xs
xsm
sm
md
lg

สคิบเสนอFIDFเพิ่มทุนพ.ค.นี้ เล็งขายหนี้เน่าอีกล็อต7พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์นครหลวงไทยเตรียมเสนอแผนเพิ่มทุนให้ FIDF ต้นเดือน พ.ค.นี้ คาดหลังเสนอแล้วจะใช้เวลาในการดำเนินกระบวนการจนแล้วเสร็จประมาณ 2-3 เดือน ชี้ปีนี้สินเชื่อยังไปได้ดีโดยมีสินเชื่อจากโครงการภาครัฐคอยหนุน เผยเตรียมขายเอ็นพีแอลอีก 7,000 ล้านบาท ภายในไตรมาส 3 ปีนี้

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด(มหาชน)หรือ SCIB เปิดเผยถึงความคืบหน้าของแผนการเพิ่มทุนของธนาคารว่า ในต้นเดือนพฤษภาคมจะมีการเสนอแผนไปยังกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ถือว่าเป็นไปตามกรอบเวลาเดิมที่เคยกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม หลังจากเสนอเรื่องไปยัง FIDF แล้วคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 2-3 เดือน โดยเชื่อว่าการเพิ่มทุนจะทำได้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ของปีนี้

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการหาพันธมิตรทางธุรกิจนั้นก็ยังต้องรอให้ที่ปรึกษาทางการเงินสรุปข้อมูลมาเสนอก่อน และส่วนกรณีที่ทางบริษัททุนธนชาต (TCAP) และมาบุญครอง (MBK)
ได้เข้ามาถือหุ้นของธนาคารประมาณ 9% นั้นเชื่อว่าเป็นการเข้ามาถือหุ้นในลักษณะของการลงทุนมากกว่า เนื่องจากราคาหุ้นของธนาคารอยู่ที่ 7 บาทซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับในรูปของเงินปันผล

"ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะเพิ่มเงินกองทุนในส่วนที่เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 หรือ ขั้นที่ 2 แต่ในเบื้องต้นทางที่ปรึกษาทางการเงินได้เสนอแนวทางมาแล้ว ตอนนี้ก็ผ่านบอร์ดเบื้องต้นแล้วเช่นกัน ซึ่งในต้นเดือนพฤษภาคมก็จะเสนอไปยังผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่วนการเสนอเรื่องหุ้นกู้ตอนนี้ก็ได้มีการอนุมัติไว้แล้ว"

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารในไตรมาสแรกนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ทรงตัว ขณะที่สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ลดลงประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยในส่วนของกำไรของธนาคารนั้นหากดูเฉพาะในส่วนของธนาคารถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย แต่เนื่องจากบริษัทในเครือได้มีการบันทึกราคาตามตลาดทำให้มีการขาดทุนทางบัญชี

ในส่วนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 18,000 ล้านบาท หรือ 6.7% เป็นเป้าหมายที่ไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับปีก่อน
อีกทั้งในปีนี้ธนาคารได้มีการร่วมปล่อยกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจได้อีก 20,000 ล้านบาท ก็ทำให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังต้องขึ้นอยู่กับการเบิกใช้ด้วยว่าเป็นอย่างไร

ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าธนาคารที่รัฐจะเข้าไปเบิกใช้ก่อนคือ ธนาคารกรุงเทพ แต่ในส่วนของสินเชื่อธุรกิจนั้นก็ยังมองว่ากลุ่มอาหารยังเติบโตได้ดี แต่กลุ่มที่ต้องระวังคือกลุ่มท่องเที่ยว

"แม้ว่าปีนี้สัดส่วนสินเชื่อภาครัฐจะสูงขึ้น แต่ธนาคารก็มั่นใจว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM)ของธนาคารจะไม่ลดลง จากระดับ 3% กว่าๆ แม้สินเชื่อภาครัฐจะให้ผลตอบแทนต่ำ แต่ธนาคารก็ยังคงเดินหน้าในการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูง โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมากสินเชื่อรายย่อยก็เติบโตดี โดยในส่วนของสินเชื่อบ้านเติบโต 5,700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่คาด เพราะเป้าหมายทั้งปีคาดว่าสินเชื่อบ้านจะโต 10,000 ล้านบาท"

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ธนาคารมีแผนที่จะขายออกไปประมาณ 7,000 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ซึ่งหากขายได้ตามแผนก็จะทำให้ NPL ของธนาคารลดลงมาอยู่ที่กว่า 5%
ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเป้าหมายการควบคุมเอ็นพีแอลทั้งปีของธนาคาร จากปัจจุบันอยู่ที่กว่า 7% ส่วนความคืบหน้าในการสรรหากรรมการผู้จัดการของ บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหากรรมการผู้จัดการ คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้จะเรียกมาสัมภาษณ์และมองว่าหลังจากที่ได้ตัวผู้บริหารแล้วผลการดำเนินงานก็น่าจะดีขึ้น โดยธนาคารจะมีการประเมินผลทุกๆ 1 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น