เอเอฟพี – ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ที่กำหนดนำออกอากาศในวันจันทร์(22) โดยย้ำให้ชาวอเมริกันมั่นใจว่าสหรัฐฯ “เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่” หากต้องรับมือกับขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือยิงเข้ามาในประเทศ
ตามบทคัดย่อของรายการดังกล่าวที่ซีบีเอสนำออกเผยแพร่ในวันอาทิตย์(21) โอบามาตอบข้อซักถามที่ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธโจมตีรัฐฮาวายในวันที่ 4 กรกฏาคม ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ หรือในช่วงใกล้ๆ กันนั้น ว่า “รัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งกองทัพของเรา ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้น”
แต่เมื่อมีคำถามต่อไปว่าสหรัฐฯ “กำลังเตือนว่าจะตอบโต้ด้วยวิธีการทางทหารใช่หรือไม่” โอบามาปฏิเสธว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น เราเพียงแต่เตรียมพร้อมสำหรับทุกๆ กรณีเท่านั้น”
“ผมไม่ต้องการคาดเดากับข้อสมมุติต่างๆ” เขาอธิบาย “แต่ผมต้องการให้ประชาชนอเมริกันมั่นใจว่าเราจะเข้มงวดพิถีพิถันกับทุกเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้”
ทั้งนี้ ความเห็นของเขามีขึ้นภายหลังผลการสำรวจความเห็นของสำนักโพล “แกลลัพ”เมื่อวันพฤหัสบดี (18) ระบุว่าชาวอเมริกัน 51 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามโดยตรงมากที่สุดต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ นำหน้าอิหร่าน อิรัก อัฟกานิสถาน และปากีสถาน
รอเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ ก็กล่าวในวันพฤหัสบดีเช่นกันว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้เสริมกำลังทหารเข้าไปในฮาวาย เนื่องจากหวั่นวิตกว่าเกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธข้ามทวีปมา
เกตส์บอกอีกว่า “ผมขอเรียนว่าเราอยู่ในสถานะที่ดีกว่าหากจำเป็นต้องป้องกันดินแดนของชาวอเมริกัน”
นอกจากนั้น เขายังได้อนุมัติให้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในระดับบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense – THAAD) เพื่อปฏิบัติการ “สนับสนุน” หากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธมา
ทั้งนี้ ระบบป้องกันขีปนาวุธ “THAAD” เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธที่ออกแบบสำหรับการยิงสอยขีปนาวุธข้ามทวีปให้ตกลงนั่นเอง โดยที่จะใช้ประสานกับระบบเรดาร์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน
เกตส์เสริมอีกว่ากำลังพลในส่วนภาคพื้นดินในมลรัฐอะแลสกาก็มีการเตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน
ขณะเดียวกัน เรือพิฆาตของสหรัฐฯ ที่ชื่อ ยูเอสเอส จอห์น เอส. แมคเคน ก็ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเรือสัญชาติเกาหลีเหนือลำหนึ่งอยู่ตลอด เพราะเรือลำดังกล่าวเคยมีประวัติว่าเป็นเรือสินค้าที่ลักลอบบรรทุกขีปนาวุธมาก่อน
สถานีโทรทัศน์วายทีเอ็นของเกาหลีใต้ก็อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า สหรัฐฯ สงสัยว่าเรือ คัง นัม 1 ซึ่งมีระวางบรรทุก 2,000 ตัน กำลังขนย้ายขีปนาวุธและส่วนประกอบอื่นๆ โดยมุ่งหน้าไปยังพม่าผ่านทางสิงคโปร์
คาดว่าเรือลำดังกล่าวคงจะถูกตรวจสอบเป็นลำแรก ตามมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่สั่งห้ามการขนย้ายอาวุธและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับขีปนาวุธใดๆ ทั้งเข้าและออกจากเกาหลีเหนือ ทว่าขณะนี้ยังไม่มีการระบุวันเวลาในการขอตรวจสอบ
นอกจากนั้น โอบามายังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ประชาคมโลกมีความเห็นสอดคล้องกันในเรื่องการต่อต้านเกาหลีเหนือที่ทำการทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม (ครั้งแรกเมื่อปี 2006) โดยก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนก็ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโดยอ้างว่าเป็นการทดลองยิงดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรด้วย
“หากพูดให้กว้างกว่านั้น ผมคิดว่าประชาคมโลกได้แสดงความเห็นออกมาแล้ว” โอบามากล่าวและอ้างถึงการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติให้เข้มงวดกับการตรวจสอบเรือสินค้ามากขึ้น และห้ามขนย้ายอาวุธเพื่อบีบให้เกาหลีเหนือมีรายได้ลดลงจากการค้านิวเคลียร์และขีปนาวุธต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โอบามาชี้ว่าเกาหลีเหนือยังคงมี “หนทางที่จะกลับเข้ามาร่วมในประชาคมโลกได้” แต่สหรัฐฯ ก็ให้คำมั่นว่าจะช่วยป้องกันเกาหลีใต้จากการโจมตีด้วย
ส่วนหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ทอนกิล ซินโบ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ก็กล่าวหาโอบามาและประธานาธิบดีลีมยองบัค ของเกาหลีใต้ว่า “พยายามยั่วยุให้เกิดสงครามนิวเคลียร์”
ตามบทคัดย่อของรายการดังกล่าวที่ซีบีเอสนำออกเผยแพร่ในวันอาทิตย์(21) โอบามาตอบข้อซักถามที่ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธโจมตีรัฐฮาวายในวันที่ 4 กรกฏาคม ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐฯ หรือในช่วงใกล้ๆ กันนั้น ว่า “รัฐบาลชุดนี้ รวมทั้งกองทัพของเรา ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้น”
แต่เมื่อมีคำถามต่อไปว่าสหรัฐฯ “กำลังเตือนว่าจะตอบโต้ด้วยวิธีการทางทหารใช่หรือไม่” โอบามาปฏิเสธว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น เราเพียงแต่เตรียมพร้อมสำหรับทุกๆ กรณีเท่านั้น”
“ผมไม่ต้องการคาดเดากับข้อสมมุติต่างๆ” เขาอธิบาย “แต่ผมต้องการให้ประชาชนอเมริกันมั่นใจว่าเราจะเข้มงวดพิถีพิถันกับทุกเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นได้”
ทั้งนี้ ความเห็นของเขามีขึ้นภายหลังผลการสำรวจความเห็นของสำนักโพล “แกลลัพ”เมื่อวันพฤหัสบดี (18) ระบุว่าชาวอเมริกัน 51 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามโดยตรงมากที่สุดต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ นำหน้าอิหร่าน อิรัก อัฟกานิสถาน และปากีสถาน
รอเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ ก็กล่าวในวันพฤหัสบดีเช่นกันว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้เสริมกำลังทหารเข้าไปในฮาวาย เนื่องจากหวั่นวิตกว่าเกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธข้ามทวีปมา
เกตส์บอกอีกว่า “ผมขอเรียนว่าเราอยู่ในสถานะที่ดีกว่าหากจำเป็นต้องป้องกันดินแดนของชาวอเมริกัน”
นอกจากนั้น เขายังได้อนุมัติให้ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในระดับบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense – THAAD) เพื่อปฏิบัติการ “สนับสนุน” หากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธมา
ทั้งนี้ ระบบป้องกันขีปนาวุธ “THAAD” เป็นระบบป้องกันขีปนาวุธที่ออกแบบสำหรับการยิงสอยขีปนาวุธข้ามทวีปให้ตกลงนั่นเอง โดยที่จะใช้ประสานกับระบบเรดาร์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน
เกตส์เสริมอีกว่ากำลังพลในส่วนภาคพื้นดินในมลรัฐอะแลสกาก็มีการเตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน
ขณะเดียวกัน เรือพิฆาตของสหรัฐฯ ที่ชื่อ ยูเอสเอส จอห์น เอส. แมคเคน ก็ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเรือสัญชาติเกาหลีเหนือลำหนึ่งอยู่ตลอด เพราะเรือลำดังกล่าวเคยมีประวัติว่าเป็นเรือสินค้าที่ลักลอบบรรทุกขีปนาวุธมาก่อน
สถานีโทรทัศน์วายทีเอ็นของเกาหลีใต้ก็อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า สหรัฐฯ สงสัยว่าเรือ คัง นัม 1 ซึ่งมีระวางบรรทุก 2,000 ตัน กำลังขนย้ายขีปนาวุธและส่วนประกอบอื่นๆ โดยมุ่งหน้าไปยังพม่าผ่านทางสิงคโปร์
คาดว่าเรือลำดังกล่าวคงจะถูกตรวจสอบเป็นลำแรก ตามมติคว่ำบาตรของสหประชาชาติที่สั่งห้ามการขนย้ายอาวุธและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับขีปนาวุธใดๆ ทั้งเข้าและออกจากเกาหลีเหนือ ทว่าขณะนี้ยังไม่มีการระบุวันเวลาในการขอตรวจสอบ
นอกจากนั้น โอบามายังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ประชาคมโลกมีความเห็นสอดคล้องกันในเรื่องการต่อต้านเกาหลีเหนือที่ทำการทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม (ครั้งแรกเมื่อปี 2006) โดยก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนก็ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโดยอ้างว่าเป็นการทดลองยิงดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรด้วย
“หากพูดให้กว้างกว่านั้น ผมคิดว่าประชาคมโลกได้แสดงความเห็นออกมาแล้ว” โอบามากล่าวและอ้างถึงการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มีมติให้เข้มงวดกับการตรวจสอบเรือสินค้ามากขึ้น และห้ามขนย้ายอาวุธเพื่อบีบให้เกาหลีเหนือมีรายได้ลดลงจากการค้านิวเคลียร์และขีปนาวุธต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่โอบามาชี้ว่าเกาหลีเหนือยังคงมี “หนทางที่จะกลับเข้ามาร่วมในประชาคมโลกได้” แต่สหรัฐฯ ก็ให้คำมั่นว่าจะช่วยป้องกันเกาหลีใต้จากการโจมตีด้วย
ส่วนหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ ทอนกิล ซินโบ ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ก็กล่าวหาโอบามาและประธานาธิบดีลีมยองบัค ของเกาหลีใต้ว่า “พยายามยั่วยุให้เกิดสงครามนิวเคลียร์”