ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยเครดิต ปีนี้วางเป้าปล่อยสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ปล่อยไป 5,000 ล้านบาท เชื่อยอดสินเชื่อที่ปล่อยให้ลูกค้าไตรมาส 2 เท่ากับไตรมาสแรกที่ระดับ 1.4 พันล้านบาท โดยกระจายพอร์ตสินเชื่อทั่วถึงทุกธุรกิจเพื่อป้องกันความเสี่ยง เน้นพิจารณารอบคอบและมองการชำระหนี้ของลูกหนี้เป็นหลัก จำกัดวงเงินกู้ไม่เกิน 10 ล้านบาท
นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) (ไทยเครดิต) เปิดเผยในงานสัมนาหัวข้อ "สร้างเครดิตผู้ประกอบการไทย...เพื่ออนาคตใหม่องค์กร" ว่าภายใต้วิกฤตที่เกิดขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ต่างเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากความกังวลเรื่องการชำระหนี้ของลูกค้าตามสภาพเศรษฐกิจที่หดตัว ขณะที่ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อของบริษัทเป็นประเภทสินเชื่อรายย่อยที่มองความสามารถการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก จึงไม่มีการคัดกรองลูกค้าจากปัจจัยอื่นใดมากนัก ซึ่งช่วงไตรมาส 1/52 ที่ผ่านมาบริษัทได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วมูลค่า 1.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นยอดรวมของทั้งในส่วนธุรกิจเอสเอ็มอี ธุรกิจบุคคล และธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นพอร์ตรวมของสินเชื่อที่บริษัทมีอยู่ โดยยอดการปล่อยสินเชื่อนี้เป็นยอดที่กระจายในสัดส่วนเท่า ๆกันของแต่ละพอร์ตสินเชื่อที่ได้กล่าวมา เพื่อต้องการบริหารความเสี่ยง
ขณะที่ไตรมาส 2/52 ยอดการปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลง เพราะช่วงเดือนเมษายนมีวันหยุดหลายวัน และเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น แต่เมื่อเดือนพฤษภาคมยอดการปล่อยสินเชื่อกลับมาดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ปล่อยแล้วกว่า 700-800 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าช่วงไตรมาส2นี้ บริษัทจะสามารถมียอดการปล่อยสินเชื่อเท่าไตรมาส 1
นอกจากนี้การทำธุรกิจสินเชื่อภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ด้วยรูปแบบธุรกิจของบริษัทเองที่จะทำการดูแลในส่วนของธุรกิจรายย่อยโดยไม่มีการจำกัดกรอบหรือกฎเกณฑ์ของบริษัทที่จะเข้ามาขอสินเชื่อเหมือนอย่างธนาคารพาณิชย์ทั่วไป จึงต้องพิจารณาเพื่อป้องกันความเสี่ยงทั้งในส่วนของภาคนโยบายที่บริษัทเปิดกว้างอยู่แล้ว และการวิเคราะห์สินเชื่อเป็นรายตัว โดยจะปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าแต่ละรายในวงเงินที่ไม่เกิน 10 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมียอดการไม่อนุมัติปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า 40-50% ซึ่งสูงจากปี 50 ที่มียอดการไม่ปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 20% ซึ่งเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง จากปัจจัยต่าง ๆที่เข้ามากระทบ ทั้งการชำระล่าช้า รายได้ลูกค้าที่ลดลงและปัญหาการว่างงาน เป็นการป้องกันความเสี่ยง ปีนี้วางเป้าหมายปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวหรือมีมูลค่าอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 5,000 ล้านบาท
นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) (ไทยเครดิต) เปิดเผยในงานสัมนาหัวข้อ "สร้างเครดิตผู้ประกอบการไทย...เพื่ออนาคตใหม่องค์กร" ว่าภายใต้วิกฤตที่เกิดขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ต่างเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากความกังวลเรื่องการชำระหนี้ของลูกค้าตามสภาพเศรษฐกิจที่หดตัว ขณะที่ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อของบริษัทเป็นประเภทสินเชื่อรายย่อยที่มองความสามารถการชำระหนี้ของลูกค้าเป็นหลัก จึงไม่มีการคัดกรองลูกค้าจากปัจจัยอื่นใดมากนัก ซึ่งช่วงไตรมาส 1/52 ที่ผ่านมาบริษัทได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วมูลค่า 1.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นยอดรวมของทั้งในส่วนธุรกิจเอสเอ็มอี ธุรกิจบุคคล และธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นพอร์ตรวมของสินเชื่อที่บริษัทมีอยู่ โดยยอดการปล่อยสินเชื่อนี้เป็นยอดที่กระจายในสัดส่วนเท่า ๆกันของแต่ละพอร์ตสินเชื่อที่ได้กล่าวมา เพื่อต้องการบริหารความเสี่ยง
ขณะที่ไตรมาส 2/52 ยอดการปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลง เพราะช่วงเดือนเมษายนมีวันหยุดหลายวัน และเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น แต่เมื่อเดือนพฤษภาคมยอดการปล่อยสินเชื่อกลับมาดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ปล่อยแล้วกว่า 700-800 ล้านบาท ซึ่งหวังว่าช่วงไตรมาส2นี้ บริษัทจะสามารถมียอดการปล่อยสินเชื่อเท่าไตรมาส 1
นอกจากนี้การทำธุรกิจสินเชื่อภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ด้วยรูปแบบธุรกิจของบริษัทเองที่จะทำการดูแลในส่วนของธุรกิจรายย่อยโดยไม่มีการจำกัดกรอบหรือกฎเกณฑ์ของบริษัทที่จะเข้ามาขอสินเชื่อเหมือนอย่างธนาคารพาณิชย์ทั่วไป จึงต้องพิจารณาเพื่อป้องกันความเสี่ยงทั้งในส่วนของภาคนโยบายที่บริษัทเปิดกว้างอยู่แล้ว และการวิเคราะห์สินเชื่อเป็นรายตัว โดยจะปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าแต่ละรายในวงเงินที่ไม่เกิน 10 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมียอดการไม่อนุมัติปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า 40-50% ซึ่งสูงจากปี 50 ที่มียอดการไม่ปล่อยสินเชื่ออยู่ที่ 20% ซึ่งเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง จากปัจจัยต่าง ๆที่เข้ามากระทบ ทั้งการชำระล่าช้า รายได้ลูกค้าที่ลดลงและปัญหาการว่างงาน เป็นการป้องกันความเสี่ยง ปีนี้วางเป้าหมายปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวหรือมีมูลค่าอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 5,000 ล้านบาท