หนึ่งในความไร้มารยาทในที่ทำงานรูปแบบล่าสุดคือ การสนใจกับอุปกรณ์มือถือมากกว่าบทสนทนาในการประชุม เกิดขึ้นถี่เสียจนวงการธุรกิจบ่นเสียงขรมว่าเทคโนโลยีสื่อสารทันสมัยกำลังทำลายบรรยากาศการทำงาน ทำให้เสียเวลาและต้นทุนโดยใช่เหตุ
“เรื่องนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ซ้ำเลวร้ายลงทุกทีและกลายเป็นการเสพติด” เจน เวสแมน ผู้บริหารด้านประชาสัมพันธ์และผู้เขียน ‘ไดฟ์ ไรท์ อิน – เดอะ ชาร์กส์ โวนท์ ไบต์’ กล่าว
ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 ใน 3 จากกว่า 5,000 คน สารภาพว่าเช็คอีเมลระหว่างการประชุมอยู่บ่อยๆ
ทอม มัสแบ็ก บรรณาธิการบริหารอาวุโสยาฮู! ฮอตจ็อบส์ บอร์ดหางานออนไลน์ที่ทำสำรวจเรื่องนี้เมื่อเดือนมีนาคม บอกว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีต้นทุนที่ต้องจ่าย
“อุปกรณ์อย่างเช่นแบล็กเบอรีทำลายสมาธิ และนำไปสู่การสูญเสียประสิทธิภาพการทำงานและสูญเงิน เนื่องจากคนไม่สนใจงานของตัวเอง”
ในงานวิจัยอีกชิ้นของฮอตจ็อบส์ ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 1 ใน 5 บอกว่าถูกตักเตือนเพราะใช้อุปกรณ์ไร้สายไม่รู้จักเวล่ำเวลา แม้แต่คนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมนี้ยังยอมรับว่าถึงตาตัวเองก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
“ฉันนั่งรถกลับบ้านกับสามี เขาคุยกับฉัน แต่ฉันกลับตั้งหน้าตั้งตาดาวน์โหลดอีเมล ฉันบังคับตัวเองไม่ได้ เพราะอยากรู้เหลือเกินว่ามีเมลอะไรเข้ามาบ้าง” เวสแมนสารภาพ
การไล่เช็คอีเมลตลอดเวลามีข้อเสียในตัวของมันเอง นาธาน โบว์ลิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในที่ทำงานจากไรท์ สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ในเดย์ตัน โอไฮโอ อ้างอิงงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการทำหลายอย่างพร้อมกัน นอกจากจะทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากกว่าการตั้งใจทำงานทีละอย่าง รวมทั้งอาจทำให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้ที่ติดต่องานด้วยอยู่ขุ่นเคือง
เมื่อไม่นานนี้ที่รัฐนิวยอร์ก ทอม โกลิสซานา นักธุรกิจพันล้าน บอกว่าเขาโกรธมากหลังจากประชุมกับมัลคอล์ม สมิธ ผู้นำเสียงข้างมากพรรคเดโมแครตในรัฐ เพราะสมิธสนใจแบล็กเบอรีมากกว่าการประชุม
“ผมคิดว่าเป็นการหยาบคายมาก” โกลิสซาโนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา
ทั้งนี้ โกลิสซาโนเป็นผู้บริจาคทางการเมืองคนสำคัญ และเคยลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแต่พ่ายแพ้
ด้วยความไม่พอใจในพฤติกรรมของสมิธ โกลิสซาโนจึงเข้าหาสมาชิกสภาคนอื่นๆ ซึ่งผลที่ตามมาคือ การโหวตเลือกผู้แทนจากพรรครีพับลิกันเป็นผู้นำเสียงข้างมากแทนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
“เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควรเล่นแบล็กเบอรี่หรืออุปกรณ์สื่อสารใดๆ เมื่อมหาเศรษฐีที่ช่วยให้คุณได้รับเลือกเข้าสภากำลังคุยอยู่กับคุณ” เฮนรี สเติร์น อดีตประธานคณะกรรมการดูแลสวนสาธารณะของนิวยอร์ก ซิตี้ เขียนไว้ในบล็อกของยังเกอร์ส ทรีบูน
คนที่พิมพ์ข้อความสั้นในเวลาที่ควรทำอย่างอื่นกำลังมีพฤติกรรมที่โบว์ลิ่งบอกว่าเป็นพฤติกรรมการทำงานที่บ่อนทำลายประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งรวมถึงการล่วงละเมิด การมาทำงานสาย หรือการเล่นอินเทอร์เน็ตไม่รู้จักหยุด
“เทคโนโลยีทำให้เราทำสิ่งที่บ่อนทำลายประสิทธิภาพการทำงานในแบบที่เราไม่มีทางทำได้เมื่อ 10, 20 หรือแม้แต่ 5 ปีก่อน”
บาร์บารา แพทเชอร์ โค้ชด้านมารยาทธุรกิจ ชี้ว่ามี ‘เส้นการเรียนรู้’ ในเทคโนโลยีใหม่อย่างเช่นแบล็กเบอรี
“แต่เรายังติดอยู่ในจุดที่เราทำพฤติกรรมหยาบคาย” กระนั้น แพทเชอร์เพิ่มเติมว่า พฤติกรรมดังกล่าวมีแนวโน้มดีขึ้นภายใน 1-2 ปี
“เรื่องนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ซ้ำเลวร้ายลงทุกทีและกลายเป็นการเสพติด” เจน เวสแมน ผู้บริหารด้านประชาสัมพันธ์และผู้เขียน ‘ไดฟ์ ไรท์ อิน – เดอะ ชาร์กส์ โวนท์ ไบต์’ กล่าว
ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 ใน 3 จากกว่า 5,000 คน สารภาพว่าเช็คอีเมลระหว่างการประชุมอยู่บ่อยๆ
ทอม มัสแบ็ก บรรณาธิการบริหารอาวุโสยาฮู! ฮอตจ็อบส์ บอร์ดหางานออนไลน์ที่ทำสำรวจเรื่องนี้เมื่อเดือนมีนาคม บอกว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีต้นทุนที่ต้องจ่าย
“อุปกรณ์อย่างเช่นแบล็กเบอรีทำลายสมาธิ และนำไปสู่การสูญเสียประสิทธิภาพการทำงานและสูญเงิน เนื่องจากคนไม่สนใจงานของตัวเอง”
ในงานวิจัยอีกชิ้นของฮอตจ็อบส์ ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 1 ใน 5 บอกว่าถูกตักเตือนเพราะใช้อุปกรณ์ไร้สายไม่รู้จักเวล่ำเวลา แม้แต่คนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมนี้ยังยอมรับว่าถึงตาตัวเองก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
“ฉันนั่งรถกลับบ้านกับสามี เขาคุยกับฉัน แต่ฉันกลับตั้งหน้าตั้งตาดาวน์โหลดอีเมล ฉันบังคับตัวเองไม่ได้ เพราะอยากรู้เหลือเกินว่ามีเมลอะไรเข้ามาบ้าง” เวสแมนสารภาพ
การไล่เช็คอีเมลตลอดเวลามีข้อเสียในตัวของมันเอง นาธาน โบว์ลิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในที่ทำงานจากไรท์ สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ในเดย์ตัน โอไฮโอ อ้างอิงงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการทำหลายอย่างพร้อมกัน นอกจากจะทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดข้อผิดพลาดมากกว่าการตั้งใจทำงานทีละอย่าง รวมทั้งอาจทำให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้ที่ติดต่องานด้วยอยู่ขุ่นเคือง
เมื่อไม่นานนี้ที่รัฐนิวยอร์ก ทอม โกลิสซานา นักธุรกิจพันล้าน บอกว่าเขาโกรธมากหลังจากประชุมกับมัลคอล์ม สมิธ ผู้นำเสียงข้างมากพรรคเดโมแครตในรัฐ เพราะสมิธสนใจแบล็กเบอรีมากกว่าการประชุม
“ผมคิดว่าเป็นการหยาบคายมาก” โกลิสซาโนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา
ทั้งนี้ โกลิสซาโนเป็นผู้บริจาคทางการเมืองคนสำคัญ และเคยลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแต่พ่ายแพ้
ด้วยความไม่พอใจในพฤติกรรมของสมิธ โกลิสซาโนจึงเข้าหาสมาชิกสภาคนอื่นๆ ซึ่งผลที่ตามมาคือ การโหวตเลือกผู้แทนจากพรรครีพับลิกันเป็นผู้นำเสียงข้างมากแทนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
“เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่ควรเล่นแบล็กเบอรี่หรืออุปกรณ์สื่อสารใดๆ เมื่อมหาเศรษฐีที่ช่วยให้คุณได้รับเลือกเข้าสภากำลังคุยอยู่กับคุณ” เฮนรี สเติร์น อดีตประธานคณะกรรมการดูแลสวนสาธารณะของนิวยอร์ก ซิตี้ เขียนไว้ในบล็อกของยังเกอร์ส ทรีบูน
คนที่พิมพ์ข้อความสั้นในเวลาที่ควรทำอย่างอื่นกำลังมีพฤติกรรมที่โบว์ลิ่งบอกว่าเป็นพฤติกรรมการทำงานที่บ่อนทำลายประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งรวมถึงการล่วงละเมิด การมาทำงานสาย หรือการเล่นอินเทอร์เน็ตไม่รู้จักหยุด
“เทคโนโลยีทำให้เราทำสิ่งที่บ่อนทำลายประสิทธิภาพการทำงานในแบบที่เราไม่มีทางทำได้เมื่อ 10, 20 หรือแม้แต่ 5 ปีก่อน”
บาร์บารา แพทเชอร์ โค้ชด้านมารยาทธุรกิจ ชี้ว่ามี ‘เส้นการเรียนรู้’ ในเทคโนโลยีใหม่อย่างเช่นแบล็กเบอรี
“แต่เรายังติดอยู่ในจุดที่เราทำพฤติกรรมหยาบคาย” กระนั้น แพทเชอร์เพิ่มเติมว่า พฤติกรรมดังกล่าวมีแนวโน้มดีขึ้นภายใน 1-2 ปี
