ASTV ผู้จัดการรายวัน – ค่าย “วอลโว่” ปรับโครงสร้างบริหารใหม่ ดัน “ฉันทนา วัฒนารมย์” ขึ้นเป็นประธานบริษัทคนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้เป็นต้นไป ตามนโยบายของวอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์ ถือเป็นผู้บริหารหญิงไทยคนแรก ที่คุมบังเหียนบริษัทรถยนต์ข้ามชาติ
นายพอล สโตคส์ ประธานบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ และนโยบายของวอลว์ คาร์ คอร์ปอเรชั่นทั่วโลก ทำให้วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2552 นี้เป็นต้นไป
“นโยบายของวอลโว่ต้องการผลักดันให้ผู้บริหารท้องถิ่น ขึ้นมาดูแลการบริหารองค์กรประเทศนั้นๆ ทั้งหมด ดังนั้นในวันที่ 1 กรกฏาคมที่จะถึงนี้ จะมีการแต่งตั้งนางฉันทนา วัฒนารมย์ รองประธานฝ่ายขายและการตลาด วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ขึ้นเป็นประธานบริษัทคนใหม่ ซึ่งถือเป็นผู้บริหารหญิงไทยคนแรกที่ขึ้นมารับตำแหน่งสูงสุดบริษัทรถยนต์ข้ามชาติ ส่วนตนเองจะย้ายกลับประเทศอังกฤษ หลังจากเข้ามารับตำแหน่งในไทยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา”
ทั้งนี้การผลักดันให้ผู้บริหารในท้องถิ่นนั้นๆ ขึ้นเป็นประธานบริษัท ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะเป็นนโยบายของวอลโว่อยู่แล้ว ดังจะเห็นว่าในตลาดยุโรปเดิมก็จะเป็นผู้บริหารจากประเทศสวีเดนบริษัทแม่ แต่เมื่อทุกอย่างลงตัวสามารถขับเคลื่อนไปได้แล้ว จึงได้มีการผลักดันให้ผู้บริหารที่คนในประเทศนั้นๆ ขึ้นมาบริหารต่อไป
นายสโตคส์กล่าวว่า ในส่วนของเอเชียได้มีการดำเนินการมาแล้ว ดังจะเห็นในประเทศเกาหลีที่เปลี่ยนให้ผู้บริหารคนเกาหลีขึ้นมาเป็นประธานวอลโว่ คาร์ ประเทศเกาหลี ซึ่งไม่เพียงดูแลวอลโว่เท่านั้นแต่ยังดูพีเอจี (Premier Automotive Group : PAG) ซึ่งเดิมเป็นกลุ่มบริหารแบรนด์หรูในเครือฟอร์ด ไม่ว่าจะเป็นวอลโว่ แลนด์โรเวอร์ จากัวร์ และแอสตัน มาติน เป็นต้น
ส่วนอาเซียนก็มีการแต่งตั้งผู้บริหารมาเลเซีย ขึ้นเป็นประธานวอลโว่ คาร์ ประเทศมาเลเซีย และมีไทยที่จะมีการเปลี่ยนในเดือนกรกฎาคมนี้ และที่ประเทศไต้หวันก็เพิ่งประกาศวันนี้ (9 พ.ค.) เช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงทิศทางนโยบายของวอลโว่ คาร์ อย่างชัดเจน ไม่ใช่เป็นการปรับองค์กรเพื่อลดขนาด หรือลดความสำคัญของวอลโว่ประเทศนั้นๆ แต่อย่างใด
นายสโตค์กล่าวว่า สำหรับนโยบายเกี่ยวกับพลังงานทดแทน วอลโว่มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตรถยนต์สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และในประเทศไทยก็ได้มีการเปิดตัว วอลโว่ เอส80 ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา และปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 80 คัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 150 คันต่อปี
ขณะที่การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด ล่าสุดได้มีการนำเข้ารถยนต์ครอสโอเวอร์ “วอลโว่ เอ็กซ์ซี60” มาเปิดตัวสู่ตลาดไทย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์อีกขั้น กับการแนะนำ “City Safety” ครั้งแรกของโลก โดยจะสามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการเบรกตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ชนท้ายรถคันหน้า ทั้งนี้เอ็กซ์ซี60 มีราคาจำหน่ายในไทย 3.999 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 35 คัน
นายพอล สโตคส์ ประธานบริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ และนโยบายของวอลว์ คาร์ คอร์ปอเรชั่นทั่วโลก ทำให้วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารใหม่ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2552 นี้เป็นต้นไป
“นโยบายของวอลโว่ต้องการผลักดันให้ผู้บริหารท้องถิ่น ขึ้นมาดูแลการบริหารองค์กรประเทศนั้นๆ ทั้งหมด ดังนั้นในวันที่ 1 กรกฏาคมที่จะถึงนี้ จะมีการแต่งตั้งนางฉันทนา วัฒนารมย์ รองประธานฝ่ายขายและการตลาด วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ขึ้นเป็นประธานบริษัทคนใหม่ ซึ่งถือเป็นผู้บริหารหญิงไทยคนแรกที่ขึ้นมารับตำแหน่งสูงสุดบริษัทรถยนต์ข้ามชาติ ส่วนตนเองจะย้ายกลับประเทศอังกฤษ หลังจากเข้ามารับตำแหน่งในไทยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา”
ทั้งนี้การผลักดันให้ผู้บริหารในท้องถิ่นนั้นๆ ขึ้นเป็นประธานบริษัท ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะเป็นนโยบายของวอลโว่อยู่แล้ว ดังจะเห็นว่าในตลาดยุโรปเดิมก็จะเป็นผู้บริหารจากประเทศสวีเดนบริษัทแม่ แต่เมื่อทุกอย่างลงตัวสามารถขับเคลื่อนไปได้แล้ว จึงได้มีการผลักดันให้ผู้บริหารที่คนในประเทศนั้นๆ ขึ้นมาบริหารต่อไป
นายสโตคส์กล่าวว่า ในส่วนของเอเชียได้มีการดำเนินการมาแล้ว ดังจะเห็นในประเทศเกาหลีที่เปลี่ยนให้ผู้บริหารคนเกาหลีขึ้นมาเป็นประธานวอลโว่ คาร์ ประเทศเกาหลี ซึ่งไม่เพียงดูแลวอลโว่เท่านั้นแต่ยังดูพีเอจี (Premier Automotive Group : PAG) ซึ่งเดิมเป็นกลุ่มบริหารแบรนด์หรูในเครือฟอร์ด ไม่ว่าจะเป็นวอลโว่ แลนด์โรเวอร์ จากัวร์ และแอสตัน มาติน เป็นต้น
ส่วนอาเซียนก็มีการแต่งตั้งผู้บริหารมาเลเซีย ขึ้นเป็นประธานวอลโว่ คาร์ ประเทศมาเลเซีย และมีไทยที่จะมีการเปลี่ยนในเดือนกรกฎาคมนี้ และที่ประเทศไต้หวันก็เพิ่งประกาศวันนี้ (9 พ.ค.) เช่นเดียวกัน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงทิศทางนโยบายของวอลโว่ คาร์ อย่างชัดเจน ไม่ใช่เป็นการปรับองค์กรเพื่อลดขนาด หรือลดความสำคัญของวอลโว่ประเทศนั้นๆ แต่อย่างใด
นายสโตค์กล่าวว่า สำหรับนโยบายเกี่ยวกับพลังงานทดแทน วอลโว่มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตรถยนต์สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และในประเทศไทยก็ได้มีการเปิดตัว วอลโว่ เอส80 ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา และปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 80 คัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 150 คันต่อปี
ขณะที่การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด ล่าสุดได้มีการนำเข้ารถยนต์ครอสโอเวอร์ “วอลโว่ เอ็กซ์ซี60” มาเปิดตัวสู่ตลาดไทย ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์อีกขั้น กับการแนะนำ “City Safety” ครั้งแรกของโลก โดยจะสามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการเบรกตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ชนท้ายรถคันหน้า ทั้งนี้เอ็กซ์ซี60 มีราคาจำหน่ายในไทย 3.999 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 35 คัน