ASTVผู้จัดการรายวัน - สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) เรียกร้องหน่วยงานรัฐและเอกชนในภาคท่องเที่ยวทั้งหมดมาประชุม แก้ปัญหาและป้องกันผลกระทบหวัด 2009 กับภาคท่องเที่ยว หลังระบาดหนักพัทยา-ภูเก็ต
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) เปิดเผยว่า จากกรณีมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ 2009 ในประเทศไทย ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา และภูเก็ต เฟสต้าจึงขอเรียกร้องให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติได้แล้ว พร้อมกับเรียกหน่วยงานรัฐและเอกชนในภาคท่องเที่ยวทั้งหมดมาประชุม เพื่อเตรียมคิดแนวทางแก้ปัญหาที่จะเกิดกระทบกับภาคท่องเที่ยว เพราะการพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางมาประเทศไทย อาจทำให้ช่วงโลวซีซั่นปีนี้ นักท่องเที่ยวอาจลดลงเหลือ 25-30% จากที่คาดว่าจะได้ 50%ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงอยู่แล้วเมื่อเทียบกับปีก่อน
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท. กล่าวว่า ททท.เตรียมนำแผนจัดการกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำ มาดำเนินงานต่อ ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งทำมี 2 ประเด็น ได้แก่ การระวัง ป้องกันการติดเชื้อ ให้ความรู้กับพนักงาน ททท. และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งหมด เพื่อแจ้งข้อมูลการระบาด ผู้ติดเชื้อและวิธีจัดการของประเทศไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ล่าสุดททท.จับตาเป็นพิเศษใน 2 ตลาด คือ ฮ่องกง และไต้หวัน เพราะมีข่าวว่า มีนักท่องเที่ยวมาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ ในไทย
ด้านการทำงานของ คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติ(ศวก.) ของททท. ได้ติดตามสถานการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 นี้อย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้เปิดศูนย์ 24 ชั่วโมง เพราะไม่ได้เป็นเรื่องที่ ททท.รับผิดชอบโดยตรง แต่ ททท.จะเป็นหน่วยงานหนึ่งที่จะทำหน้าที่รับและส่งต่อข้อมูล เพื่อชี้แจงต่อนักท่องเที่ยวตามข้อเท็จจริง
โดยเฉพาะการนำเสนอมาตรการการดูแลควบคุมของรัฐบาลไทย ที่ไม่เลือกปฎิบัติทั้งคนไทยและต่างชาติ ข้อมูลต่างๆที่ ททท.ได้รับมาจากหน่วยงานรัฐด้วยกันจะนำใส่ไว้ในนิวส์รูม ซึ่งเป็นข้อมูลเผยแพร่ที่เอกชนสามารถนำออกไปใช้ได้ทันที
“หากพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว อาจให้ศวก.ทำการประเมินสถานการณ์ว่าจะมีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้อย่างไรบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลปรับแผนการทำงานต่อไป ส่วนผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวก็ควรหามาตรการป้องกันของตัวเองไว้ด้วย”
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า การพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จะทำให้สถานกรณีท่องเที่ยวของประเทศไทย จะฟื้นตัวช้ากว่าที่คิดไว้ไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน คือต้นปีหน้า จากที่คิดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 3 นี้ได้ ซึ่งยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาสู่ประเทศไทย ซ้ำเติมให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยย่ำแย่ไปกว่าเดิม โดยคาดว่าตลอดทั้งปีนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะติดลบประมาณ 20-22% แต่ถ้ามองในแง่ดี จะทำให้ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศสูงขึ้นอีก 10% เพราะไม่กล้าเดินทางไปต่างประเทศ
นายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ได้ส่งอีเมล์แจ้งให้สมาชิกของสมาคมทุกรายแสดงความคิดเห็นเรื่องการป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 เ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากสถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้ เพื่อเชื่อว่าการพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น จะต้องกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งความคิดเห็นที่ได้มาจะนำเสนอต่อกระทรวงสาธารณะสุข เพื่อหามาตรการป้องกันได้เพิ่มขึ้น
“ตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกแพกเกจทัวร์ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คงต้องใช้เวลาสักพักคงเห็นผล ซึ่งสิ่งต้องขอความร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว คือ ช่วยกันบอกลูกทัวร์ชาวต่างชาติว่าหากรู้สึกเป็นไข้ หรือผิดปกติให้แจ้งกับบริษัททัวร์ทันที เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ เพราะเกรงว่าจะถูกกักตัว”.
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย (เฟสต้า) เปิดเผยว่า จากกรณีมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธ์ 2009 ในประเทศไทย ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยา และภูเก็ต เฟสต้าจึงขอเรียกร้องให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติได้แล้ว พร้อมกับเรียกหน่วยงานรัฐและเอกชนในภาคท่องเที่ยวทั้งหมดมาประชุม เพื่อเตรียมคิดแนวทางแก้ปัญหาที่จะเกิดกระทบกับภาคท่องเที่ยว เพราะการพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางมาประเทศไทย อาจทำให้ช่วงโลวซีซั่นปีนี้ นักท่องเที่ยวอาจลดลงเหลือ 25-30% จากที่คาดว่าจะได้ 50%ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงอยู่แล้วเมื่อเทียบกับปีก่อน
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน ททท. กล่าวว่า ททท.เตรียมนำแผนจัดการกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กระทรวงสาธารณสุขจัดทำ มาดำเนินงานต่อ ซึ่งสิ่งที่ต้องเร่งทำมี 2 ประเด็น ได้แก่ การระวัง ป้องกันการติดเชื้อ ให้ความรู้กับพนักงาน ททท. และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศทั้งหมด เพื่อแจ้งข้อมูลการระบาด ผู้ติดเชื้อและวิธีจัดการของประเทศไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับรู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ล่าสุดททท.จับตาเป็นพิเศษใน 2 ตลาด คือ ฮ่องกง และไต้หวัน เพราะมีข่าวว่า มีนักท่องเที่ยวมาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯ ในไทย
ด้านการทำงานของ คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติ(ศวก.) ของททท. ได้ติดตามสถานการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 นี้อย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้เปิดศูนย์ 24 ชั่วโมง เพราะไม่ได้เป็นเรื่องที่ ททท.รับผิดชอบโดยตรง แต่ ททท.จะเป็นหน่วยงานหนึ่งที่จะทำหน้าที่รับและส่งต่อข้อมูล เพื่อชี้แจงต่อนักท่องเที่ยวตามข้อเท็จจริง
โดยเฉพาะการนำเสนอมาตรการการดูแลควบคุมของรัฐบาลไทย ที่ไม่เลือกปฎิบัติทั้งคนไทยและต่างชาติ ข้อมูลต่างๆที่ ททท.ได้รับมาจากหน่วยงานรัฐด้วยกันจะนำใส่ไว้ในนิวส์รูม ซึ่งเป็นข้อมูลเผยแพร่ที่เอกชนสามารถนำออกไปใช้ได้ทันที
“หากพบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว อาจให้ศวก.ทำการประเมินสถานการณ์ว่าจะมีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้อย่างไรบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลปรับแผนการทำงานต่อไป ส่วนผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวก็ควรหามาตรการป้องกันของตัวเองไว้ด้วย”
นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า การพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น จะทำให้สถานกรณีท่องเที่ยวของประเทศไทย จะฟื้นตัวช้ากว่าที่คิดไว้ไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน คือต้นปีหน้า จากที่คิดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 3 นี้ได้ ซึ่งยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาสู่ประเทศไทย ซ้ำเติมให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยย่ำแย่ไปกว่าเดิม โดยคาดว่าตลอดทั้งปีนี้ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะติดลบประมาณ 20-22% แต่ถ้ามองในแง่ดี จะทำให้ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศสูงขึ้นอีก 10% เพราะไม่กล้าเดินทางไปต่างประเทศ
นายสุรพล ศรีตระกูล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ได้ส่งอีเมล์แจ้งให้สมาชิกของสมาคมทุกรายแสดงความคิดเห็นเรื่องการป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 เ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากสถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้ เพื่อเชื่อว่าการพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น จะต้องกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งความคิดเห็นที่ได้มาจะนำเสนอต่อกระทรวงสาธารณะสุข เพื่อหามาตรการป้องกันได้เพิ่มขึ้น
“ตอนนี้ยังไม่มีการยกเลิกแพกเกจทัวร์ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คงต้องใช้เวลาสักพักคงเห็นผล ซึ่งสิ่งต้องขอความร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยว คือ ช่วยกันบอกลูกทัวร์ชาวต่างชาติว่าหากรู้สึกเป็นไข้ หรือผิดปกติให้แจ้งกับบริษัททัวร์ทันที เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ เพราะเกรงว่าจะถูกกักตัว”.
