เอเอฟพี - สายการบินในสหรัฐฯ หลายแห่ง มีแนวโน้มจะหากลยุทธทางธุรกิจมาดึงดูดบรรดาลูกค้ากระเป๋าหนักและนักธุรกิจให้มาใช้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศของตนเพิ่มมากขึ้น โดยต่างมั่นใจว่าการเน้นเอาใจ "คนรวย"จะช่วยแก้ปัญหารายได้ตกต่ำในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจได้ ด้านนักวิเคราะห์ชี้สายการบินใดที่สร้างความประทับใจแก่ลูกค้าระดับวีไอพีได้มากก็จะมีแนวโน้มฟื้นตัวเร็วขึ้น
เกล็นน์ ทิลตัน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์สให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์เมื่อวันพุธ(17)โดยระบุ กำลังพิจารณาปฏิรูปการให้บริการในชั้นเฟิร์สต์คลาส และชั้นนักธุรกิจให้มีความหรูหราและสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีรายได้สูง บุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคม และนักธุรกิจระดับวีไอพีให้หันมาใช้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศของยูไนเต็ด แอร์ไลน์สมากขึ้น โดยคาดว่าแผนการนี้จะเป็นช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้
ทิลตันชี้ว่าสายการบินต่างๆ ในสหรัฐฯ ต้องแข่งขันกันอย่างหนักเพื่อแย่งชิงลูกค้าท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ซึ่งลูกค้าลดลงอย่างมาก และการดึงดูด " ลูกค้ากระเป๋าหนัก " ถือเป็น "สัญญาณแห่งชีวิต" ที่น่าจะช่วยให้สายการบินในสหรัฐฯ สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
เขาระบุว่าอาจจำเป็นต้องลดเส้นทางบินในประเทศลงจาก73เส้นทางขณะนี้ เพื่อนำเงินไปปฏิรูปเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้ง41เส้นทางใน25ประเทศของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส
แต่ทิลตันยอมรับว่ายังไม่อาจรับรองได้ว่า แผนปรับปรุงเส้นทางบินระหว่างประเทศเพื่อดึงดูดลูกค้ามีฐานะในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รายได้ของยูไนเต็ด แอร์ไลน์สในเอเชียก็ลดลงถึงร้อยละ15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่เส้นทางบินในแถบแปซิฟิกก็มีรายได้ลดลงร้อยละ12.7เช่นกัน
ด้านริชาร์ด แอนเดอร์สัน ซีอีโอของเดลต้า แอร์ไลน์ส ซึ่งมีฐานที่แอตแลนตาในรัฐจอร์เจีย
ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคาร(16)ว่า มีแผนเดินหน้าปรับปรุงเที่ยวบินชั้นเฟิร์สต์คลาส และชั้นธุรกิจในเส้นทางระหว่างประเทศซึ่งแม้จะมีผู้โดยสารน้อย แต่ก็มั่นใจว่าจะทำรายได้ให้กับสายการบินได้มากกว่าเที่ยวบินในประเทศหลายเท่า
แอนเดอร์สันกล่าวว่า "ค่าใช้จ่ายของเศรษฐี 1 คนในการโดยสารเครื่องบินอาจสูงกว่าผู้โดยสารทั่วไปในชั้นประหยัด3-5 เท่า"
เขาระบุว่า เดลต้า แอร์ไลน์สเตรียมเปิดตัวเที่ยวบินระหว่างประเทศระดับพรีเมี่ยมเร็วๆนี้โดยจะเริ่มจากเที่ยวบินมายังประเทศในแถบเอเชีย-แปซิฟิกก่อน แม้ว่ารายได้ของเดลต้า แอร์ไลน์สในภูมิภาคนี้เมื่อปีที่แล้วจะลดลงถึงร้อยละ31.6ก็ตาม
จิม คอร์ริดอร์ นักวิเคราะห์ธุรกิจสายการบินจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือ"เอสแอนด์พี"ระบุว่า ขณะนี้สายการบินต่างๆของสหรัฐฯ เช่นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส, เดลต้า แอร์ไลน์ส, และอเมริกัน แอร์ไลน์ส มีแนวโน้มจะหารายได้จากผู้โดยสารที่มีฐานะในเที่ยวบินระหว่างประเทศมากขึ้น แม้ผลประกอบการของสายการบินเหล่านี้ในเที่ยวบินระหว่างประเทศจะไม่ดีนักในปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือเป็น"ความเสี่ยงที่คุ้มค่า" ในภาวะที่ผู้โดยสารลดน้อยลงจากผลของวิกฤตการเงินโลกและการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
ขณะที่ บิลล์ วอร์ลิค ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจการบินจาก"ฟิตช์ เรตติ้ง"ชี้ว่า วิกฤตเศรษฐกิจผลักดันให้สายการบินต่างๆต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และการ"หากินกับคนรวย"ถือเป็นวิธีการหารายได้เพิ่มที่ชาญฉลาดของบรรดาผู้บริหารสายการบินเหล่านี้ นอกจากนั้น วอร์ลิคยังระบุว่าสายการบินที่สามารถสร้างรายได้จากการบุกตลาดลูกค้าวีไอพีได้มาก ก็มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากภาวะซบเซาได้เร็วยิ่งขึ้น
เกล็นน์ ทิลตัน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์สให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในชิคาโก มลรัฐอิลลินอยส์เมื่อวันพุธ(17)โดยระบุ กำลังพิจารณาปฏิรูปการให้บริการในชั้นเฟิร์สต์คลาส และชั้นนักธุรกิจให้มีความหรูหราและสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีรายได้สูง บุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงสังคม และนักธุรกิจระดับวีไอพีให้หันมาใช้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศของยูไนเต็ด แอร์ไลน์สมากขึ้น โดยคาดว่าแผนการนี้จะเป็นช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้
ทิลตันชี้ว่าสายการบินต่างๆ ในสหรัฐฯ ต้องแข่งขันกันอย่างหนักเพื่อแย่งชิงลูกค้าท่ามกลางภาวะวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ซึ่งลูกค้าลดลงอย่างมาก และการดึงดูด " ลูกค้ากระเป๋าหนัก " ถือเป็น "สัญญาณแห่งชีวิต" ที่น่าจะช่วยให้สายการบินในสหรัฐฯ สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
เขาระบุว่าอาจจำเป็นต้องลดเส้นทางบินในประเทศลงจาก73เส้นทางขณะนี้ เพื่อนำเงินไปปฏิรูปเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้ง41เส้นทางใน25ประเทศของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส
แต่ทิลตันยอมรับว่ายังไม่อาจรับรองได้ว่า แผนปรับปรุงเส้นทางบินระหว่างประเทศเพื่อดึงดูดลูกค้ามีฐานะในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รายได้ของยูไนเต็ด แอร์ไลน์สในเอเชียก็ลดลงถึงร้อยละ15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่เส้นทางบินในแถบแปซิฟิกก็มีรายได้ลดลงร้อยละ12.7เช่นกัน
ด้านริชาร์ด แอนเดอร์สัน ซีอีโอของเดลต้า แอร์ไลน์ส ซึ่งมีฐานที่แอตแลนตาในรัฐจอร์เจีย
ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอังคาร(16)ว่า มีแผนเดินหน้าปรับปรุงเที่ยวบินชั้นเฟิร์สต์คลาส และชั้นธุรกิจในเส้นทางระหว่างประเทศซึ่งแม้จะมีผู้โดยสารน้อย แต่ก็มั่นใจว่าจะทำรายได้ให้กับสายการบินได้มากกว่าเที่ยวบินในประเทศหลายเท่า
แอนเดอร์สันกล่าวว่า "ค่าใช้จ่ายของเศรษฐี 1 คนในการโดยสารเครื่องบินอาจสูงกว่าผู้โดยสารทั่วไปในชั้นประหยัด3-5 เท่า"
เขาระบุว่า เดลต้า แอร์ไลน์สเตรียมเปิดตัวเที่ยวบินระหว่างประเทศระดับพรีเมี่ยมเร็วๆนี้โดยจะเริ่มจากเที่ยวบินมายังประเทศในแถบเอเชีย-แปซิฟิกก่อน แม้ว่ารายได้ของเดลต้า แอร์ไลน์สในภูมิภาคนี้เมื่อปีที่แล้วจะลดลงถึงร้อยละ31.6ก็ตาม
จิม คอร์ริดอร์ นักวิเคราะห์ธุรกิจสายการบินจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือ"เอสแอนด์พี"ระบุว่า ขณะนี้สายการบินต่างๆของสหรัฐฯ เช่นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส, เดลต้า แอร์ไลน์ส, และอเมริกัน แอร์ไลน์ส มีแนวโน้มจะหารายได้จากผู้โดยสารที่มีฐานะในเที่ยวบินระหว่างประเทศมากขึ้น แม้ผลประกอบการของสายการบินเหล่านี้ในเที่ยวบินระหว่างประเทศจะไม่ดีนักในปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือเป็น"ความเสี่ยงที่คุ้มค่า" ในภาวะที่ผู้โดยสารลดน้อยลงจากผลของวิกฤตการเงินโลกและการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
ขณะที่ บิลล์ วอร์ลิค ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจการบินจาก"ฟิตช์ เรตติ้ง"ชี้ว่า วิกฤตเศรษฐกิจผลักดันให้สายการบินต่างๆต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด และการ"หากินกับคนรวย"ถือเป็นวิธีการหารายได้เพิ่มที่ชาญฉลาดของบรรดาผู้บริหารสายการบินเหล่านี้ นอกจากนั้น วอร์ลิคยังระบุว่าสายการบินที่สามารถสร้างรายได้จากการบุกตลาดลูกค้าวีไอพีได้มาก ก็มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวจากภาวะซบเซาได้เร็วยิ่งขึ้น
