เอเจนซี - นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (23) ค้นหาแรงสนับสนุนทางการเมืองต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.87 แสนล้านดอลลาร์ โดยบอกกับผู้ว่าการรัฐทั่วประเทศว่าเงินจะถูกส่งมอบอย่างรวดเร็ว และใช้จ่ายด้วยความรอบคอบ
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ กองทุนสาธารณูปโภค ลดภาษี และเงินช่วยเหลือแก่รัฐที่โอบามา ลงนามผ่านเป็นกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาท่ามกลางความเห็นที่แตกแยก หลังจากมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกันยกมือสนับสนุนเพียง 3 เสียง ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภารีพับลิกันแม้แต่คะแนนเดียว
สมาชิกรัฐสภาหลายคนของรีพับลิกันเย้ยหยันแผนกระตุ้นนี้ ว่า ไร้ประโยชน์ ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ว่าการรัฐจากรีพับลิกัน บอกว่า พวกเขาอาจจะไม่ยอมรับเงินช่วยเหลือ แม้ตามแผนนี้กำหนดจัดสรรงบหลายพันล้านดอลลาร์ให้รัฐต่างๆ เพื่อใช้สร้างงานและดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ หลังจาก 43 รัฐกำลังประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณอย่างหนัก ทำให้ต้องหาทางลดรายจ่ายหรือขึ้นภาษีอยู่ในขณะนี้
ระหว่างพบกับผู้ว่าการรัฐจากทั้งสองพรรค ณ ทำเนียบขาว โอบามา บอกกับพวกเขา ว่า เงินส่วนแบ่ง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่กำหนดไว้แบ่งเบาภาระของรัฐต่างๆ ในค่าใช้จ่ายด้านโครงการสุขภาพคนยากจน จะถูกส่งออกไปในวันพุธ (25)
“ผมเชื่อว่า มันจะสามารถปลดเปลื้องปัญหาครั้งใหญ่ให้กับพวกคุณหลายคน นี่ไม่ใช่เช็คเปล่า” เขากล่าว “เราจะทำงานกับคุณอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเหล่านี้ถูกใช้จ่ายในแนวทางตามสมมติฐาน”
โอบามา ผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ ผ่านสภาคองเกรสที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมา โดยเรียกร้องว่า มาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับปกป้องภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเลี้ยวเข้าสู่หายนะทางเศรษฐกิจ
แต่เขาถูกบีบให้ออกมาแก้ต่างให้กับมาตรการนี้ หลังจากสมาชิกรีพับลิกันในสภาคองเกรสหลายคนตำหนิว่า มันเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไร้ประโยชน์และเตือนว่ามันยิ่งจะทำให้ขาดดุลงบประมาณมากขึ้น
เพื่อย้ำคำสัญญาของเขาว่าจะมีการตรวจตราการใช้จ่ายเงินในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด โอบามาแถลงว่าเขาได้แต่งตั้ง โจ ไบเดน รองประธานาธิบดี ทำหน้าที่ตรวจตราสนับสนุนการใช้จ่ายเงินตามแผนกระตุ้น
หน้าที่ของ ไบเดน คือเป็นผู้ประสานงาน โดยจะประชุมกับคณะรัฐมนตรี, ผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรีเป็นระยะๆ เพื่อให้การจัดสรรเงินงบประมาณจากแผนกระตุ้นเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ โอบามา ยังได้แต่งตั้ง นายเอิร์ล เดแวนนีย์ อดีตเจ้าหน้าที่สืบราชการลับที่ทำหน้าที่ขุดคุ้ย และเปิดโปงผู้กระทำผิดในคดีคอรัปชั่นในกระทรวงมหาดไทยขึ้นเป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการเพื่อการกำกับดูแลแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7.87 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อให้การจัดสรรเงินงบประมาณเป็นไปด้วยความโปร่งใส เนื่องจาก เดแวนนีย์ มีผลงานชิ้นสำคัญจำนวนมาก โดยสามารถตรวจสอบและเปิดโปงคดีคอร์รัปชันได้หลายคดี
