“เพลย์แม็กซ์ ” ประกาศรุกตลาดเครื่องสำอางไทย จัดงาน “ KINKA Cosmetic Xclusive Party ” เพื่อเปิดตัวเครื่องสำอางชั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น หวังเจาะกลุ่มตลาดสาววัย 25 -50 ปี ระดับบีบวกขึ้นไป ทุ่มงบ 10 ล้าน บาท พร้อมทำตลาดเต็มรูปแบบ หวังยอดขายปีแรกโต 10 % เน้นการทำตลาดแบบ Experiential Marketing เพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย
นางพรพิมล ศีลคุปต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพลย์แม็กซ์ จำกัด ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์
“ คินข่ะ คอสเมติคส์ ” เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ฮาคุชิ จำกัด ให้เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ KINKA Cosmetic ” ซึ่งเป็นเครื่องสำอางชั้นสูงจากญี่ปุ่นแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อดูแลและทำตลาดในเมืองไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูและบำรุงผิวด้วยสูตรลิขสิทธิ์เฉพาะของคินข่ะ
“ ในการทำตลาดของ คินข่ะ คอสเมติคส์ ” ในเมืองไทย เราได้เน้นการทำตลาดแบบครบวงจรโดยเน้นการตลาดแบบ Experiential Marketing เพื่อเป็นการเข้าถึงและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยได้วางงบประมาณ การจัดกิจกรรมพิเศษและการประชาสัมพันธ์ไว้ถึง 65 % และงบประมาณสื่อโฆษณาอีก 35 % สำหรับสื่อที่ใช้จะเน้นสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก เช่น นิตยสารสำหรับผู้หญิงชื่อดัง ซึ่งเป็นสื่อดั่งเดิมที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้หญิงได้ดี นอกจากนี้ คินข่ะ คอสเมติคส์ยังให้ความสำคัญกับการทำ ตลาดบนสื่อออนไลน์ หรือ “ Digital Marketing ” ผ่านเว็บ kinkacosmetic.com ซึ่งถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด โดยมุ่งเน้นการแนะนำผลิตภัณฑ์โปรโมชั่นและข้อมูลที่น่าสนใจให้กับลูกค้าประกอบการตัดสินใจแล้ว ยังเปิดโอกาสให้มีกิจรรมร่วมสนุกเพื่อชิงรางวัล ” ช่วงปีแรกบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10 ล้าน และในปีต่อไปคาดว่าจะมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15 %
นางพรพิมล กล่าวต่อไปว่า จากเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ชะลอตัวเป็นผลมาจากปัจจัยในหลายๆ ด้าน และกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง เหตุผลดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องเลือกซื้อสินค้าที่ประหยัดและดีที่สุด โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยด้านเสริมความงาม ที่แม้ว่ายอดขายรวมในตลาดจะไม่ตก แต่สินค้าในกลุ่มเคาท์เตอร์
แบรนด์กลับมีอัตราเติบโตที่ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้สินค้าแบรนด์ที่มีราคาถูกแต่คุณภาพเท่าเดิม ซึ่งตรงจุดนี้เองทำให้เราแล้วเห็นช่องทางที่น่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ “ คินข่ะ คอสเมติคส์ ”
สำหรับตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบัน มีความหลากหลายและมีการแข่งขันที่มีแนมโน้มสูงขึ้น ด้วยมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท มีการเติบโตในครึ่งปีแรกเพียง 5% เท่านั้น โดยปัจจุบันมีแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดเครื่องสำอางกลุ่มพรีเมี่ยม มีมูลค่าตลาดถึง 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าสกินแคร์ 10,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 20,000 ล้านบาท จะเป็นกลุ่มเมคอัพและน้ำหอม เนื่องจากความต้องการของลูกค้าในตลาดมีความต้องการสูง ถึงแม้เศรษฐกิจมีอยู่ในช่วงชะลอตัว ซึ่งลูกค้าต้องการสินค้าที่ดีมีคุณภาพ แต่ราคาที่ถูกลง เหตุผลคือ ผู้หญิงรักความสวยงาม แม้ว่ากำลังซื้อจะลดลง และความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมก็ถือว่าเป็นทางเลือกแรกที่ดีในการตัดสินใจซื้อในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
นางพรพิมล ศีลคุปต์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพลย์แม็กซ์ จำกัด ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์
“ คินข่ะ คอสเมติคส์ ” เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัท ฮาคุชิ จำกัด ให้เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “ KINKA Cosmetic ” ซึ่งเป็นเครื่องสำอางชั้นสูงจากญี่ปุ่นแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อดูแลและทำตลาดในเมืองไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูและบำรุงผิวด้วยสูตรลิขสิทธิ์เฉพาะของคินข่ะ
“ ในการทำตลาดของ คินข่ะ คอสเมติคส์ ” ในเมืองไทย เราได้เน้นการทำตลาดแบบครบวงจรโดยเน้นการตลาดแบบ Experiential Marketing เพื่อเป็นการเข้าถึงและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยได้วางงบประมาณ การจัดกิจกรรมพิเศษและการประชาสัมพันธ์ไว้ถึง 65 % และงบประมาณสื่อโฆษณาอีก 35 % สำหรับสื่อที่ใช้จะเน้นสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหลัก เช่น นิตยสารสำหรับผู้หญิงชื่อดัง ซึ่งเป็นสื่อดั่งเดิมที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้หญิงได้ดี นอกจากนี้ คินข่ะ คอสเมติคส์ยังให้ความสำคัญกับการทำ ตลาดบนสื่อออนไลน์ หรือ “ Digital Marketing ” ผ่านเว็บ kinkacosmetic.com ซึ่งถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด โดยมุ่งเน้นการแนะนำผลิตภัณฑ์โปรโมชั่นและข้อมูลที่น่าสนใจให้กับลูกค้าประกอบการตัดสินใจแล้ว ยังเปิดโอกาสให้มีกิจรรมร่วมสนุกเพื่อชิงรางวัล ” ช่วงปีแรกบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10 ล้าน และในปีต่อไปคาดว่าจะมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15 %
นางพรพิมล กล่าวต่อไปว่า จากเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ชะลอตัวเป็นผลมาจากปัจจัยในหลายๆ ด้าน และกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง เหตุผลดังกล่าว ทำให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องเลือกซื้อสินค้าที่ประหยัดและดีที่สุด โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยด้านเสริมความงาม ที่แม้ว่ายอดขายรวมในตลาดจะไม่ตก แต่สินค้าในกลุ่มเคาท์เตอร์
แบรนด์กลับมีอัตราเติบโตที่ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ใช้สินค้าแบรนด์ที่มีราคาถูกแต่คุณภาพเท่าเดิม ซึ่งตรงจุดนี้เองทำให้เราแล้วเห็นช่องทางที่น่าจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ “ คินข่ะ คอสเมติคส์ ”
สำหรับตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบัน มีความหลากหลายและมีการแข่งขันที่มีแนมโน้มสูงขึ้น ด้วยมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท มีการเติบโตในครึ่งปีแรกเพียง 5% เท่านั้น โดยปัจจุบันมีแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดเครื่องสำอางกลุ่มพรีเมี่ยม มีมูลค่าตลาดถึง 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าสกินแคร์ 10,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 20,000 ล้านบาท จะเป็นกลุ่มเมคอัพและน้ำหอม เนื่องจากความต้องการของลูกค้าในตลาดมีความต้องการสูง ถึงแม้เศรษฐกิจมีอยู่ในช่วงชะลอตัว ซึ่งลูกค้าต้องการสินค้าที่ดีมีคุณภาพ แต่ราคาที่ถูกลง เหตุผลคือ ผู้หญิงรักความสวยงาม แม้ว่ากำลังซื้อจะลดลง และความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมก็ถือว่าเป็นทางเลือกแรกที่ดีในการตัดสินใจซื้อในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน