ต่างคนต่างใจ กรณีการแจกการ์ดให้เด็กชายตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไปเพื่อไปรับถุงยางอนามัยโดยไม่ต้องบอกให้พ่อแม่รู้ กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเมืองผู้ดี
แผนการนี้ที่มาจากเงินภาษีของประชาชน เปิดโอกาสให้เด็กชายรับถุงยางอนามัยจากข้างสนามฟุตบอล ร้านตัดผม และศูนย์สุขภาพได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่โชว์บัตรพลาสติกที่จะได้มาก็ต่อเมื่อเด็กเข้ารับการอบรมการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
ทางการอังกฤษระบุว่า การ์ดรับถุงยางอนามัยจะช่วยลดอัตราการตั้งครรภ์และการแพร่โรคที่ถ่ายทอดทางเพศสัมพันธ์ ทั้งยังอ้างว่าแผนการนี้จะโน้มน้าวให้เด็กผู้ชายมีความรับผิดชอบในการคุมกำเนิดมากขึ้น
ทั้งนี้ อังกฤษเป็นประเทศที่มีอัตราการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นสูงสุดในยุโรป แม้ว่าสถิติจะลดลงแล้วก็ตาม ปัจจุบัน โครงการการ์ดรับถุงยางอนามัยหรือซีการ์ดเริ่มใช้ในหน่วยงานท้องถิ่นบางแห่งในอังกฤษ แต่รัฐบาลต้องการขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และขอให้มูลนิธิสุขภาพทางเพศ “บรูก” ร่างแนวทางเพื่อให้กระทรวงเยาวชน โรงเรียนและครอบครัวถ่ายทอดให้ผู้อำนวยการศูนย์สาธารณสุขท้องถิ่นนำไปวางแผนแจกจ่ายถุงยางอนามัยในพื้นที่
โฆษกกระทรวงฯ ระบุว่ากลยุทธ์ป้องกันการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นมุ่งเน้นการส่งเสริมให้เยาวชนชะลอการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัย และการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเมื่อมีความต้องการทางเพศ
โฆษกของบรูกขานรับว่า ซีการ์ดช่วยลดอัตราการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นได้อย่างมาก และว่าแม้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีส่วนใหญ่จะยังไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ แต่แผนการนี้จะทำให้เด็กๆ ได้รับความรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยและการเข้าถึงบริการคุมกำเนิด เพื่อที่ว่าเมื่อเด็กเหล่านี้พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ พวกเขาจะรู้จักวิธีการที่ปลอดภัย ไม่ใช่เพื่อส่งเสริมให้เด็กชิงสุกก่อนห่ามแต่อย่างใด
บรูกอ้างอิงงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า เด็กผู้ชายมีแนวโน้มใช้ถุงยางอนามัยหากเข้าถึงได้ง่ายในสถานที่ อาทิ ศูนย์เยาวชน และโรงเรียน
ปกติแล้ว โครงการซีการ์ดมีเป้าหมายที่เด็กอายุ 13-20 ปี อย่างไรก็ตาม สภาเทศบาลอาจให้บริการนี้แก่เด็กอายุน้อยกว่านั้นที่มีความตื่นตัวทางเพศก่อนวัย
การจะได้รับการ์ดนี้ เด็กจะต้องเข้าอบรมเพศศึกษากับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ศูนย์เยาวชนหรือคลินิกเยาวชน โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อหรือประวัติเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ ชื่อบิดามารดา โรงเรียน
ที่การ์ดจะมีหมายเลขรหัสและวันหมดอายุ แต่ไม่มีข้อมูลส่วนตัวใดๆ สามารถนำไปใช้ที่ร้านขายยา ศูนย์เยาวชน คลินิกสุขภาพ และสนามฟุตบอล เพื่อรับถุงยางอนามัยฟรี
กระนั้น การที่รัฐบาลเตรียมขยายผลแผนการนี้ก็ทำให้กลุ่มรณรงค์เพื่อครอบครัวเชื่อว่า นี่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ แก่วัยรุ่น
โจเซฟิน ควินเทวาลล์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มคอนเมนต์ ออน รีโปรดักทีฟ อีทิกส์ วิจารณ์ว่าแผนการดังกล่าวเท่ากับเป็นการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการมีเพศสัมพันธ์ในหมู่เยาวชนโดยที่ขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสัมพันธภาพในแง่ของอารมณ์
แผนการนี้ที่มาจากเงินภาษีของประชาชน เปิดโอกาสให้เด็กชายรับถุงยางอนามัยจากข้างสนามฟุตบอล ร้านตัดผม และศูนย์สุขภาพได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่โชว์บัตรพลาสติกที่จะได้มาก็ต่อเมื่อเด็กเข้ารับการอบรมการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย
ทางการอังกฤษระบุว่า การ์ดรับถุงยางอนามัยจะช่วยลดอัตราการตั้งครรภ์และการแพร่โรคที่ถ่ายทอดทางเพศสัมพันธ์ ทั้งยังอ้างว่าแผนการนี้จะโน้มน้าวให้เด็กผู้ชายมีความรับผิดชอบในการคุมกำเนิดมากขึ้น
ทั้งนี้ อังกฤษเป็นประเทศที่มีอัตราการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นสูงสุดในยุโรป แม้ว่าสถิติจะลดลงแล้วก็ตาม ปัจจุบัน โครงการการ์ดรับถุงยางอนามัยหรือซีการ์ดเริ่มใช้ในหน่วยงานท้องถิ่นบางแห่งในอังกฤษ แต่รัฐบาลต้องการขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และขอให้มูลนิธิสุขภาพทางเพศ “บรูก” ร่างแนวทางเพื่อให้กระทรวงเยาวชน โรงเรียนและครอบครัวถ่ายทอดให้ผู้อำนวยการศูนย์สาธารณสุขท้องถิ่นนำไปวางแผนแจกจ่ายถุงยางอนามัยในพื้นที่
โฆษกกระทรวงฯ ระบุว่ากลยุทธ์ป้องกันการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นมุ่งเน้นการส่งเสริมให้เยาวชนชะลอการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัย และการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเมื่อมีความต้องการทางเพศ
โฆษกของบรูกขานรับว่า ซีการ์ดช่วยลดอัตราการตั้งครรภ์ในหมู่วัยรุ่นได้อย่างมาก และว่าแม้เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีส่วนใหญ่จะยังไม่ข้องเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ แต่แผนการนี้จะทำให้เด็กๆ ได้รับความรู้เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยและการเข้าถึงบริการคุมกำเนิด เพื่อที่ว่าเมื่อเด็กเหล่านี้พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ พวกเขาจะรู้จักวิธีการที่ปลอดภัย ไม่ใช่เพื่อส่งเสริมให้เด็กชิงสุกก่อนห่ามแต่อย่างใด
บรูกอ้างอิงงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า เด็กผู้ชายมีแนวโน้มใช้ถุงยางอนามัยหากเข้าถึงได้ง่ายในสถานที่ อาทิ ศูนย์เยาวชน และโรงเรียน
ปกติแล้ว โครงการซีการ์ดมีเป้าหมายที่เด็กอายุ 13-20 ปี อย่างไรก็ตาม สภาเทศบาลอาจให้บริการนี้แก่เด็กอายุน้อยกว่านั้นที่มีความตื่นตัวทางเพศก่อนวัย
การจะได้รับการ์ดนี้ เด็กจะต้องเข้าอบรมเพศศึกษากับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ศูนย์เยาวชนหรือคลินิกเยาวชน โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อหรือประวัติเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ ชื่อบิดามารดา โรงเรียน
ที่การ์ดจะมีหมายเลขรหัสและวันหมดอายุ แต่ไม่มีข้อมูลส่วนตัวใดๆ สามารถนำไปใช้ที่ร้านขายยา ศูนย์เยาวชน คลินิกสุขภาพ และสนามฟุตบอล เพื่อรับถุงยางอนามัยฟรี
กระนั้น การที่รัฐบาลเตรียมขยายผลแผนการนี้ก็ทำให้กลุ่มรณรงค์เพื่อครอบครัวเชื่อว่า นี่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ แก่วัยรุ่น
โจเซฟิน ควินเทวาลล์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มคอนเมนต์ ออน รีโปรดักทีฟ อีทิกส์ วิจารณ์ว่าแผนการดังกล่าวเท่ากับเป็นการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการมีเพศสัมพันธ์ในหมู่เยาวชนโดยที่ขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับสัมพันธภาพในแง่ของอารมณ์
