รอยเตอร์ – ผลสำรวจความคิดเห็นของโพล 2 สำนัก ระบุตรงกันในวันพุธ (17) ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯที่ได้คะแนนนิยมอย่างสูงมาตลอด เวลานี้กำลังเผชิญกับความหวั่นวิตกมากขึ้นของชาวอเมริกัน ทั้งในเรื่องการใช้จ่ายเงินของรัฐบาล และเรื่องแผนการกอบกู้อุตสาหกรรมรถยนต์ตลอดจนนโยบายเศรษฐกิจอื่น
ผลสำรวจความคิดเห็นของเอ็นบีซี นิวส์/วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ล่าสุดระบุว่า โอบามาซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ยังได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนอย่างสูง แต่คะแนนสำหรับการทำงานโดยภาพรวมได้ลดลงจากเดือนเมษายน 5 จุด โดยเวลานี้อยู่ที่ 56 เปอร์เซ็นต์
มีผู้ตอบแบบสอบถาม 58 เปอร์เซ็นต์เห็นว่า โอบามาและรัฐสภาควรให้ความสำคัญกับการตัดทอนงบประมาณการใช้จ่ายภาครัฐลง แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต้องใช้เวลานานขึ้นก็ตาม ทั้งนี้สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ คาดหมายเอาไว้ว่า การขาดดุลงบประมาณของประเทศในปีนี้ อาจสูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนั้น เกือบๆ 70 เปอร์เซ็นต์แสดงความวิตกเกี่ยวกับการแทรกแซงเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงการที่โอบามาตัดสินใจให้รัฐบาลเข้าไปถือหุ้นเป็นเจ้าของกิจการบริษัทรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ตลอดจนแนวโน้มที่รัฐบาลจะเข้าแทรกแซงในเรื่องการรักษาพยาบาล เพราะโอบามาถือว่าการปฏิรูประบบการรักษาพยาบาลเป็นภารกิจหลักอย่างหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ ตามที่เขาได้รณรงค์หาเสียงเอาไว้
อย่างไรก็ตาม มีผู้ตอบเพียง 37 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เห็นว่าโอบามาเข้าไปยุ่งกับเรื่องต่างๆ มากเกินไป ส่วนอีก 60 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเขาต้องสนใจเข้าไปแก้ปัญหาต่างๆ หลายเรื่องมาก ก็เพราะสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหามากมายนั่นเอง
แม้ว่าข้อวิพากษ์วิจารณ์ของพรรครีพับลิกันต่อนโยบายของพรรคเดโมแครต อาจมีส่วนต่อการให้คะแนนของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง แต่ยุทธศาสตร์ดังกล่าวดูเหมือนไม่ได้ช่วยให้พรรครีพับลิกันเองมีคะแนนนิยมดีขึ้นแต่อย่างใด
โดยผลสำรวจความคิดเห็นจากซีบีเอส นิวส์/นิวยอร์ก ไทม์ส์ ซึ่งเปิดเผยในวันเดียวกัน ระบุว่า พรรครีพับลิกันมีคะแนนนิยมเพียง 28 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นับเป็นคะแนนต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจ ในขณะที่พรรคเดโมแครตมีคะแนนนิยม 57 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนั้น ผลสำรวจชุดดังกล่าวยังพบอีกว่า มีความแตกต่างอย่างเด่นชัดระหว่างภาพรวมของโอบามา และนโยบายริเริ่มสำคัญๆ ของเขา ในสายตาของชาวอเมริกัน
เรตติ้งการยอมรับผลงานของโอบามายังคงได้เท่ากับที่สำรวจเมื่อเดือนก่อน คือ 63 เปอร์เซ็นต์ แต่มีผู้ตอบจำนวนไม่ถึงครึ่งหนึ่งเห็นด้วยกับวิธีการปฏิรูประบบการรักษาพยาบาลของเขา ตลอดจนความพยายามเข้าไปช่วยเหลือจีเอ็มกับไครส์เลอร์ด้วย
ผลสำรวจพบอีกว่าชาวอเมริกันตื่นตระหนกกับตัวเลขงบประมาณที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลควรต้องหันมาลดการขาดดุลงบประมาณลง
นอกจากนั้น ผลสำรวจความคิดเห็นของทั้งสองสำนักพบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของโอบามาเรื่องการปิดค่ายกักกันนักโทษที่อ่าวกวนตานาโมในคิวบา
การสำรวจของเอ็นบีซี/วอลสตรีท เจอร์นัล จัดทำขึ้นในช่วงระหว่างวันศุกร์ (12)ถึงวันจันทร์(15) โดยมีค่าความผิดพลาดบวกลบ 3.1 เปอร์เซ็นต์
ส่วนการสำรวจความเห็นของซีบีเอส/นิวยอร์ก ไทม์ส์ ใช้วิธีการโทรศัพท์สอบถามความเห็นของตัวอย่างประชากรวัยผู้ใหญ่ 895 ตัวอย่าง โดยจัดทำในระหว่างวันศุกร์(12)ถึงวันอังคาร(16) และมีค่าความผิดพลาดบวกลบ 3 เปอร์เซ็นต์
ผลสำรวจความคิดเห็นของเอ็นบีซี นิวส์/วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ล่าสุดระบุว่า โอบามาซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ยังได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนอย่างสูง แต่คะแนนสำหรับการทำงานโดยภาพรวมได้ลดลงจากเดือนเมษายน 5 จุด โดยเวลานี้อยู่ที่ 56 เปอร์เซ็นต์
มีผู้ตอบแบบสอบถาม 58 เปอร์เซ็นต์เห็นว่า โอบามาและรัฐสภาควรให้ความสำคัญกับการตัดทอนงบประมาณการใช้จ่ายภาครัฐลง แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต้องใช้เวลานานขึ้นก็ตาม ทั้งนี้สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐฯ คาดหมายเอาไว้ว่า การขาดดุลงบประมาณของประเทศในปีนี้ อาจสูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนั้น เกือบๆ 70 เปอร์เซ็นต์แสดงความวิตกเกี่ยวกับการแทรกแซงเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งรวมไปถึงการที่โอบามาตัดสินใจให้รัฐบาลเข้าไปถือหุ้นเป็นเจ้าของกิจการบริษัทรถยนต์ เจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ตลอดจนแนวโน้มที่รัฐบาลจะเข้าแทรกแซงในเรื่องการรักษาพยาบาล เพราะโอบามาถือว่าการปฏิรูประบบการรักษาพยาบาลเป็นภารกิจหลักอย่างหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ ตามที่เขาได้รณรงค์หาเสียงเอาไว้
อย่างไรก็ตาม มีผู้ตอบเพียง 37 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เห็นว่าโอบามาเข้าไปยุ่งกับเรื่องต่างๆ มากเกินไป ส่วนอีก 60 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเขาต้องสนใจเข้าไปแก้ปัญหาต่างๆ หลายเรื่องมาก ก็เพราะสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหามากมายนั่นเอง
แม้ว่าข้อวิพากษ์วิจารณ์ของพรรครีพับลิกันต่อนโยบายของพรรคเดโมแครต อาจมีส่วนต่อการให้คะแนนของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง แต่ยุทธศาสตร์ดังกล่าวดูเหมือนไม่ได้ช่วยให้พรรครีพับลิกันเองมีคะแนนนิยมดีขึ้นแต่อย่างใด
โดยผลสำรวจความคิดเห็นจากซีบีเอส นิวส์/นิวยอร์ก ไทม์ส์ ซึ่งเปิดเผยในวันเดียวกัน ระบุว่า พรรครีพับลิกันมีคะแนนนิยมเพียง 28 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นับเป็นคะแนนต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีการสำรวจ ในขณะที่พรรคเดโมแครตมีคะแนนนิยม 57 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนั้น ผลสำรวจชุดดังกล่าวยังพบอีกว่า มีความแตกต่างอย่างเด่นชัดระหว่างภาพรวมของโอบามา และนโยบายริเริ่มสำคัญๆ ของเขา ในสายตาของชาวอเมริกัน
เรตติ้งการยอมรับผลงานของโอบามายังคงได้เท่ากับที่สำรวจเมื่อเดือนก่อน คือ 63 เปอร์เซ็นต์ แต่มีผู้ตอบจำนวนไม่ถึงครึ่งหนึ่งเห็นด้วยกับวิธีการปฏิรูประบบการรักษาพยาบาลของเขา ตลอดจนความพยายามเข้าไปช่วยเหลือจีเอ็มกับไครส์เลอร์ด้วย
ผลสำรวจพบอีกว่าชาวอเมริกันตื่นตระหนกกับตัวเลขงบประมาณที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลควรต้องหันมาลดการขาดดุลงบประมาณลง
นอกจากนั้น ผลสำรวจความคิดเห็นของทั้งสองสำนักพบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของโอบามาเรื่องการปิดค่ายกักกันนักโทษที่อ่าวกวนตานาโมในคิวบา
การสำรวจของเอ็นบีซี/วอลสตรีท เจอร์นัล จัดทำขึ้นในช่วงระหว่างวันศุกร์ (12)ถึงวันจันทร์(15) โดยมีค่าความผิดพลาดบวกลบ 3.1 เปอร์เซ็นต์
ส่วนการสำรวจความเห็นของซีบีเอส/นิวยอร์ก ไทม์ส์ ใช้วิธีการโทรศัพท์สอบถามความเห็นของตัวอย่างประชากรวัยผู้ใหญ่ 895 ตัวอย่าง โดยจัดทำในระหว่างวันศุกร์(12)ถึงวันอังคาร(16) และมีค่าความผิดพลาดบวกลบ 3 เปอร์เซ็นต์