อไป โดยเน้นการปฏิรูปการเมือง ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ขณะที่การแก้ไขปัญหา และรับมือกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจนั้น นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ตัวเลขการส่งออกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ติดลบกว่าร้อยละ 20 ซึ่งอาจต้องมีการทบทวนตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพราะอาจเป็นไปได้ว่า ตลอดทั้งปีนี้ เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะหดตัว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การกู้เงินจากต่างประเทศ และดำเนินนโยบายเมกะโปรเจกต์ในระยะต่อๆ ไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในอีกไม่นานนี้ จะมีการแถลงถึงความคืบหน้าคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ ในการประชุมอาเซียนซัมมิทที่จะมีขึ้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ว่าพร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีต่างๆ
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะเดินหน้าสร้างความสมานฉันท์ต่อไป โดยเน้นการปฏิรูปการเมือง ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ขณะที่การแก้ไขปัญหา และรับมือกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจนั้น นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ตัวเลขการส่งออกในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ติดลบกว่าร้อยละ 20 ซึ่งอาจต้องมีการทบทวนตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เพราะอาจเป็นไปได้ว่า ตลอดทั้งปีนี้ เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะหดตัว
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การกู้เงินจากต่างประเทศ และดำเนินนโยบายเมกะโปรเจกต์ในระยะต่อๆ ไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในอีกไม่นานนี้ จะมีการแถลงถึงความคืบหน้าคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย
