ASTVผู้จัดการรายวัน – ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 51 ราย สธ.เผยยอดสะสมอยู่ที่ 201 ราย ระบุคนแห่สอบถามสายด่วนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 80 เตรียมจัดทำสมุดปกเขียวแจก ด้าน “หมอปราชญ์” ทำหนังสือด่วนถึงทุก รพ.ห้ามให้ข่าวตัวเลขผู้ป่วย พร้อมสั่งแพทย์ไม่ต้องวินิจฉัย “พันธุ์เก่าหรือไม่” เหตุความรุนแรงเท่ากัน “วิทยา” ห่วงเดือน ก.ค.ระบาดสูงสุด ขณะที่โรงเรียนประกาศปิดอีก 5 แห่ง ”เตรียมอุดมฯน้อมเกล้า-นวมินทราชินูทิศสะพานสูง-พระหฤทัยคอนแวนต์-ราชวินิตบางแก้ว-กสิณธรฯ” กทม.เตรียมฉีดวัคซีนให้เด็กนักเรียนในสังกัดป้องกัน ขณะที่สตรีชาวสกอตตาย นับเป็นรายแรกนอกทวีปอเมริกา
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สธ. กล่าวว่า วานนี้(15 มิ.ย.)กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 51 ราย โดยแบ่งเป็นเด็กนักเรียนเซนต์คาเบรียล 28 ราย โรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน จำนวน 10 ราย เป็นผู้ติดหวัดหลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 ราย เป็นชาวต่างชาติซึ่งพบที่ จ.ตรัง 2 ราย อีก 9 รายอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคว่าเป็นกลุ่มไหน รวมทั้งหมดขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมจำนวน 201 ราย
**”วิทยา” ห่วง ก.ค.ระบาดหนัก
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีโอกาสที่การระบาดของโรคจะขยายวงขึ้น เพราะไทยเป็นศูนย์กลางของการเดินทางติดต่อสื่อสาร และโรคนี้ก็เป็นโรคที่มาจากต่างประเทศ ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจให้กับประชาชนทราบ แต่ไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะโรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายและป้องกันได้ เพียงแต่ดูแลในเรื่องสุขภาพและรักษาความสะอาด โดยขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยที่เฝ้าระวังและต้องรักษาจริง ๆ มีแค่เพียง 10 คน ส่วนตัวเลข 140 คนนั้น อาการดีขึ้นแล้วไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเดือน ก.ค. จะเป็นช่วงที่ระบาดสูงสุด เพราะต่างประเทศก็มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน จะมีช่วงที่สูงสุดและลดระดับลงมาเรื่อย ๆ ดังนั้น เดือน ก.ค.จะต้องเฝ้าระวังเข้มงวดและระมัดระวังอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย
รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในไทยต่อจากนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประสบการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในประเทศอื่นๆก่อนหน้านี้ อาทิ สหรัฐฯ หรือแม้แต่ในญี่ปุ่นก็พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละ 300-400 ราย แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยที่พบก็อยู่ในระดับน้อยลงหรือคงที่
**ร.ร.ปิดเพิ่มอีก 5 แห่ง
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)แถลงข่าวว่า ได้รับรายงานว่า มีโรงเรียนปิดการเรียนการสอน 2 แห่งคือ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า และ ร.ร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โดยประกาศปิดเรียนเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-17 มิ.ย.
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นมา สพฐ.ได้เน้นการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ พร้อมทั้งปลูกสุขนิสัยที่ดี เช่น ล้างมือ ใช้ช้อนกลาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ส่งอีเมล์แนวทางป้องกันไข้หวัด 2009 ของกระทรวงสาธารณสุข ไปยังโรงเรียนกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักกิจการพิเศษ สำนักงานปลัด ศธ. รายงานว่า ร.ร.พระหฤทัยคอนแวนต์และร.ร.ราชวินิตบางแก้ว จ.สมุทรปราการได้ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-17 มิ.ย.เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ทาง ร.ร.กสิณธร เซนต์ปีเตอร์ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก็ได้มีคำสั่งปิดโรงเรียนไปจนถึงวันที่ 21 มิ.ย. เนื่องจากมีเด็กนักเรียนได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
ด้านนางรพีพรรณ เอกสุภาพันธุ์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ปทุมธานี เขต 1 เปิดเผยว่า จากที่พบว่านักเรียนโรงเรียนวัดฉางหลายคนมีอาการไข้ตัวร้อน ซึ่งคณะครูได้คัดแยกเด็กป่วยจากเด็กปกติ และนำตัวส่งแพทย์ เบื้องต้นจากการตรวจของคณะแพทย์ พบว่านักเรียนโรงเรียนวัดฉางไม่มีใครติดเชื้อหวัด 2009
**4 ผอ.ยอมรับพบ นร.ติดเชื้อ
นางศิริพันธุ์ สุพรรณนพ ผอ.ร.ร.นวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า เปิดเผยว่า วานนี้หลังจากเปิดเรียนแล้ว แต่มีการยืนยันจากแพทย์ว่ามีนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 และมีนักเรียนอีก 7 รายป่วยมีไข้สูง ทางโรงเรียนจึงตัดสินใจปิดเรียนจนถึงวันศุกร์ และเปิดเรียนวันจันทร์ 22 มิ.ย.นี้
นายสรายุทธ ฟูทรัพย์นิรันดร์ ผอ.ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 มิ.ย.ได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ว่ามีผู้ปกครองนักเรียนโทรมาแจ้งว่าลูกไม่สบาย และได้นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นแพทย์ได้ตรวจเชื้อพบว่านักเรียนคนดังกล่าว ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่โดยไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากนั้นตนได้ให้ครูประจำชั้นไปตรวจสอบว่านักเรียนชั้น ม.2 ห้องดังกล่าว มีเด็กไม่สบายอีกหรือไม่ ซึ่งวันนั้นมีเด็กขาดเรียน 6 คน จึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้ปกครอง ทราบว่าเด็กทั้ง 6 คนมีอาการไข้ตัวร้อน และแจ้งให้ผู้ปกครองเด็กทั้ง 6 คนทราบว่าเพื่อนร่วมห้องของเด็กทั้งหมดติดเชื้อไข้หวัด 2009 ขอให้พาบุตรหลานไปพบแพทย์
ทั้งนี้ วานนี้(15 มิ.ย.) เมื่อเวลา 9.00 น.ได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งให้นักเรียนที่มีอาการไข้มาพบเจ้าหน้าที่ สธ. ซึ่งมีนักเรียนประมาณ 20 ราย ทั้งระดับ ม.ต้น และ ม.ปลายลงมาพบเจ้าหน้าที่ สธ. ทางโรงเรียนจึงได้ประสานงานไปยังผู้ปกครองเด็กทั้งหมดให้มารับตัวบุตรหลานไปพบแพทย์ และประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 15-21 มิ.ย.และจะเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 22 มิ.ย.
นายกมล บุญประเสริฐ ผอ.ร.ร.ราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าทาง สธ.ได้แจ้งมาว่า พบเด็กจาก ร.ร.ราชวินิตฯ ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ได้เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่เป็นเด็กที่มีไข้และผู้ปกครองพาไปตรวจ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เชื้อดังกล่าวแพร่กระจายไปสู่นักเรียนคนอื่นๆ จึงได้สั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 16-21 มิ.ย.2552 และจะเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้
ด้านนายมนตรี แสนวิเศษ ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนไม่มีความกังวลในกรณีที่เด็กในสังกัดเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ นอกจากนี้ ทางโรงเรียนได้ออกมาตรการการดูแลและมาตรการป้องกัน ได้แก่ สำรวจนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยที่เดินทางไปต่างประเทศพบว่ามีผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศทั้งหมด 171 คน ซึ่งได้มีการเฝ้าสังเกตอาการครบ 7 วัน พบว่าไม่มีใครที่ติดเชื้อ
**ศธ.ยันไม่ปิดโรงเรียนทั่วประเทศ
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ.ยังไม่มีนโยบายสั่งปิดโรงเรียนแต่อย่างใด แม้จะมีการแพร่ระบาดภายในโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้ปกครองตื่นตระหนก และส่งผลกระทบต่อการเรียนของนักเรียน แต่ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหารโรงเรียนและผู้ปกครอง นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการจะมีการทบทวนด้านสุขอนามัยภายในโรงเรียนทุกแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนกวดวิชา เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนในชั้นเรียนหนาแน่น อาจมีการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย
**ชม.สั่งกัก 8 คนใกล้ชิดผู้ป่วย
นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยังรับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่โดยมีอาการดีขึ้น ส่วนการควบคุมดูแลผู้ที่สัมผัสโรคนั้นเวลานี้ได้ส่งเสมหะของผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย รวมทั้งสิ้น 8 คน ประกอบด้วยสมาชิกในครอบครัวอีก 5 คน ได้แก่ พ่อ แม่ ตา ยาย น้องสาว และเพื่อนนักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาพร้อมกันอีก 3 คน ไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่แล้ว และจะทราบผลในช่วงบ่ายวันนี้ (16 มิ.ย.) ซึ่งช่วงนี้เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและให้ทั้ง 8 คน หยุดงานและหยุดเรียนอยู่ที่บ้าน จนกว่าจะทราบผล
สำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกับที่ผู้ป่วยเดินทางกลับจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาสู่ จ.เชียงใหม่นั้น เวลานี้ได้ทำการประสานขอรายชื่อผู้โดยสารเที่ยวบินดังกล่าวที่มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 100 คน มาแล้ว พร้อมทั้งโทรศัพท์ติดตามสอบถามอาการ เน้นผู้โดยสารที่นั่งใกล้ผู้ป่วยทั้งนั่งข้าง นั่งแถวหน้า และแถวหลังเป็นหลัก เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่มีอาการป่วย
รศ.พงษ์ศักดิ์ อังกะสิทธิ์ อธิการบดี ม.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เนื่องจาก ม.เชียงใหม่มีหอพักที่นักศึกษาอาศัยอยู่ร่วมกันด้วย อีกทั้งยังต้องเฝ้าระวังกลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐฯ ซึ่ง มช.มีนักศึกษาที่เดินทางไปต่างประเทศตามโครงการเวิร์กแอนด์แทลเวิลในช่วงปิดภาคเรียนประมาณ 300 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ด้านรศ.ปรีชา สุนทรานันท์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจกรรมพิเศษ ม.มหิดล เปิดเผยว่า ขณะนี้นักศึกษา ม.มหิดลที่มีอาการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มีจำนวน 5 ราย เป็นนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาเขตพญาไท 4 ราย คณะทันตแพทยศาสตร์ 1 ราย
**ปลัด สธ.ห้าม รพ.ให้ข่าวตัวเลขผู้ป่วย
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุม แก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ว่า ในการรายงานตัวเลขผู้ป่วย จากนี้ สธ.จะรายงานเป็นยอดรวมของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งสายพันธุ์ใหม่และเก่า โดยไม่มีการให้รายละเอียดของผู้ป่วย แต่อาจจะมีการแยกให้เห็นว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จำนวนเท่าไหร่ และสายพันธุ์เก่าจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งการรายงานตัวเลขของผู้ป่วยสายพันธุ์ใหม่นั้น จะรายงานเฉพาะจำนวนผู้ป่วยที่มีการสุ่มเชื้อมาตรวจเท่านั้น หมายความว่าจากนี้ไปตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะไม่ใช่ตัวเลขของผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ทั้งประเทศ แต่เป็นตัวเลขผู้ป่วยที่มีการสุ่มตรวจเชื้อ ทั้งนี้ สธ.จะทำหนังสือที่ลงนามโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศงดการให้ข่าวตัวเลขผู้ป่วยและรายละเอียดของผู้ป่วย สามารถให้ได้เฉพาะข้อมูลการป้องกันโรคเท่านั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนกับตัวเลขที่ออกจาก สธ. และในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ สธ.จะจัดประชุมแพทย์ที่ทำหน้าที่ในการตรวจรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยและการประเมินสถานการณ์ของโรค
**หมอไม่ต้องวินิจฉัยว่าพันธุ์ไหน
นพ.ศุภมิตร์ ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภายใน 2-3 วันสธ. จะดำเนินการแจ้งให้แพทย์และพยาบาลปรับวิธีการวินิจฉัย โดยหากพบว่าผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีการวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือเก่า แต่ให้ดำเนินการรักษาเหมือนกันทั้งหมด และในการตรวจสอบเชื้อหาสายพันธุ์ของไวรัส จะไม่เก็บเชื้อผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มาตรวจสอบสายพันธุ์ในห้องปฏิบัติการทุกราย เนื่องจากในการรักษาดำเนินการเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ใด แต่ยังต้องมีการสุ่มตรวจเชื้อจากผู้ป่วยบ้างเพื่อเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ ไม่จำเป็นต้องทำเกินกว่านี้เพราะไม่มีประโยชน์
“คนไทยอาจจะสับสนเพราะเดือนที่ผ่านมากระทรวงนำเสนอประหนึ่งว่าโรคนี้มีความรุนแรงมาก ประชาชนต้องตื่นตัวในการรับมือและป้องกัน แต่มาเดือนนี้กลับบอกว่า เชื้อไม่มีความรุนแรงเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ธรรมดาทั่วไป นั่นเป็นเพราะในระยะแรกยังไม่มีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่นี้ว่าจะมีความรุนแรงแค่ไหน จำเป็นต้องบอกให้ประชาชนระมัดระวังตัวไว้ก่อน แต่เมื่อมีการศึกษาจึงได้มีความรู้มากขึ้นว่าความรุนแรงไม่แตกต่างจากไข้หวัดใหญ่ทั่วไป”นพ.ศุภมิตรกล่าว
**5 เดือนป่วยหวัดใหญ่กว่า 5 พันราย
นพ.ภาสกร อัศวเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนม.ค.– 6 มิ.ย. ประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาลแล้ว 5,399 ราย เฉพาะ 1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 6 มิ.ย.พบผู้ป่วย 288 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่ในปี 5 ปีย้อนหลังพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ประมาณ 1.1 -1.3หมื่นราย เท่ากับว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลใน 1 สัปดาห์ มีจำนวนมากกว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่พบในรอบ 2 เดือนซึ่งมีเพียง 201 รายเท่านั้น
**คนแห่ โทร.ปรึกษาเพิ่ม80%
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวในฐานะผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคมว่าจากกระแสการตื่นตระหนกของประชาชนเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ส่งผลให้มีผู้ติดต่อมายังสายด่วนสธ.และกรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกรมควบคุมโรค เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 80 ทั้งนี้ สธ.เตรียมจัดทำสมุดปกเขียว เพื่อนำข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ประชาชนวิตกและสอบถามเข้ามามาก แจกให้กับประชาชนเพื่อมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้
**กทม.เตรียมฉีดวัคซีนให้เด็ก นร.
วานนี้ (15 มิ.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นตนมีความเป็นห่วงอย่างมาก ซึ่งหากมีแนวโน้มที่แพร่ระบาดในพื้นที่อย่างรุนแรง ทางหน่วยงานของกทม. เตรียมที่จะหารือในแนวทางป้องกันเชิงรุก ซึ่งเป็นมาตรการทางการแพทย์คือ การเข้าฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้กับนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกทม.เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรค อย่างไรก็ตามตนก็ยังไม่แน่ใจว่าการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนจะสามารถยับยั้งการแพร่เชื้อได้ แต่เบื้องต้นนั้นทางกทม. พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการเข้าไปล้าง ทำความสะอาดพื้นที่ของสถานศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามที่ได้ประสานมายังสำนักงานเขต
จากนั้นในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ณ อาคารเจเจมอลล์ เขตจตุจักร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ไปเป็นประธานการเปิดประชุมการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพื่อแนะนำและให้ความรู้ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค พร้อมตอบข้อซักถามเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุม
**ผู้เชี่ยวชาญยันไม่น่าวิตก
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่จะมีทุกปี แต่การแพร่ระบาดใหญ่จะเกิดขึ้นในทุก 30-40 ปี ต่อครั้งซึ่งที่ผ่านมาเกิดขึ้นแล้วจำนวน 2 ครั้งได้แก่เมื่อปี 2500 ซึ่งค่อนข้างรุนแรงมาก พอการระบาดครั้งที่ในปี 2511 ถือว่าอยู่ในระดับที่เบาลง และเมื่อถึงครั้งนี้ปี 2552 เท่าที่ตนได้รับข้อมูลข่าวสารมีจำนวนผู้ป่วยกว่า 30,000 คนทั่วโลก มีผู้เสียชีวิต 245 คน แม้ในประเทศเม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบการระบาดก็มีผู้เสียชีวิตเพียง 145 คนเท่านั้น ดังนั้นอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังไม่ถึงร้อยละ 1 จึงไม่สามารถตัดสินความรุนแรงของโรคได้
ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้เหมือนกับไข้หวัดธรรมดาไม่มีอาการใดๆหากเราไปสัมผัสตัวผู้ได้รับเชื้อก็จะไม่ติดต่อแน่นอนเพราะจะไม่มีเชื้อโรคออกมา เนื่องจากเชื้อจะแพร่ได้ต้องเริ่มจากมีอาการของโรค เป็นหวัด ไอ จาม มีน้ำมูก หรือมีไข้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวจนถึงขั้นที่ไม่กล้าเข้าใกล้ญาติพี่น้องของผู้ป่วย อยู่ใกล้ไม่ได้ ส่วนในรายที่ได้รับเชื้อแล้วเชื้อจะออกมาในเสมหะ น้ำลาย น้ำมูก เชื้อนี้จะอยู่ในร่างกายของผู้ป่วย ในวันแรกมากที่สุด จากนั้นจะลดลำดับลงในวันที่ 2-3 พอวันที่ 4-5 เชื้อก็จะเหลือน้อยมาก จนหลังวันที่ 5 เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ก็จะหมดไป
***รายแรกนอกทวีปอเมริกาตาย
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ทางการสกอตแลนด์แถลงในคืนวันอาทิตย์(14)ว่า คนไข้ผู้หนึ่งที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และมีอาการป่วยอย่างอื่นๆ ด้วย ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล นับเป็นผู้ติดเชื้อชนิดนี้ที่เสียชีวิตเป็นรายแรกนอกทวีปอเมริกา
แจกกี เฟลมมิง คนไข้รายนี้เป็นชาวเมืองกลาสโกว์ อายุ 38 ปี เสียชีวิตหลังจากคลอดบุตรคนที่สองของเธอก่อนกำหนดมาได้ 2 สัปดาห์ การตายของเธอมีขึ้น 3 วันตั้งแต่ที่องค์การอนามัยโลก(ฮู) ประกาศเพิ่มระดับเตือนภัยไวรัสมรณะนี้ ขึ้นสู่ระดับที่ 6 อันเป็นระดับสูงสุด
ก่อนหน้านี้ผู้ที่ตายจากหวัด 2009 อยู่ใน 6 ประเทศทางทวีปอเมริกาทั้งสิ้น โดยที่รายแรกเสียชีวิตที่เม็กซิโกเมื่อ 2 เดือนก่อน
ทางการสาธารณสุขของแคนาดาก็เพิ่งยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตในแดนเมเปิลเป็นรายที่ 6 โดยเป็นสตรีวัย 50 ปีเศษ ซึ่งเจ็บป่วยด้วย "โรคเรื้อรัง" อยู่ด้วย
สำหรับเฟลมมิงนั้น เป็น 1 ใน 10 ของผู้ติดเชื้อไวรัสหวัด 2009 ซึ่งรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่สหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในสกอตแลนด์นั้นมีผู้ติดเชื้อนี้ที่ยืนยันแล้วจำนวน 498 ราย และเมื่อนับตลอดทั่วประเทศสหราชอาณาจักรก็จะมี 1,261 ราย
ตามตัวเลขขององค์การอนามัยโลกที่ไม่ได้อัปเดตมาตั้งแต่วันศุกร์(12)นั้น เวลานี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกือบ 30,000 ราย ใน 74 ประเทศ ในจำนวนนี้ตายราว 150 ราย
พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ทำท่าจะแผ่กว้างออกไปอีกมากเมื่อวานนี้ หลังจากหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเป็นหมู่เกาะห่างไกลในแถบแปซิฟิกใต้ รายงานว่าพบผู้ต้องสงสัยรายแรก
เจ้าหน้าที่หน่วยเฝ้าระวังโรคหวัด 2009 ของหมู่เกาะแห่งนี้รายงานว่า พบชายผู้หนึ่งที่ศึกษาในออสเตรเลีย และเดินทางกลับบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อพักผ่อนช่วงวันหยุด มีอาการป่วยคล้ายๆ กับโรคหวัด เวลานี้ชายผู้นี้ถูกกักตัวติดตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาล
นอกจากนั้น โครเอเชีย ก็แจ้งเมื่อวานนี้ว่าพบผู้ติดเชื้อรายแรก แต่รัฐมนตรีสาธารณสุข ดาร์โก มิลิโนวิช กล่าวว่า ชายผู้นี้หายดีและกลับไปทำงานแล้ว.
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สธ. กล่าวว่า วานนี้(15 มิ.ย.)กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 51 ราย โดยแบ่งเป็นเด็กนักเรียนเซนต์คาเบรียล 28 ราย โรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน จำนวน 10 ราย เป็นผู้ติดหวัดหลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 ราย เป็นชาวต่างชาติซึ่งพบที่ จ.ตรัง 2 ราย อีก 9 รายอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคว่าเป็นกลุ่มไหน รวมทั้งหมดขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมจำนวน 201 ราย
**”วิทยา” ห่วง ก.ค.ระบาดหนัก
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีโอกาสที่การระบาดของโรคจะขยายวงขึ้น เพราะไทยเป็นศูนย์กลางของการเดินทางติดต่อสื่อสาร และโรคนี้ก็เป็นโรคที่มาจากต่างประเทศ ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจให้กับประชาชนทราบ แต่ไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะโรคดังกล่าวสามารถรักษาให้หายและป้องกันได้ เพียงแต่ดูแลในเรื่องสุขภาพและรักษาความสะอาด โดยขณะนี้ตัวเลขผู้ป่วยที่เฝ้าระวังและต้องรักษาจริง ๆ มีแค่เพียง 10 คน ส่วนตัวเลข 140 คนนั้น อาการดีขึ้นแล้วไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเดือน ก.ค. จะเป็นช่วงที่ระบาดสูงสุด เพราะต่างประเทศก็มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน จะมีช่วงที่สูงสุดและลดระดับลงมาเรื่อย ๆ ดังนั้น เดือน ก.ค.จะต้องเฝ้าระวังเข้มงวดและระมัดระวังอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย
รศ. (พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในไทยต่อจากนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประสบการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในประเทศอื่นๆก่อนหน้านี้ อาทิ สหรัฐฯ หรือแม้แต่ในญี่ปุ่นก็พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละ 300-400 ราย แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยที่พบก็อยู่ในระดับน้อยลงหรือคงที่
**ร.ร.ปิดเพิ่มอีก 5 แห่ง
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)แถลงข่าวว่า ได้รับรายงานว่า มีโรงเรียนปิดการเรียนการสอน 2 แห่งคือ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า และ ร.ร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โดยประกาศปิดเรียนเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-17 มิ.ย.
ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นมา สพฐ.ได้เน้นการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ พร้อมทั้งปลูกสุขนิสัยที่ดี เช่น ล้างมือ ใช้ช้อนกลาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ส่งอีเมล์แนวทางป้องกันไข้หวัด 2009 ของกระทรวงสาธารณสุข ไปยังโรงเรียนกว่า 3 หมื่นแห่งทั่วประเทศแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักกิจการพิเศษ สำนักงานปลัด ศธ. รายงานว่า ร.ร.พระหฤทัยคอนแวนต์และร.ร.ราชวินิตบางแก้ว จ.สมุทรปราการได้ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 15-17 มิ.ย.เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ทาง ร.ร.กสิณธร เซนต์ปีเตอร์ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก็ได้มีคำสั่งปิดโรงเรียนไปจนถึงวันที่ 21 มิ.ย. เนื่องจากมีเด็กนักเรียนได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
ด้านนางรพีพรรณ เอกสุภาพันธุ์ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ปทุมธานี เขต 1 เปิดเผยว่า จากที่พบว่านักเรียนโรงเรียนวัดฉางหลายคนมีอาการไข้ตัวร้อน ซึ่งคณะครูได้คัดแยกเด็กป่วยจากเด็กปกติ และนำตัวส่งแพทย์ เบื้องต้นจากการตรวจของคณะแพทย์ พบว่านักเรียนโรงเรียนวัดฉางไม่มีใครติดเชื้อหวัด 2009
**4 ผอ.ยอมรับพบ นร.ติดเชื้อ
นางศิริพันธุ์ สุพรรณนพ ผอ.ร.ร.นวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า เปิดเผยว่า วานนี้หลังจากเปิดเรียนแล้ว แต่มีการยืนยันจากแพทย์ว่ามีนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 และมีนักเรียนอีก 7 รายป่วยมีไข้สูง ทางโรงเรียนจึงตัดสินใจปิดเรียนจนถึงวันศุกร์ และเปิดเรียนวันจันทร์ 22 มิ.ย.นี้
นายสรายุทธ ฟูทรัพย์นิรันดร์ ผอ.ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 มิ.ย.ได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ว่ามีผู้ปกครองนักเรียนโทรมาแจ้งว่าลูกไม่สบาย และได้นำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นแพทย์ได้ตรวจเชื้อพบว่านักเรียนคนดังกล่าว ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่โดยไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ หลังจากนั้นตนได้ให้ครูประจำชั้นไปตรวจสอบว่านักเรียนชั้น ม.2 ห้องดังกล่าว มีเด็กไม่สบายอีกหรือไม่ ซึ่งวันนั้นมีเด็กขาดเรียน 6 คน จึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้ปกครอง ทราบว่าเด็กทั้ง 6 คนมีอาการไข้ตัวร้อน และแจ้งให้ผู้ปกครองเด็กทั้ง 6 คนทราบว่าเพื่อนร่วมห้องของเด็กทั้งหมดติดเชื้อไข้หวัด 2009 ขอให้พาบุตรหลานไปพบแพทย์
ทั้งนี้ วานนี้(15 มิ.ย.) เมื่อเวลา 9.00 น.ได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งให้นักเรียนที่มีอาการไข้มาพบเจ้าหน้าที่ สธ. ซึ่งมีนักเรียนประมาณ 20 ราย ทั้งระดับ ม.ต้น และ ม.ปลายลงมาพบเจ้าหน้าที่ สธ. ทางโรงเรียนจึงได้ประสานงานไปยังผู้ปกครองเด็กทั้งหมดให้มารับตัวบุตรหลานไปพบแพทย์ และประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 15-21 มิ.ย.และจะเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 22 มิ.ย.
นายกมล บุญประเสริฐ ผอ.ร.ร.ราชวินิตบางแก้ว ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าทาง สธ.ได้แจ้งมาว่า พบเด็กจาก ร.ร.ราชวินิตฯ ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ได้เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่เป็นเด็กที่มีไข้และผู้ปกครองพาไปตรวจ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เชื้อดังกล่าวแพร่กระจายไปสู่นักเรียนคนอื่นๆ จึงได้สั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 16-21 มิ.ย.2552 และจะเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้
ด้านนายมนตรี แสนวิเศษ ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนไม่มีความกังวลในกรณีที่เด็กในสังกัดเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ นอกจากนี้ ทางโรงเรียนได้ออกมาตรการการดูแลและมาตรการป้องกัน ได้แก่ สำรวจนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยที่เดินทางไปต่างประเทศพบว่ามีผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศทั้งหมด 171 คน ซึ่งได้มีการเฝ้าสังเกตอาการครบ 7 วัน พบว่าไม่มีใครที่ติดเชื้อ
**ศธ.ยันไม่ปิดโรงเรียนทั่วประเทศ
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ.ยังไม่มีนโยบายสั่งปิดโรงเรียนแต่อย่างใด แม้จะมีการแพร่ระบาดภายในโรงเรียนในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้ปกครองตื่นตระหนก และส่งผลกระทบต่อการเรียนของนักเรียน แต่ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บริหารโรงเรียนและผู้ปกครอง นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการจะมีการทบทวนด้านสุขอนามัยภายในโรงเรียนทุกแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนกวดวิชา เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนในชั้นเรียนหนาแน่น อาจมีการแพร่ระบาดของโรคได้ง่าย
**ชม.สั่งกัก 8 คนใกล้ชิดผู้ป่วย
นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยังรับการรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่โดยมีอาการดีขึ้น ส่วนการควบคุมดูแลผู้ที่สัมผัสโรคนั้นเวลานี้ได้ส่งเสมหะของผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย รวมทั้งสิ้น 8 คน ประกอบด้วยสมาชิกในครอบครัวอีก 5 คน ได้แก่ พ่อ แม่ ตา ยาย น้องสาว และเพื่อนนักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาพร้อมกันอีก 3 คน ไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่แล้ว และจะทราบผลในช่วงบ่ายวันนี้ (16 มิ.ย.) ซึ่งช่วงนี้เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและให้ทั้ง 8 คน หยุดงานและหยุดเรียนอยู่ที่บ้าน จนกว่าจะทราบผล
สำหรับผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกับที่ผู้ป่วยเดินทางกลับจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมาสู่ จ.เชียงใหม่นั้น เวลานี้ได้ทำการประสานขอรายชื่อผู้โดยสารเที่ยวบินดังกล่าวที่มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 100 คน มาแล้ว พร้อมทั้งโทรศัพท์ติดตามสอบถามอาการ เน้นผู้โดยสารที่นั่งใกล้ผู้ป่วยทั้งนั่งข้าง นั่งแถวหน้า และแถวหลังเป็นหลัก เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่มีอาการป่วย
รศ.พงษ์ศักดิ์ อังกะสิทธิ์ อธิการบดี ม.เชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด เนื่องจาก ม.เชียงใหม่มีหอพักที่นักศึกษาอาศัยอยู่ร่วมกันด้วย อีกทั้งยังต้องเฝ้าระวังกลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐฯ ซึ่ง มช.มีนักศึกษาที่เดินทางไปต่างประเทศตามโครงการเวิร์กแอนด์แทลเวิลในช่วงปิดภาคเรียนประมาณ 300 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ด้านรศ.ปรีชา สุนทรานันท์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและกิจกรรมพิเศษ ม.มหิดล เปิดเผยว่า ขณะนี้นักศึกษา ม.มหิดลที่มีอาการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มีจำนวน 5 ราย เป็นนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ วิทยาเขตพญาไท 4 ราย คณะทันตแพทยศาสตร์ 1 ราย
**ปลัด สธ.ห้าม รพ.ให้ข่าวตัวเลขผู้ป่วย
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุม แก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ว่า ในการรายงานตัวเลขผู้ป่วย จากนี้ สธ.จะรายงานเป็นยอดรวมของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งสายพันธุ์ใหม่และเก่า โดยไม่มีการให้รายละเอียดของผู้ป่วย แต่อาจจะมีการแยกให้เห็นว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จำนวนเท่าไหร่ และสายพันธุ์เก่าจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งการรายงานตัวเลขของผู้ป่วยสายพันธุ์ใหม่นั้น จะรายงานเฉพาะจำนวนผู้ป่วยที่มีการสุ่มเชื้อมาตรวจเท่านั้น หมายความว่าจากนี้ไปตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะไม่ใช่ตัวเลขของผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ทั้งประเทศ แต่เป็นตัวเลขผู้ป่วยที่มีการสุ่มตรวจเชื้อ ทั้งนี้ สธ.จะทำหนังสือที่ลงนามโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศงดการให้ข่าวตัวเลขผู้ป่วยและรายละเอียดของผู้ป่วย สามารถให้ได้เฉพาะข้อมูลการป้องกันโรคเท่านั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนกับตัวเลขที่ออกจาก สธ. และในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ สธ.จะจัดประชุมแพทย์ที่ทำหน้าที่ในการตรวจรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยและการประเมินสถานการณ์ของโรค
**หมอไม่ต้องวินิจฉัยว่าพันธุ์ไหน
นพ.ศุภมิตร์ ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ภายใน 2-3 วันสธ. จะดำเนินการแจ้งให้แพทย์และพยาบาลปรับวิธีการวินิจฉัย โดยหากพบว่าผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีการวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือเก่า แต่ให้ดำเนินการรักษาเหมือนกันทั้งหมด และในการตรวจสอบเชื้อหาสายพันธุ์ของไวรัส จะไม่เก็บเชื้อผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มาตรวจสอบสายพันธุ์ในห้องปฏิบัติการทุกราย เนื่องจากในการรักษาดำเนินการเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ใด แต่ยังต้องมีการสุ่มตรวจเชื้อจากผู้ป่วยบ้างเพื่อเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ ไม่จำเป็นต้องทำเกินกว่านี้เพราะไม่มีประโยชน์
“คนไทยอาจจะสับสนเพราะเดือนที่ผ่านมากระทรวงนำเสนอประหนึ่งว่าโรคนี้มีความรุนแรงมาก ประชาชนต้องตื่นตัวในการรับมือและป้องกัน แต่มาเดือนนี้กลับบอกว่า เชื้อไม่มีความรุนแรงเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ธรรมดาทั่วไป นั่นเป็นเพราะในระยะแรกยังไม่มีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่นี้ว่าจะมีความรุนแรงแค่ไหน จำเป็นต้องบอกให้ประชาชนระมัดระวังตัวไว้ก่อน แต่เมื่อมีการศึกษาจึงได้มีความรู้มากขึ้นว่าความรุนแรงไม่แตกต่างจากไข้หวัดใหญ่ทั่วไป”นพ.ศุภมิตรกล่าว
**5 เดือนป่วยหวัดใหญ่กว่า 5 พันราย
นพ.ภาสกร อัศวเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนม.ค.– 6 มิ.ย. ประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาลแล้ว 5,399 ราย เฉพาะ 1 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. – 6 มิ.ย.พบผู้ป่วย 288 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่ในปี 5 ปีย้อนหลังพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ประมาณ 1.1 -1.3หมื่นราย เท่ากับว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลใน 1 สัปดาห์ มีจำนวนมากกว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่พบในรอบ 2 เดือนซึ่งมีเพียง 201 รายเท่านั้น
**คนแห่ โทร.ปรึกษาเพิ่ม80%
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวในฐานะผู้อำนวยการสำนักสุขภาพจิตสังคมว่าจากกระแสการตื่นตระหนกของประชาชนเกี่ยวกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ส่งผลให้มีผู้ติดต่อมายังสายด่วนสธ.และกรมต่าง ๆ โดยเฉพาะกรมควบคุมโรค เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 80 ทั้งนี้ สธ.เตรียมจัดทำสมุดปกเขียว เพื่อนำข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ประชาชนวิตกและสอบถามเข้ามามาก แจกให้กับประชาชนเพื่อมีความรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้
**กทม.เตรียมฉีดวัคซีนให้เด็ก นร.
วานนี้ (15 มิ.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นตนมีความเป็นห่วงอย่างมาก ซึ่งหากมีแนวโน้มที่แพร่ระบาดในพื้นที่อย่างรุนแรง ทางหน่วยงานของกทม. เตรียมที่จะหารือในแนวทางป้องกันเชิงรุก ซึ่งเป็นมาตรการทางการแพทย์คือ การเข้าฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ให้กับนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกทม.เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรค อย่างไรก็ตามตนก็ยังไม่แน่ใจว่าการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนจะสามารถยับยั้งการแพร่เชื้อได้ แต่เบื้องต้นนั้นทางกทม. พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการเข้าไปล้าง ทำความสะอาดพื้นที่ของสถานศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามที่ได้ประสานมายังสำนักงานเขต
จากนั้นในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ณ อาคารเจเจมอลล์ เขตจตุจักร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ไปเป็นประธานการเปิดประชุมการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพื่อแนะนำและให้ความรู้ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค พร้อมตอบข้อซักถามเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตนอย่างถูกวิธีเพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุม
**ผู้เชี่ยวชาญยันไม่น่าวิตก
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่จะมีทุกปี แต่การแพร่ระบาดใหญ่จะเกิดขึ้นในทุก 30-40 ปี ต่อครั้งซึ่งที่ผ่านมาเกิดขึ้นแล้วจำนวน 2 ครั้งได้แก่เมื่อปี 2500 ซึ่งค่อนข้างรุนแรงมาก พอการระบาดครั้งที่ในปี 2511 ถือว่าอยู่ในระดับที่เบาลง และเมื่อถึงครั้งนี้ปี 2552 เท่าที่ตนได้รับข้อมูลข่าวสารมีจำนวนผู้ป่วยกว่า 30,000 คนทั่วโลก มีผู้เสียชีวิต 245 คน แม้ในประเทศเม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบการระบาดก็มีผู้เสียชีวิตเพียง 145 คนเท่านั้น ดังนั้นอัตราการเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ยังไม่ถึงร้อยละ 1 จึงไม่สามารถตัดสินความรุนแรงของโรคได้
ด้าน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้เหมือนกับไข้หวัดธรรมดาไม่มีอาการใดๆหากเราไปสัมผัสตัวผู้ได้รับเชื้อก็จะไม่ติดต่อแน่นอนเพราะจะไม่มีเชื้อโรคออกมา เนื่องจากเชื้อจะแพร่ได้ต้องเริ่มจากมีอาการของโรค เป็นหวัด ไอ จาม มีน้ำมูก หรือมีไข้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวจนถึงขั้นที่ไม่กล้าเข้าใกล้ญาติพี่น้องของผู้ป่วย อยู่ใกล้ไม่ได้ ส่วนในรายที่ได้รับเชื้อแล้วเชื้อจะออกมาในเสมหะ น้ำลาย น้ำมูก เชื้อนี้จะอยู่ในร่างกายของผู้ป่วย ในวันแรกมากที่สุด จากนั้นจะลดลำดับลงในวันที่ 2-3 พอวันที่ 4-5 เชื้อก็จะเหลือน้อยมาก จนหลังวันที่ 5 เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ก็จะหมดไป
***รายแรกนอกทวีปอเมริกาตาย
สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า ทางการสกอตแลนด์แถลงในคืนวันอาทิตย์(14)ว่า คนไข้ผู้หนึ่งที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และมีอาการป่วยอย่างอื่นๆ ด้วย ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล นับเป็นผู้ติดเชื้อชนิดนี้ที่เสียชีวิตเป็นรายแรกนอกทวีปอเมริกา
แจกกี เฟลมมิง คนไข้รายนี้เป็นชาวเมืองกลาสโกว์ อายุ 38 ปี เสียชีวิตหลังจากคลอดบุตรคนที่สองของเธอก่อนกำหนดมาได้ 2 สัปดาห์ การตายของเธอมีขึ้น 3 วันตั้งแต่ที่องค์การอนามัยโลก(ฮู) ประกาศเพิ่มระดับเตือนภัยไวรัสมรณะนี้ ขึ้นสู่ระดับที่ 6 อันเป็นระดับสูงสุด
ก่อนหน้านี้ผู้ที่ตายจากหวัด 2009 อยู่ใน 6 ประเทศทางทวีปอเมริกาทั้งสิ้น โดยที่รายแรกเสียชีวิตที่เม็กซิโกเมื่อ 2 เดือนก่อน
ทางการสาธารณสุขของแคนาดาก็เพิ่งยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตในแดนเมเปิลเป็นรายที่ 6 โดยเป็นสตรีวัย 50 ปีเศษ ซึ่งเจ็บป่วยด้วย "โรคเรื้อรัง" อยู่ด้วย
สำหรับเฟลมมิงนั้น เป็น 1 ใน 10 ของผู้ติดเชื้อไวรัสหวัด 2009 ซึ่งรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่สหราชอาณาจักร โดยเฉพาะในสกอตแลนด์นั้นมีผู้ติดเชื้อนี้ที่ยืนยันแล้วจำนวน 498 ราย และเมื่อนับตลอดทั่วประเทศสหราชอาณาจักรก็จะมี 1,261 ราย
ตามตัวเลขขององค์การอนามัยโลกที่ไม่ได้อัปเดตมาตั้งแต่วันศุกร์(12)นั้น เวลานี้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกือบ 30,000 ราย ใน 74 ประเทศ ในจำนวนนี้ตายราว 150 ราย
พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ทำท่าจะแผ่กว้างออกไปอีกมากเมื่อวานนี้ หลังจากหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเป็นหมู่เกาะห่างไกลในแถบแปซิฟิกใต้ รายงานว่าพบผู้ต้องสงสัยรายแรก
เจ้าหน้าที่หน่วยเฝ้าระวังโรคหวัด 2009 ของหมู่เกาะแห่งนี้รายงานว่า พบชายผู้หนึ่งที่ศึกษาในออสเตรเลีย และเดินทางกลับบ้านเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อพักผ่อนช่วงวันหยุด มีอาการป่วยคล้ายๆ กับโรคหวัด เวลานี้ชายผู้นี้ถูกกักตัวติดตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาล
นอกจากนั้น โครเอเชีย ก็แจ้งเมื่อวานนี้ว่าพบผู้ติดเชื้อรายแรก แต่รัฐมนตรีสาธารณสุข ดาร์โก มิลิโนวิช กล่าวว่า ชายผู้นี้หายดีและกลับไปทำงานแล้ว.
