ASTVผู้จัดการรายวัน-สปาและนวดแผนไทยปักธงอิหร่านสำเร็จ เผยลูกค้าเข้าคิวใช้บริการไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ทูตพาณิชย์ชี้เป็นธุรกิจที่มีโอกาสสูง หลังทางการอิหร่านยอมให้ใบอนุญาต
นายอาลี อาซิสเปอร์ เจ้าของบริษัท Tan Aasa Kish Spa and Massage Thailand Iran-Kish เปิดเผยว่า ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน ในการบุกเบิกกิจการสปาและนวดแผนโบราณเต็มรูปแบบและครบวงจรแห่งแรกในอิหร่าน ที่โรงแรม Flamingo บนเกาะ Kish ซึ่งหลังจากเริ่มก่อตั้งเมื่อกลางปี 2551 จนถึงขณะนี้สามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบและได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจากทางการอิหร่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ในการขออนุญาตทำธุรกิจประเภทนี้ในอิหร่าน มีขั้นตอนการดำเนินการที่ยุ่งยาก เพราะต้องแสดงให้ทางการอิหร่านเห็นว่าธุรกิจสปาและนวดแผนไทยไม่ขัดต่อหลักการทางศาสนาอิสลาม ซึ่งจะต้องมีการตระเตรียมหลักฐานทางวิชาการ เอกสารที่แสดงภาพ และวิธีการนวดแผนไทย ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นศาสตร์ที่ได้มีการศึกษาและพัฒนาเป็นองค์ความรู้ที่เชื่อถือได้ และเป็นไปเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
“ได้ลงทุนจัดทำเอกสารวิชาการที่แสดงภาพและวิธีการนวดแผนไทยเป็นภาษาฟาร์ซีกว่า 300 หน้า และได้ใช้เอกสารเหล่านี้ประกอบเอกสารการขอจดทะเบียนเปิดบริการสปาและนวดแผนโบราณไทยกับองค์การท่องเที่ยวและมรดกโลกทางวัฒนธรรมของอิหร่าน (ICHTO) ซึ่งใช้เวลาดำเนินการกว่า 2 ปี จนทำให้สปาและนวดแผนไทยแจ้งเกิดในอิหร่านได้”นายอาลีกล่าว
นายอาลีกล่าวว่า ในการให้บริการสปาและนวดแผนไทยนั้น ได้มีการแยกสถานที่การให้บริการเป็นสัดเป็นส่วนตามเพศ โดยสถานที่บริการสุภาพบุรุษจะแยกออกจากสถานที่ให้บริการสุภาพสตรีอย่างเด็ดขาด และผู้ให้บริการชายนวดผู้ชายและผู้ให้บริการหญิงนวดผู้หญิง และที่สำคัญที่สุด ในการให้บริการนวดแผนไทย จะใช้พนักงานนวดชาวไทยเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันได้มีการว่าจ้างพนักงานชาวไทยจำนวน 9 คน เป็นชาย 4 และหญิง 5 คน
นอกจากนี้ วัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการนวดจะมีการนำเข้าจากไทย เช่น ลูกปะคบ น้ำมันนวด และยังได้มีการตกแต่งสถานที่ให้เป็นแบบไทยๆ รวมทั้งเปิดเพลงไทยเดิมตลอดเวลา โดยมีแผนที่จะเปิดสปาและนวดแผนไทยเพิ่มเติมอีกทั้งในเกาะ Kish และที่กรุงเตหะราน
นายวันชัย วราวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน กล่าวว่า ปัจจุบัน ธุรกิจสปาและนวดแผนโบราณของนายอาลีประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะจากที่สำนักงานฯ ได้ไปเยี่ยมชมกิจการ พบว่ามีลูกค้าชาวอิหร่านมาขอจองเวลารับบริการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาซึ่งทำให้เห็นแนวโน้มว่าธุรกิจสปาและนวดแผนไทยจะเป็นที่นิยมในตลาดอิหร่านเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพราะหลังจากที่ทางการอิหร่านได้ยอมให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจประเภทนี้แล้ว
นายอาลี อาซิสเปอร์ เจ้าของบริษัท Tan Aasa Kish Spa and Massage Thailand Iran-Kish เปิดเผยว่า ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน ในการบุกเบิกกิจการสปาและนวดแผนโบราณเต็มรูปแบบและครบวงจรแห่งแรกในอิหร่าน ที่โรงแรม Flamingo บนเกาะ Kish ซึ่งหลังจากเริ่มก่อตั้งเมื่อกลางปี 2551 จนถึงขณะนี้สามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบและได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจากทางการอิหร่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ในการขออนุญาตทำธุรกิจประเภทนี้ในอิหร่าน มีขั้นตอนการดำเนินการที่ยุ่งยาก เพราะต้องแสดงให้ทางการอิหร่านเห็นว่าธุรกิจสปาและนวดแผนไทยไม่ขัดต่อหลักการทางศาสนาอิสลาม ซึ่งจะต้องมีการตระเตรียมหลักฐานทางวิชาการ เอกสารที่แสดงภาพ และวิธีการนวดแผนไทย ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นศาสตร์ที่ได้มีการศึกษาและพัฒนาเป็นองค์ความรู้ที่เชื่อถือได้ และเป็นไปเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
“ได้ลงทุนจัดทำเอกสารวิชาการที่แสดงภาพและวิธีการนวดแผนไทยเป็นภาษาฟาร์ซีกว่า 300 หน้า และได้ใช้เอกสารเหล่านี้ประกอบเอกสารการขอจดทะเบียนเปิดบริการสปาและนวดแผนโบราณไทยกับองค์การท่องเที่ยวและมรดกโลกทางวัฒนธรรมของอิหร่าน (ICHTO) ซึ่งใช้เวลาดำเนินการกว่า 2 ปี จนทำให้สปาและนวดแผนไทยแจ้งเกิดในอิหร่านได้”นายอาลีกล่าว
นายอาลีกล่าวว่า ในการให้บริการสปาและนวดแผนไทยนั้น ได้มีการแยกสถานที่การให้บริการเป็นสัดเป็นส่วนตามเพศ โดยสถานที่บริการสุภาพบุรุษจะแยกออกจากสถานที่ให้บริการสุภาพสตรีอย่างเด็ดขาด และผู้ให้บริการชายนวดผู้ชายและผู้ให้บริการหญิงนวดผู้หญิง และที่สำคัญที่สุด ในการให้บริการนวดแผนไทย จะใช้พนักงานนวดชาวไทยเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันได้มีการว่าจ้างพนักงานชาวไทยจำนวน 9 คน เป็นชาย 4 และหญิง 5 คน
นอกจากนี้ วัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการนวดจะมีการนำเข้าจากไทย เช่น ลูกปะคบ น้ำมันนวด และยังได้มีการตกแต่งสถานที่ให้เป็นแบบไทยๆ รวมทั้งเปิดเพลงไทยเดิมตลอดเวลา โดยมีแผนที่จะเปิดสปาและนวดแผนไทยเพิ่มเติมอีกทั้งในเกาะ Kish และที่กรุงเตหะราน
นายวันชัย วราวิทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน กล่าวว่า ปัจจุบัน ธุรกิจสปาและนวดแผนโบราณของนายอาลีประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะจากที่สำนักงานฯ ได้ไปเยี่ยมชมกิจการ พบว่ามีลูกค้าชาวอิหร่านมาขอจองเวลารับบริการอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาซึ่งทำให้เห็นแนวโน้มว่าธุรกิจสปาและนวดแผนไทยจะเป็นที่นิยมในตลาดอิหร่านเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เพราะหลังจากที่ทางการอิหร่านได้ยอมให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจประเภทนี้แล้ว