xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ไม่แก้ รธน.ช่วย ส.ส.ไข้หุ้น - "แม้ว"สับสนโฟนอินเซ็กส์เสื่อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ปชป.ยันไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นการถือครองหุ้นของส.ส.-ส.ว. จวก พท.อีแอบ ชงฉวยโอกาสเสนอแก้รัฐธรรมนูญแบบ 3 วาระรวด สอนมวยอ่อนด้อยเรื่องข้อกฎหมาย "เทพไท"ยันแม้ส.ส.ปชป.และพรรคร่วมสิ้นสมาชิกภาพไป22 เสียง รัฐบาลก็ไม่ล่ม เพราะยังมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง จวก"แม้ว"สับสน เที่ยวโฟนอินโพนทะนาว่าตัวเองเซ็กส์เสื่อม

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 วาระรวด เพื่อปลดล็อกปัญหาการถือครองหุ้นของ ส.ส.และส.ว.ที่รอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในอนาคต โดยพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากไม่สนับสนุนการแก้ไขก็จะกลายเป็นอีแอบว่า ตนขอถามกลับว่า คำว่าอีแอบ ใช้เรียกคนที่อาศัยสถานการณ์ โดยฉวยโอกาสทางการเมือง เพื่อแก้รัฐธรรมนูญว่า เป็นอีแอบมากกว่า ดังนั้นจึงต้องกลับไปย้อนถามตัวเอง อีกทั้งยังแสดงถึงความไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญด้วย โดยขอให้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กลับไปศึกษารัฐธรรมนูญให้ถ่องแท้ว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายแม่บท ไม่สามารถแก้ไขผ่าน 3 วาระรวดได้ ซึ่งในวาระที่ 2 ต้องมีการแสดงความเห็นจากประชาชน จากนั้น 15 วัน จึงสามารถดำเนินการต่อได้

กรณีนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เป็นการฉวยโอกาสมากกว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะกรณีนี้ยังไม่มีข้อสรุป กระบวนการยังไม่สิ้นสุด จึงต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดเป็นบรรทัดฐานเสียก่อน

**ยันรัฐบาลยังมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ถือครองหุ้นสัมปทานรัฐ ที่อาจมีปัญหาเรื่องขาดสมาชิกภาพจำนวน 7 คน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลนั้น ส่วนตัวเห็นว่าในวันที่พรรคเพื่อไทย มีส.ส. 180 กว่าคน ก็เห็นว่าทำงานไม่มีประสิทธิภาพในการตรวจอบรัฐบาลเลย แค่หายไป 7 คน ทำเป็นออกมาตีโพยตีพาย และกล่าวโทษรัฐธรรมนูญปี 50 ว่า เป็นต้นเหตุ ส่วนตัวเห็นว่าเป็นนิสัยถาวรของกลุ่มคนเหล่านี้ ที่มักจะโทษรัฐธรรมนูญปี 50 ทุกกรณี

"ผมอยากให้ทุกพรรคการเมืองยอมรับกฎ กติกา ว่าเราใช้รัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ทุกคนก็ต้องยอมรับ ส่วนเรื่องการแก้ไขเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า พรรคร่วมรัฐบาลมี ส.ส.ถือหุ้นหลายคน และอาจจะถูกตัดสิทธิ์และจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่รู้สึกกังวลเพราะวันนี้รัฐบาลมีเสียงสนับสนุน 269 เสียง เมื่อตัด ส.ส. ในกรณีถือครองหุ้นออกไปประมาณ 22 เสียง คือพรรคประชาธิปัตย์ 16 เสียง ที่เหลือเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ยังเหลือเสียงอยู่ 247 เสียง และถ้ารวมฝ่ายค้านอีก 7 เสียง จะทำให้เหลือสมาชิกทั้งสภา 441 คน กึ่งหนึ่งก็ 221 คน ถือว่ายังเกินอยู่ 25 คน ยืนยันว่า ไม่กระทบกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมีการปล่อยข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นการพูดเพื่อปลอบใจตัวเองมากกว่า และเพื่อสร้างกระแสที่จะให้สอดรับกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เน้นโฟนอินในช่วงหลังๆ ถี่มาก"

**"แม้ว"สับสนบอกตัวเองเซ็กส์เสื่อม

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงบิดเบือน ใส่ร้าย พาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ เช่น ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ชนะการเลือกตั้ง แต่เป็นการขโมยคนของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมไปเป็นรัฐบาลนั้น ตนอยากชี้แจงว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ขโมย หรือดึงพรรคใดพรรคหนึ่งเข้ามาร่วมรัฐบาล แต่เป็นเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ยุบพรรคการเมืองต่างๆ และมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยพรรคเหล่านั้นมีมติให้เข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ใช่เรื่องการขโมยอย่างที่กล่าวหา และ ที่กล่าวหาว่าเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็จำเป็นต้องเกี้ยเซียะให้ผลประโยชน์ลงตัว จึงอยู่กันได้ ขอชี้แจงว่าวันนี้ไมได้เกี้ยเซียะอะไรเลยในพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นการทำงานตามหน้าที่ที่ต่างจากการบริหารในยุครัฐบาลทักษิณ ที่มีการบริหารแบบกินรวบ ตามที่ทักษิณชี้นำ ที่ยึดตามหลักซีอีโอ และสุดท้ายคือ การกล่าวหาว่ารัฐบาลดำเนินการสองมาตรฐาน ในการดำเนินการกับคนเสื้อแดง ก็อยากถามว่าที่ทักษิณ เคยระบุว่าไมได้อยู่เบื้องหลังกลุ่มคนเสื้อแดง แต่วันนี้การโฟนอินของทักษิณ เป็นการให้กำลังใจคนเสื้อแดง มีการแก้ต่างให้กัน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มเสื้อแดงทั้งหมด

"สิ่งที่ผมรู้สึกถึงความสับสนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ในตอนท้ายพูดว่าตอนนี้อายุ 60 กว่าปีแล้ว เกิดอาการเซ็กส์เสื่อม ซึ่งถือว่าคนปกติคนไม่บอกกัน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่วันนี้กลับพูดออกมาเองต่อหน้าคนจำนวนมาก หรืออาจจะเจตนาสื่อให้คนที่นี่เข้าใจว่า ตนเองเซ็กส์เสื่อมแล้วไม่ต้องกังวล" เทพไทกล่าว

**ติงสื่อต้องให้ความเป็นธรรม

นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีที่บทวิเคราะห์ของทีมการเมืองจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ฉบับหนึ่ง ที่ใช้ข้อความรุนแรงพาดพิงการทำงานของรัฐบาลว่า “จุดตายรัฐบาลอภิสิทธิ์ กินมูมมาม งานห่วยแตก” ว่า ตนเคารพในการทำหน้าที่ของสื่อ แต่อยากขอความเป็นธรรม เพราะคอมลัมน์นี้ ได้วิเคราะห์วิจารณ์ถึงรัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ด้วยความมีอคติมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ถือว่า พาดหัวคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงมาก จึงอยากจะชี้แจงว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศมา 6 เดือน อยากชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีการทุจริต คอร์รัปชั่น หรือกินมูมมาม ตามที่ถูกกล่าวหา และเรื่องผลงานที่อยากชี้แจงว่า ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามเต็มที่ที่จะผลักดันผลงาน ตามนโยบายหลักให้เป็นรูปธรรม แต่ด้วยข้อจำกัดของงบประมาณอย่างที่ทราบ จึงไม่สามารถทำได้เต็มที่เท่าที่ควร แต่วันนี้เรามี พ.ร.ก. และพ.ร.บ. กู้เงินแล้ว หลังจากนี้คงมีผลงานออกมาให้ได้เห็น จึงขอให้อย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงมาวิเคราะห์ จนทำให้รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์เสียหาย จึงอยากให้ฟังกระแสสังคมผ่านผลโพลล์ต่างๆด้วย

**พท.หาทางช่วย 7 ส.ส.ไข้หุ้น

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เตรียมหารือเพื่อให้การช่วยเหลือ 7 ส.ส.ของพรรค ที่ถูกคำร้องให้พ้นสมาชิกภาพจากการถือหุ้นสัมปทานของรัฐ หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเช่นกับ ส.ว.ที่ถูกตัดสินให้พ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ว. โดยพรรคจะเรียกส.ส.ทั้ง 7 คนมาชี้แจง และให้ข้อมูลก่อนรวบรวมข้อมูลทั้งหมดชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันพรรคเพื่อไทยเคารพคำตัดสินของ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญ หากมีคำวินิจฉัยว่ากระทำขัดต่อกฎหมาย ก็พร้อมจะเลือกตั้งซ่อม

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า วันนี้ ส.ส. ทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล และส.ว.ก็โดนกันถ้วนหน้า แต่พรรคประชาธิปัตย์ โดนมากที่สุด ซึ่งผู้ที่เคยเห็นชอบกับรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยอำนาจรัฐประหาร กฎหมายที่เขียนขึ้นมาเพื่อทำลายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพียงคนเดียว กำลังย้อนกลับมาหาตัวเอง เสมือนการขว้างงูไม่พ้นคอ แต่ส่วนตัวเห็นว่ากฎหมายระบุชัดว่าการถือหุ้นแม้เพียงบาทเดียว ก็ถือว่ากระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญ
กำลังโหลดความคิดเห็น