xs
xsm
sm
md
lg

ภาพลักษณ์อันแสนเศร้าของซีอีโอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำว่า “ภาพลักษณ์” สำหรับผู้นำ นักธุรกิจ และผู้ชื่อเสียง นั้น เป็นคำที่ดูยิ่งใหญ่และมีความหมายมากล้น...

ใช่แล้ว, ภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับผู้นำนั้น ควรต้อง เก่ง ฉลาด ทันสมัย แถมใจบุญด้วยยิ่งดี และองศาในเชิงบวกเหล่านี้ต้องพยายามสื่อสารให้คนทั่วไปได้รับรู้ ว่า... ผมเก่งนะ ฉันเยี่ยมค่ะ..แม้จะอยู่บนโลกของความโกหก หลอกตัวเอง หลอกคนอื่นก็ตาม

ยิ่งซีอีโอบางคน คิดว่าตัวเองเก่งล้ำเลิศเหนือคู่แข่งขัน บุคคลจำพวกนี้จะพยายามโชว์กึ๋น สร้างบุคลิก พยายามประกาศให้มวลชนรับรู้ว่า เขาคือ ผู้นำตลาด เป็นผู้ริเริ่ม ถึงแม้บางทีจะลอกเลียนวิถีทางของตำราต่างชาติก็ตาม แต่เขาก็ไม่อายหรอกที่เขากล้าจะบอกว่า เป็นผู้ริเริ่ม

ผมเคยมีโอกาสไปสัมภาษณ์ผู้นำองค์กรธุรกิจบัตรเครดิตคนหนึ่ง ที่พยายามสื่อสารให้คนทั่วไปรู้ว่า ที่นี่โมเดิร์น มีไลฟ์สไตล์ทั้งคนในองค์กร และการตกแต่งของออฟฟิศ

แน่นอนซีอีโอบัตรพลาสติกคนนี้ พยายามสื่อสารตัวตนให้คนทั่วไปได้เห็นว่า เก่ง ฉลาด มีไลฟ์สไตล์ในความคิดที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งการแต่งตัวที่มักจะสวมใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืดสีดำ ออกงานทุกครั้งเพื่อสร้างความจดจำ

นั่นแหละที่ทำให้ผมสนใจในฐานะสื่อที่ทำข่าวด้านไลฟ์สไตล์ ประเด็นจึงมองไปที่กางเกงยีนส์ตัวโปรดของเขา ความคิดในเชิงไลฟ์สไตล์ของเขาที่เชื่อมโยงต่อการทำธุรกิจ และไอเดียที่ใครต่อใครมองเห็นเขาว่า คิดเก่ง เจ๋งเกือบทุกเรื่อง

การนัดสัมภาษณ์ถูกนัดหมายขึ้น และบทสนทาได้เริ่มต้นขึ้น ...

นี่ไม่ใช่การพูดคุย ครั้งแรกระหว่างผมกับซีอีโอคนนี้ เคยสัมภาษณ์มาครั้งหนึ่งเมื่อสองปีก่อนสมัยทำนิตยสาร POSITIONING แต่ประโยคเดิมๆก็เกิดขึ้นอีกครั้ง คือ หนังสือพิมพ์ของคุณยอดขายเท่าไหร่ ยอดพิมพ์เท่าใด หนังสือพิมพ์คุณขายได้เหรอ ยังไงหนังสือพิมพ์หัวสีก็ขายได้ดีกว่า

ไม่แน่ใจในวิธีการพูดของเขา แต่เหมือนเขาฝังชิปคำพูดนี้ไว้ในหัว เขาถามแบบเดิมๆ เพื่อเช็กเรตติ้งหนังสือที่จะลง ซึ่งบอกตามตรง ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหรอกครับ แต่ผมไม่ใช่มาขายโฆษณา ไม่ใช่เจ้าของโรงพิมพ์ ในวิถีการคุยที่ดีนั้น เขาไม่ควรเสียมารยาทเรื่องแบบนี้

จากคำถามหนึ่งไปสู่อีกคำถามหนึ่ง ซีอีโอผู้นี้พยายามโชว์กึ๋น ความเป็นนักคิดชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ ถ้าเขาชอบใคร เช่น ชอบคุณสมัคร สุนทรเวช แล้วผมตอบว่าไม่ชอบ เขาจะใช้คำพูดให้ผมรู้สึกว่า คุณโง่ แย่ และเอาชนะให้ได้ด้วยการยกเหตุผลมาร้อยแปด ประหนึ่งว่า ถ้าเขาคิดแบบนี้ คุณมาแย้งเขา เท่ากับคุณเป็นคนละพวกกับเขา

ทัศนคติแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน หากเขาจะชอบทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของเขา แต่เมื่อผมบอกว่าไม่ชอบ เขาก็ควรเคารพความคิดเห็นของคนอื่นบ้าง

ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ผมพยายามถามเรื่องไลฟ์สไตล์ของเขา กางเกงยีนส์ หรือสิ่งที่เขาชอบ และถามเขาประโยคหนึ่งว่า เวลาว่างของคุณชอบทำอะไร...

เขาย้อนกลับมาถามผมว่า เวลาของคุณล่ะทำอะไร....ผมตอบไปว่าถ้าว่างก็จะเล่นกีฬาฟุตบอล เล่นกีตาร์บ้างเขาหันไปถามช่างภาพที่มากับผม ด้วยคำถามเดียวกัน ช่างภาพตอบว่า ฟังเพลง อ่านหนังสือ เขาบอกผมว่า คนที่มีเวลาว่างถือว่า เป็นคนโง่เขลา เหมือนคนพิการไร้สมอง

ซีอีโอบัตรพลาสติกผู้นี้บอกว่า ชีวิตเขาไม่เคยมีเวลาว่าง ขณะเดิน นั่ง ดูทีวีเขาก็จะใช้สมองคิด ไปตีกอล์ฟเขาจะคิดเรื่องการตีให้ดี ไม่เคยมีวันไหนที่เขาว่าง เลิกคิด พยายามหาความรู้ใส่ตัวตลอด ทำให้ไม่โง่ แต่ถ้าคุณว่างไม่ทำอะไร มันเหมือนชีวิตไม่มีคุณค่า...

ผมแย้งไปว่า นิยามเวลาว่างของเขากับของผม คงไม่เหมือนกัน เวลาว่างของผม คือ การพักผ่อนด้วยงานอดิเรก ผ่อนคลายจริงๆ ไม่ต้องเอางานมานั่งคิด ปะปน นั่งฟังเพลงแล้วมานั่งคิดวิเคราะห์ ผมว่า วันหนึ่งทำแบบนี้จะเครียด และบ้ามากกว่า

สีหน้าของเขาแสดงความไม่พอใจกับสิ่งที่ผมตอบ พยายามดูถูกด้วยวาจาที่เหน็บแนมย้ำว่า คนมีเวลาว่าง คือคนโง่

ไม่แน่ใจกับนิยามของซีอีโอคนนี้ ว่า เขาจะพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูเก่ง ฉลาด หรือ เป็นนักคิดอยู่ตลอดเวลาทำไม คำตอบของเขามันบ่งบอกถึง แรงกดดันในตัวของเขา เขาคงเคยถูกมองว่า ไม่ฉลาดเลยเป็นปมลึกๆที่พยายามบอกผู้คนว่า เขาฉลาด และไม่เคยมีเวลาว่าง

ไม่เคยมีเวลาว่างก็ไม่เป็นไรครับ แต่ทางจิตวิทยา บอกว่า คนประเภทนี้คิดว่าตัวเองเก่งตลอดเวลา คิดวิเคราะห์แม้ยามเดิน นั่ง คนกลุ่มนี้จะเครียดหนัก ใกล้บ้าเร็ว และจะรับความผิดหวังไม่ได้

สิ่งที่ผมทราบ ซีอีโอคนนี้ทำงานเก่ง วิเคราะห์การเงินเยี่ยม แต่ชีวิตครอบครัวของเขาล้มเหลว ไม่มีความสุขที่แท้จริง เพราะมัวแต่นั่งวิเคราะห์เชิงมหภาค แต่ลืมวิเคราะห์ตัวเอว่าสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ดี และน่านับถือหรือไม่

ชีวิตควรมีเวลาว่างบ้างครับ ทำให้จิตใจนิ่งๆอยู่กับคนรอบข้างอย่างเป็นสุข ไม่ดูถูกคนอื่น ตีกอล์ฟก็ตีไป ด้วยจิตใจที่พักผ่อน ไม่ใช่ตีแล้วคิดว่า จะล้มคู่ต่อสู้อย่างไร ชีวิตคนเราไม่ควรอยู่กับการแข่งขันตลอดเวลา

ภาพลักษณ์ที่อยากเป็น อวดเด่นมันขึ้นมา อาจสามารถฆ่าตัวเองได้ หากไม่ใช่ของจริง และจะกลายเป็นบูมเมอแรงแบบปากต่อปาก มาทำร้ายตัวเอง

ผมหยิบยก เรื่องราวของของซีอีโอผู้นี้ มาบอกกล่าว เพื่อเป็นกรณีศึกษาถึง ความสำเร็จในชีวิตของคนเรา ไม่ใช่ชีวิตจะมีด้านงานอย่างเดียว คนจะเก่งไม่ต้องอวด คนรอบข้างจะรับรู้ไปเอง ถ้าคิดว่าตัวเก่งแล้วตนเองจะไม่พัฒนา

องค์กรทันสมัยมากขึ้นเพียงใด แต่ผู้นำไม่พัฒนาจิตใจ ตรงนี้เรื่องใหญ่...

ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยการยืนอยู่บนยอดเขาอย่างเดียวดาย ชีวิตจะได้อะไร นอกจากความว่างเปล่า...

วัฒนะชัย ยะนินทร

บรรณาธิการ M-Lite

กำลังโหลดความคิดเห็น