ไปพบเว็บไซต์หนึ่งมีชื่อว่า www.64forsuu.org เมื่อคลิกเข้าไปก็พบว่า นี่คือเว็บไซต์ที่เพิ่งทำขึ้นมาได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้นจากกลุ่มคนรักสันติภาพกลุ่มหนึ่งซึ่งมีทั้งคนพม่า ไทยและชาวต่างประเทศหลายชาติ
64 for Suu เป็นศูนย์กลางของโลกแห่งการสนับสนุนนางอองซาน ซูจี ผู้นำเพื่อประชาธิปไตยผู้ถูกกักขังแห่งพม่า ในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 64 ของเธอ
ในเว็บไซต์นี้ผู้ชมสามารถชมวิดีโอ ข้อความ และภาพจากทั่วโลก ซึ่งส่งเข้ามาโดยนักการเมือง ผู้มีชื่อเสียง และสาธารณชนทั่วไปผู้สนับสนุนแนวทางการต่อสู้ของนางอองซาน ซูจี
เมื่ออ่านแล้วถ้าเกิดแนวความคิดเดียวกัน ผู้ชมก็สามารถส่งเนื้อหาของท่านเข้าไปในเว็บไซต์นี้ได้
เว็บไซต์ 64 คำเพื่อซู ถูกจัดทำขึ้นในเวลาเพียง 6 วัน โดยมีเจ้าของนามว่า Rechord เป็นผู้ออกแบบ และจัดทำเว็บไซต์ Catalyst2 จัดการเรื่องเว็บโฮสติ้งในเวลากระชั้นชิด
เว็บไซต์นี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสิทธิมนุษยชนพม่าที่มีอยู่เกือบทั่วโลก และองค์กรด้านแรงงานอีกหลายประเทศ โดยจัดทำเป็นภาษาต่างๆ 8 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน สแปนิช ไทย จีน และอินโดฯ
หลังจากเว็บไซต์นี้เกิดขึ้นไม่นาน มีคนดังระดับโลกส่งข้อความอวยพรวันเกิดให้ออง ซาน ซูจี พร้อมแนบคำเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าปลดปล่อยซูจีให้เป็นอิสระ และปลดปล่อยพม่าให้พ้นเงื้อมมือเผด็จการทหารเสียที
คนดังๆ ที่เข้ามาเขียน หรือพูด ภายในความยาว 64 คำเพื่ออองซาน ซูจีมีตั้งแต่...
โยโกะ โอโนะ ภรรยาม่ายชาวญี่ปุ่นของจอห์น เลนนอน ที่ส่งเสียงมาจากนิวยอร์กผ่านทางระบบทวิตเตอร์ว่า “ปลดปล่อยอองซาน ซูจีเดี๋ยวนี้” และโยโกะได้เหน็บแนมรัฐบาลทหารพม่าทั้งแสบทั้งคันว่า “เต้นรำดีกว่าเดินขบวนน่า”
ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลจากทั่วโลกในรอบ 20 ปีมานี้ ไม่มีใครสักคนที่จะยอมพลาดวาระ 64 คำเพื่อซู แน่นอนทุกคนพูดถึงสิทธิเสรีภาพ สันติภาพ และโน้มน้าวให้รัฐบาลทหารพม่า ปล่อยอองซาน ซูจีออกมาจากการถูกกักขังในคุกโหดอินเซ่งเดี๋ยวนี้ หลังจากที่มีทีท่าว่า รัฐบาลเผด็จการทหารจะจับซูจีขังต่อไปอีก 5 ปี จากกรณีนายยัททอว์ ว่ายน้ำเข้าไปในบ้านของเธอ โดยพลการ และรัฐบาลเผด็จการเสเสร้งมั่วข้อกล่าวหา และจับเธอโยนใส่คุกต่ออีก 5 ปี ทั้งๆ ที่เธอใกล้จะได้รับอิสระในไม่ช้านี้
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กอร์ดอน บราวน์ ที่กำลังเผชิญกับการเมืองภายในประเทศ ยังส่งภาพ 64 คำพูดทางยูทูบเพื่อซูจี เขาเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่ออิสรภาพของผู้หญิงคนนี้ที่ต่อสู้มายาวไกลแล้ว
ขณะเดียวกันคนอังกฤษถือว่าอองซาน ซูจีเป็นทั้งลูกสาว เป็นทั้งน้องสาวของพวกเขาอีกคนหนึ่ง ในฐานะที่เธอมาเรียน และแต่งงานมีลูกมีเต้าอยู่ที่ลอนดอน ดังนั้นคนดังแห่งอังกฤษจากทุกวงการ ทั้งการเมือง วิชาการ ดารา นักร้อง นางแบบ และนักฟุตบอลอาชีพพาเหรดกันเข้าร่วมส่ง 64 คำเพื่อซูกันเนืองแน่น
เช่น เดวิค เบคแฮม พ่อแข้งทองคำขวัญใจคนรักเกมกีฬาฟุตบอลทั่วโลก หรือ ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของอาณาจักรเวอร์จิ้นผู้มั่งคั่ง และนักเขียนชื่อกระฉ่อน ซัลมาน รัสดี เป็นต้น
ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแทบทุกคนในเครือจักรภพอังกฤษ และหลายประเทศในแถบเอเชียกับสแกนดิเนเวีย ต่างส่งคำพูดผ่านยูทูบมาสู่ 64 คำเพื่อซู ข้อความเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว และแหลมคมแต่ไม่ก้าวก่าย
ทางด้านคนญี่ปุ่น และผู้นำทุกภาคส่วนทางราชการและเอกชนรวมถึงองค์อิสระแทบทุกองค์กร และดารา นักร้อง นักแต่งเพลง นักเขียนชื่อดัง ก็ประสานเสียงส่ง 64 คำพูด และ 64 คำเขียนเพื่ออองซาน ซูจี
ทุกคนมาแนวทางเดียวกันหมด เหมือนโยโกะ โอโนะ คือ ปล่อยอองซาน ซูจีเดี๋ยวนี้ไม่มีเงื่อนไข
ญี่ปุ่นเสียงดังเสมอกับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า และเข้ามามีบทบาทตั้งแต่สมัยครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเอกราชจอมปลอมที่นายพลอองซาน บิดาของอองซาน ซูจีตั้งข้อสงสัยจนหันเหไปหาฝ่ายสัมพันธมิตรในที่สุด อย่างไรก็ตามจนถึงบัดนี้ ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ลงทุนในพม่ามากมาย และมีบทบาทต่อการปลดปล่อยซูจีอย่างสูง ว่ากันว่าการปลดปล่อยอองซาน ซูจีครั้งที่ 1 หลังจากถูกกักขังในบริเวณบ้านมา 6 ปีนั้นมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นที่สำคัญยิ่งคือ ปัจจัยการกดดันจากมหาอำนาจปลาดิบ ที่รัฐบาลทหารเผด็จการพม่าเกรงใจ
นักการเมืองจากวอชิงตันก็ไม่ยอมตกขบวนรถไฟสาย 64 คำเพื่อซู และวงการฮอลลีวูดก็สร้างสีสันให้กับเว็บไซต์ 64 คำเพื่อซูจนโด่งดังภายในสัปดาห์เดียว หลังจากที่จอร์จ คลูนี่ย์ - จูเลีย โรเบิร์ต –แมท เดมอน และผู้กำกับชื่อดังทั้งหลายออกแถลงการณ์ว่า
“เมื่อ 19 ปีที่แล้วชนชาวพม่าเลือกอองซาน ซูจีเป็นผู้นำ แต่ 19 ปีถัดมาเธอกลับถูกกักขังโดยรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าที่เข้ามาบริหารประเทศแทนเธอ วันนี้พวกเราจะไม่ยืนดูอย่างเงียบๆ อีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราทั่วโลกจะต้องเปล่งเป็นเสียงเดียวกันว่า ปลดปล่อยอองซาน ซูจี”
คนฮอลลีวูดสร้างจารีตใหม่ให้กับการเมืองโลกเสมอ
คราวนี้พวกเขาใช้พลังดาราสร้างพลังอำนาจต่อรองเพื่อ อองซาน ซูจี สุภาพสตรีที่ฮอลลีวูดถือว่าเป็น “ฮีโร่ในดวงใจ”
เรื่องนี้ยืนยันได้จาก 64 คำเพื่อซูจาก เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับ-ผู้อำนวยการสร้างคนดังแห่งฮอลลีวูด ขึ้นต้นประโยคแรกก็สะท้านใจแล้วว่า
“อองซาน ซูจีคือ ฮีโร่ตัวจริงของผม เธอยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชนชาวพม่า และต่อสู้เพื่อสันติภาพของมวลมนุษยชนทั่วโลก ผมชื่นชมในตัวอองซาน ซูจี เพราะเธอเหมือนฮีโร่ในภาพยนตร์ที่ผมสร้างขึ้นมาซึ่งล้วนแล้วแต่ต่อต้านความอยุติธรรมทั้งสิ้น แต่กระนั้นฮีโร่ในภาพยนตร์ก็ไม่ใช่เรื่องจริง แต่อองซาน ซูจีนี่สิเธอคือฮีโร่ในชีวิตจริง และวันนี้เธอต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ”
ส่วนอ.ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส่งเสียงอวยพรวันเกิดให้กับอองซาน ซูจีที่เป็นทั้งเพื่อนรุ่นน้องจากสถาบันเดียวกัน ครอบครัวของเธอที่อังกฤษกับอ.ไกรศักดิ์ก็แนบแน่นกันเป็นอย่างดีด้วย ในครั้งนี้แม้มีเวลาเพียง 64 คำ แต่อ.ไกรศักดิ์ก็ไม่รีรอที่จะกดดันให้ประชาคมโลกช่วยกันกดดันรัฐบาลทหารพม่าให้ “ปลดปล่อยอองซาน ซูจี ปลดปล่อยสหภาพพม่า”
เว็บไซต์ 64 คำเพื่อซู ยังรวบรวมประวัติชีวิต และการต่อสู้ของวีรสตรีพม่าที่กำลังจะครบ 64 ปีในเร็ววันนี้ และยังแสดงพลังของกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในพม่า ซึ่งมีกระจัดกระจายไปทั่วโลก และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกเช่นกัน
การต่อสู้ในทุกๆ ด้านขององค์กรภายนอกกำลังเพิ่มแรงบีบคั้นรัฐบาลเผด็จการทหารพม่ามากขึ้นทุกที มีการต่อรองทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองมากขึ้น
ขณะที่แรงรุกกลับของชนกลุ่มน้อยผู้เรียกร้องเอกราชมาแต่ครั้งสนธิสัญญาปางโหลแห่งลุ่มน้ำอิระวดีถูกฉีกทิ้งอย่างไม่เป็นธรรมก็กำลังเพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้น
เสียงเรียกร้องจากคนสำคัญ และมีพลังอำนาจทั่วโลกกำลังอื้ออึง
เสียงตะโกนให้ “ปลดปล่อยซูจี คืนประชาธิปไตยให้พม่า” กำลังดังเซ็งแซ่
เสียงสวรรค์เหล่านี้ขับขานท่วงทำนองเดียวกันกับเสียงของสาธารณชนผู้ใฝ่สันติภาพทั่วโลก ที่กำลังกึกก้อง
นี่เป็นการประลองกำลังซึ่งกันและกันระหว่างปืนกับปาก
กำลังของใครจะยิ่งใหญ่ และกำชัยชนะระหว่างกระสุนกับกระแสเสียง
เสียงของใครจะดังกลบสียงใครระหว่างเสียงเผด็จการกับเสียงประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยที่อองซาน ซูจี เรียกร้องร่วมกับชนชาวพม่ามาตั้งแต่เธอเดินทางกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ที่ป่วยหนัก และไม่ได้กลับคืนสู่ครอบครัวที่อังกฤษอีกเลย จนสามี “ไมเคิล อริส” มาด่วนตายจากกันไปโดยไม่ร่ำลา และจนลูกชายสองคน อเล็กซานเดอร์ และคิม เติบโตเรียนจบมีลูกมีเต้า ก็ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ร่วมยินดี
กว่า 20 ปีแล้วที่บุตรีแห่งนายพลอองซาน วีรบุรุษผู้เรียกร้องเอกราชให้ชนชาติพม่า ต้องถูกกักขังทั้งในคุกอินเซ่งที่ทารุณโหดร้าย และในบ้านพักที่ขาดแคลนไปเสียทุกสิ่งอย่าง
“ดิฉันไม่ยอมรับสิ่งใดจากทหารเลย บางครั้งดิฉันแทบไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารรับประทาน ทำให้ร่างกายดิฉันอ่อนแอมาก ผมของดิฉันร่วง บางครั้งไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้ ทุกครั้งที่ร่างกายเคลื่อนไหว หัวใจของดิฉันจะเต้นแรง หายใจไม่ออก น้ำหนักของดิฉันลดลงจาก 106 ปอนด์ เหลือเพียง 90 ปอนด์ ดิฉันคิดว่าตัวเองอาจตายด้วยหัวใจล้มเหลวมากกว่าการอดอาหาร” อองซาน ซูจีเคยเล่าให้สื่อมวลชนต่างประเทศฟังเมื่อได้รับการปลดปล่อยจากการถูกกักขังใน 6 ปีแรก
ในช่วงเวลาที่อองซาน ซูจี สัญลักษณ์ของการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ ต่อสู้มาด้วยแนวทางอหิงสา เธอและเพื่อนร่วมชาติเปี่ยมอุดมการณ์ถูกทำร้าย ไล่ล่า เข่นฆ่า จับกุม คุมขัง ปราศจากอิสรภาพ
“กำแพงคุกส่งผลสะเทือนถึงภายนอกเช่นกัน” ซูจีเคยบอกไว้ และเป็นวาทกรรมที่โลกร่ำลือถึงความคมคาย ที่สะเทือนหัวใจเผด็จการทั่วโลกไม่แม้แต่ในพม่า
รัฐบาลเผด็จการทหารกอบโกยความมั่งคั่งจากผืนแผ่นดินพม่าไปเป็นสมบัติของตัวเองและครอบครัว และใช้กระบอกปืนปิดปากประชาชน ใช้รองเท้าบู๊ตเหยียบย่ำกดขี่ข่มเหงความเป็นคนของชนพม่าให้ต้อยต่ำติดดินเรี่ยปลายเท้าเผด็จการโฉด
ประชาคมทั่วโลกเฝ้ามองความเป็นไปในพม่าด้วยสายตาหดหู่มายาวนาน และบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะรวบรวมสรรพกำลังช่วยเหลือ อองซาน ซูจี ให้รอดจากคุกโหดทหารพม่า จากศาลเตี้ยที่จะดุนหลังเธอด้วยปืนไปสู่คุกอินเซ่งที่ทารุณโหดร้าย และเหี้ยมเกรียม
“สิ่งที่ทำสำเร็จ คือ การที่เธอได้ยืนหยัด และยืนยันตามแนวความคิดของตัวเอง ความจริงเธอจะไปก็ไปได้ แต่เธอเลือกที่จะไม่ไป เธอยืนเคียงข้างประชาชนเสมอ หนักแน่น มั่นคง ไม่สั่นคลอน ดังนั้นอองซาน ซูจีไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ประชาธิไตยในพม่าเท่านั้น แต่ยังเป็นของโลกด้วย” นี่คือความตอนหนึ่งจากคำกล่าวสดุดี อองซาน ซูจี ในวาระได้รับการประกาศให้เป็นเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพที่นอร์เวย์ โดยมีอเล็กซานเดอร์ บุตรชายคนโตไปรับแทนมารดาที่เลือกจะไม่ออกนอกประเทศพม่า ด้วยเกรงจะไม่ได้กลับไป
เวลาแห่งความเป็นความตายของอองซาน ซูจี เป็นห้วงเวลาเดียวกับเวลาแห่งความเป็นความตายของชนชาวพม่าทั้งปวง
นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะมีส่วนร่วมในการช่วยกันส่งเสียง “ปลดปล่อยอองซาน ซูจี”
เข้าไปที่ 64 คำเพื่อซู ส่งภาพหรือคำพูดเพียง 64 คำ เพื่ออองซาน ซูจี
เพื่อบุตรีแห่งประชาธิปไตยพม่า
เพื่อชัยชนะของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
ไม่เพียง 64 คำเพื่อซู แต่อาจเป็นเพียง 64 คำที่ปลดปล่อยซูจีจากรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าก็เป็นได้
อองซาน ซูจี ต่อสู้ร่วมกับเพื่อนร่วมชาติของเธอมายาวนาน
วันนี้เพื่อนร่วมโลกกับเธอ จะเข้าร่วมขบวนการสันติภาพเพื่อชนชาวพม่า และต่อสู้ร่วมกับอองซาน ซูจี อย่างไม่รีรอ
พลังอำนาจของคนดังทั่วโลก และเสียงสวรรค์ของประชาชนที่ถูกเชื่อมเข้าหากันด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังไล่ล่ากดดันรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าอย่างไม่ลดล่ะ
เมื่อเทคโนโลยีย่อโลกได้ เทคโนโลยีก็เปิดโปงความชั่วร้ายได้
ความไร้พรมแดนของเทคโนโลยีกำลังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยพลิกชะตาอองซาน ซูจี และเปลี่ยนแปลงสหภาพพม่า
จะทำได้ดีแค่ไหน น่าสนใจ น่าติดตาม 64 คำเพื่อซู
64 for Suu เป็นศูนย์กลางของโลกแห่งการสนับสนุนนางอองซาน ซูจี ผู้นำเพื่อประชาธิปไตยผู้ถูกกักขังแห่งพม่า ในวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดปีที่ 64 ของเธอ
ในเว็บไซต์นี้ผู้ชมสามารถชมวิดีโอ ข้อความ และภาพจากทั่วโลก ซึ่งส่งเข้ามาโดยนักการเมือง ผู้มีชื่อเสียง และสาธารณชนทั่วไปผู้สนับสนุนแนวทางการต่อสู้ของนางอองซาน ซูจี
เมื่ออ่านแล้วถ้าเกิดแนวความคิดเดียวกัน ผู้ชมก็สามารถส่งเนื้อหาของท่านเข้าไปในเว็บไซต์นี้ได้
เว็บไซต์ 64 คำเพื่อซู ถูกจัดทำขึ้นในเวลาเพียง 6 วัน โดยมีเจ้าของนามว่า Rechord เป็นผู้ออกแบบ และจัดทำเว็บไซต์ Catalyst2 จัดการเรื่องเว็บโฮสติ้งในเวลากระชั้นชิด
เว็บไซต์นี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสิทธิมนุษยชนพม่าที่มีอยู่เกือบทั่วโลก และองค์กรด้านแรงงานอีกหลายประเทศ โดยจัดทำเป็นภาษาต่างๆ 8 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาเลียน สแปนิช ไทย จีน และอินโดฯ
หลังจากเว็บไซต์นี้เกิดขึ้นไม่นาน มีคนดังระดับโลกส่งข้อความอวยพรวันเกิดให้ออง ซาน ซูจี พร้อมแนบคำเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าปลดปล่อยซูจีให้เป็นอิสระ และปลดปล่อยพม่าให้พ้นเงื้อมมือเผด็จการทหารเสียที
คนดังๆ ที่เข้ามาเขียน หรือพูด ภายในความยาว 64 คำเพื่ออองซาน ซูจีมีตั้งแต่...
โยโกะ โอโนะ ภรรยาม่ายชาวญี่ปุ่นของจอห์น เลนนอน ที่ส่งเสียงมาจากนิวยอร์กผ่านทางระบบทวิตเตอร์ว่า “ปลดปล่อยอองซาน ซูจีเดี๋ยวนี้” และโยโกะได้เหน็บแนมรัฐบาลทหารพม่าทั้งแสบทั้งคันว่า “เต้นรำดีกว่าเดินขบวนน่า”
ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลจากทั่วโลกในรอบ 20 ปีมานี้ ไม่มีใครสักคนที่จะยอมพลาดวาระ 64 คำเพื่อซู แน่นอนทุกคนพูดถึงสิทธิเสรีภาพ สันติภาพ และโน้มน้าวให้รัฐบาลทหารพม่า ปล่อยอองซาน ซูจีออกมาจากการถูกกักขังในคุกโหดอินเซ่งเดี๋ยวนี้ หลังจากที่มีทีท่าว่า รัฐบาลเผด็จการทหารจะจับซูจีขังต่อไปอีก 5 ปี จากกรณีนายยัททอว์ ว่ายน้ำเข้าไปในบ้านของเธอ โดยพลการ และรัฐบาลเผด็จการเสเสร้งมั่วข้อกล่าวหา และจับเธอโยนใส่คุกต่ออีก 5 ปี ทั้งๆ ที่เธอใกล้จะได้รับอิสระในไม่ช้านี้
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กอร์ดอน บราวน์ ที่กำลังเผชิญกับการเมืองภายในประเทศ ยังส่งภาพ 64 คำพูดทางยูทูบเพื่อซูจี เขาเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันเพื่ออิสรภาพของผู้หญิงคนนี้ที่ต่อสู้มายาวไกลแล้ว
ขณะเดียวกันคนอังกฤษถือว่าอองซาน ซูจีเป็นทั้งลูกสาว เป็นทั้งน้องสาวของพวกเขาอีกคนหนึ่ง ในฐานะที่เธอมาเรียน และแต่งงานมีลูกมีเต้าอยู่ที่ลอนดอน ดังนั้นคนดังแห่งอังกฤษจากทุกวงการ ทั้งการเมือง วิชาการ ดารา นักร้อง นางแบบ และนักฟุตบอลอาชีพพาเหรดกันเข้าร่วมส่ง 64 คำเพื่อซูกันเนืองแน่น
เช่น เดวิค เบคแฮม พ่อแข้งทองคำขวัญใจคนรักเกมกีฬาฟุตบอลทั่วโลก หรือ ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของอาณาจักรเวอร์จิ้นผู้มั่งคั่ง และนักเขียนชื่อกระฉ่อน ซัลมาน รัสดี เป็นต้น
ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแทบทุกคนในเครือจักรภพอังกฤษ และหลายประเทศในแถบเอเชียกับสแกนดิเนเวีย ต่างส่งคำพูดผ่านยูทูบมาสู่ 64 คำเพื่อซู ข้อความเหล่านั้นเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว และแหลมคมแต่ไม่ก้าวก่าย
ทางด้านคนญี่ปุ่น และผู้นำทุกภาคส่วนทางราชการและเอกชนรวมถึงองค์อิสระแทบทุกองค์กร และดารา นักร้อง นักแต่งเพลง นักเขียนชื่อดัง ก็ประสานเสียงส่ง 64 คำพูด และ 64 คำเขียนเพื่ออองซาน ซูจี
ทุกคนมาแนวทางเดียวกันหมด เหมือนโยโกะ โอโนะ คือ ปล่อยอองซาน ซูจีเดี๋ยวนี้ไม่มีเงื่อนไข
ญี่ปุ่นเสียงดังเสมอกับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า และเข้ามามีบทบาทตั้งแต่สมัยครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเอกราชจอมปลอมที่นายพลอองซาน บิดาของอองซาน ซูจีตั้งข้อสงสัยจนหันเหไปหาฝ่ายสัมพันธมิตรในที่สุด อย่างไรก็ตามจนถึงบัดนี้ ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ลงทุนในพม่ามากมาย และมีบทบาทต่อการปลดปล่อยซูจีอย่างสูง ว่ากันว่าการปลดปล่อยอองซาน ซูจีครั้งที่ 1 หลังจากถูกกักขังในบริเวณบ้านมา 6 ปีนั้นมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นที่สำคัญยิ่งคือ ปัจจัยการกดดันจากมหาอำนาจปลาดิบ ที่รัฐบาลทหารเผด็จการพม่าเกรงใจ
นักการเมืองจากวอชิงตันก็ไม่ยอมตกขบวนรถไฟสาย 64 คำเพื่อซู และวงการฮอลลีวูดก็สร้างสีสันให้กับเว็บไซต์ 64 คำเพื่อซูจนโด่งดังภายในสัปดาห์เดียว หลังจากที่จอร์จ คลูนี่ย์ - จูเลีย โรเบิร์ต –แมท เดมอน และผู้กำกับชื่อดังทั้งหลายออกแถลงการณ์ว่า
“เมื่อ 19 ปีที่แล้วชนชาวพม่าเลือกอองซาน ซูจีเป็นผู้นำ แต่ 19 ปีถัดมาเธอกลับถูกกักขังโดยรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าที่เข้ามาบริหารประเทศแทนเธอ วันนี้พวกเราจะไม่ยืนดูอย่างเงียบๆ อีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เราทั่วโลกจะต้องเปล่งเป็นเสียงเดียวกันว่า ปลดปล่อยอองซาน ซูจี”
คนฮอลลีวูดสร้างจารีตใหม่ให้กับการเมืองโลกเสมอ
คราวนี้พวกเขาใช้พลังดาราสร้างพลังอำนาจต่อรองเพื่อ อองซาน ซูจี สุภาพสตรีที่ฮอลลีวูดถือว่าเป็น “ฮีโร่ในดวงใจ”
เรื่องนี้ยืนยันได้จาก 64 คำเพื่อซูจาก เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับ-ผู้อำนวยการสร้างคนดังแห่งฮอลลีวูด ขึ้นต้นประโยคแรกก็สะท้านใจแล้วว่า
“อองซาน ซูจีคือ ฮีโร่ตัวจริงของผม เธอยืนเคียงข้างสิทธิมนุษยชนชาวพม่า และต่อสู้เพื่อสันติภาพของมวลมนุษยชนทั่วโลก ผมชื่นชมในตัวอองซาน ซูจี เพราะเธอเหมือนฮีโร่ในภาพยนตร์ที่ผมสร้างขึ้นมาซึ่งล้วนแล้วแต่ต่อต้านความอยุติธรรมทั้งสิ้น แต่กระนั้นฮีโร่ในภาพยนตร์ก็ไม่ใช่เรื่องจริง แต่อองซาน ซูจีนี่สิเธอคือฮีโร่ในชีวิตจริง และวันนี้เธอต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ”
ส่วนอ.ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส่งเสียงอวยพรวันเกิดให้กับอองซาน ซูจีที่เป็นทั้งเพื่อนรุ่นน้องจากสถาบันเดียวกัน ครอบครัวของเธอที่อังกฤษกับอ.ไกรศักดิ์ก็แนบแน่นกันเป็นอย่างดีด้วย ในครั้งนี้แม้มีเวลาเพียง 64 คำ แต่อ.ไกรศักดิ์ก็ไม่รีรอที่จะกดดันให้ประชาคมโลกช่วยกันกดดันรัฐบาลทหารพม่าให้ “ปลดปล่อยอองซาน ซูจี ปลดปล่อยสหภาพพม่า”
เว็บไซต์ 64 คำเพื่อซู ยังรวบรวมประวัติชีวิต และการต่อสู้ของวีรสตรีพม่าที่กำลังจะครบ 64 ปีในเร็ววันนี้ และยังแสดงพลังของกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในพม่า ซึ่งมีกระจัดกระจายไปทั่วโลก และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ทั่วโลกเช่นกัน
การต่อสู้ในทุกๆ ด้านขององค์กรภายนอกกำลังเพิ่มแรงบีบคั้นรัฐบาลเผด็จการทหารพม่ามากขึ้นทุกที มีการต่อรองทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และการเมืองมากขึ้น
ขณะที่แรงรุกกลับของชนกลุ่มน้อยผู้เรียกร้องเอกราชมาแต่ครั้งสนธิสัญญาปางโหลแห่งลุ่มน้ำอิระวดีถูกฉีกทิ้งอย่างไม่เป็นธรรมก็กำลังเพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้น
เสียงเรียกร้องจากคนสำคัญ และมีพลังอำนาจทั่วโลกกำลังอื้ออึง
เสียงตะโกนให้ “ปลดปล่อยซูจี คืนประชาธิปไตยให้พม่า” กำลังดังเซ็งแซ่
เสียงสวรรค์เหล่านี้ขับขานท่วงทำนองเดียวกันกับเสียงของสาธารณชนผู้ใฝ่สันติภาพทั่วโลก ที่กำลังกึกก้อง
นี่เป็นการประลองกำลังซึ่งกันและกันระหว่างปืนกับปาก
กำลังของใครจะยิ่งใหญ่ และกำชัยชนะระหว่างกระสุนกับกระแสเสียง
เสียงของใครจะดังกลบสียงใครระหว่างเสียงเผด็จการกับเสียงประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยที่อองซาน ซูจี เรียกร้องร่วมกับชนชาวพม่ามาตั้งแต่เธอเดินทางกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ที่ป่วยหนัก และไม่ได้กลับคืนสู่ครอบครัวที่อังกฤษอีกเลย จนสามี “ไมเคิล อริส” มาด่วนตายจากกันไปโดยไม่ร่ำลา และจนลูกชายสองคน อเล็กซานเดอร์ และคิม เติบโตเรียนจบมีลูกมีเต้า ก็ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ร่วมยินดี
กว่า 20 ปีแล้วที่บุตรีแห่งนายพลอองซาน วีรบุรุษผู้เรียกร้องเอกราชให้ชนชาติพม่า ต้องถูกกักขังทั้งในคุกอินเซ่งที่ทารุณโหดร้าย และในบ้านพักที่ขาดแคลนไปเสียทุกสิ่งอย่าง
“ดิฉันไม่ยอมรับสิ่งใดจากทหารเลย บางครั้งดิฉันแทบไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารรับประทาน ทำให้ร่างกายดิฉันอ่อนแอมาก ผมของดิฉันร่วง บางครั้งไม่สามารถลุกขึ้นจากเตียงได้ ทุกครั้งที่ร่างกายเคลื่อนไหว หัวใจของดิฉันจะเต้นแรง หายใจไม่ออก น้ำหนักของดิฉันลดลงจาก 106 ปอนด์ เหลือเพียง 90 ปอนด์ ดิฉันคิดว่าตัวเองอาจตายด้วยหัวใจล้มเหลวมากกว่าการอดอาหาร” อองซาน ซูจีเคยเล่าให้สื่อมวลชนต่างประเทศฟังเมื่อได้รับการปลดปล่อยจากการถูกกักขังใน 6 ปีแรก
ในช่วงเวลาที่อองซาน ซูจี สัญลักษณ์ของการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ ต่อสู้มาด้วยแนวทางอหิงสา เธอและเพื่อนร่วมชาติเปี่ยมอุดมการณ์ถูกทำร้าย ไล่ล่า เข่นฆ่า จับกุม คุมขัง ปราศจากอิสรภาพ
“กำแพงคุกส่งผลสะเทือนถึงภายนอกเช่นกัน” ซูจีเคยบอกไว้ และเป็นวาทกรรมที่โลกร่ำลือถึงความคมคาย ที่สะเทือนหัวใจเผด็จการทั่วโลกไม่แม้แต่ในพม่า
รัฐบาลเผด็จการทหารกอบโกยความมั่งคั่งจากผืนแผ่นดินพม่าไปเป็นสมบัติของตัวเองและครอบครัว และใช้กระบอกปืนปิดปากประชาชน ใช้รองเท้าบู๊ตเหยียบย่ำกดขี่ข่มเหงความเป็นคนของชนพม่าให้ต้อยต่ำติดดินเรี่ยปลายเท้าเผด็จการโฉด
ประชาคมทั่วโลกเฝ้ามองความเป็นไปในพม่าด้วยสายตาหดหู่มายาวนาน และบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะรวบรวมสรรพกำลังช่วยเหลือ อองซาน ซูจี ให้รอดจากคุกโหดทหารพม่า จากศาลเตี้ยที่จะดุนหลังเธอด้วยปืนไปสู่คุกอินเซ่งที่ทารุณโหดร้าย และเหี้ยมเกรียม
“สิ่งที่ทำสำเร็จ คือ การที่เธอได้ยืนหยัด และยืนยันตามแนวความคิดของตัวเอง ความจริงเธอจะไปก็ไปได้ แต่เธอเลือกที่จะไม่ไป เธอยืนเคียงข้างประชาชนเสมอ หนักแน่น มั่นคง ไม่สั่นคลอน ดังนั้นอองซาน ซูจีไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ประชาธิไตยในพม่าเท่านั้น แต่ยังเป็นของโลกด้วย” นี่คือความตอนหนึ่งจากคำกล่าวสดุดี อองซาน ซูจี ในวาระได้รับการประกาศให้เป็นเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพที่นอร์เวย์ โดยมีอเล็กซานเดอร์ บุตรชายคนโตไปรับแทนมารดาที่เลือกจะไม่ออกนอกประเทศพม่า ด้วยเกรงจะไม่ได้กลับไป
เวลาแห่งความเป็นความตายของอองซาน ซูจี เป็นห้วงเวลาเดียวกับเวลาแห่งความเป็นความตายของชนชาวพม่าทั้งปวง
นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะมีส่วนร่วมในการช่วยกันส่งเสียง “ปลดปล่อยอองซาน ซูจี”
เข้าไปที่ 64 คำเพื่อซู ส่งภาพหรือคำพูดเพียง 64 คำ เพื่ออองซาน ซูจี
เพื่อบุตรีแห่งประชาธิปไตยพม่า
เพื่อชัยชนะของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
ไม่เพียง 64 คำเพื่อซู แต่อาจเป็นเพียง 64 คำที่ปลดปล่อยซูจีจากรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าก็เป็นได้
อองซาน ซูจี ต่อสู้ร่วมกับเพื่อนร่วมชาติของเธอมายาวนาน
วันนี้เพื่อนร่วมโลกกับเธอ จะเข้าร่วมขบวนการสันติภาพเพื่อชนชาวพม่า และต่อสู้ร่วมกับอองซาน ซูจี อย่างไม่รีรอ
พลังอำนาจของคนดังทั่วโลก และเสียงสวรรค์ของประชาชนที่ถูกเชื่อมเข้าหากันด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังไล่ล่ากดดันรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าอย่างไม่ลดล่ะ
เมื่อเทคโนโลยีย่อโลกได้ เทคโนโลยีก็เปิดโปงความชั่วร้ายได้
ความไร้พรมแดนของเทคโนโลยีกำลังถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยพลิกชะตาอองซาน ซูจี และเปลี่ยนแปลงสหภาพพม่า
จะทำได้ดีแค่ไหน น่าสนใจ น่าติดตาม 64 คำเพื่อซู