ศูนย์ข่าวศรีราชา -จังหวัดชลบุรี เร่งเพิ่มศักยภาพระบบสาธารณูปโภคเพื่อตอกย้ำจุดขายสำคัญที่จะดึงดูดการลงทุนทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรและอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังคงมีแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยสูง ล่าสุดเร่งเดินหน้าก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ในเขตอำเภอเกาะจันทร์ หลัง ครม.อนุมัติงบประมาณกว่า 6 พันล้านบาท เพื่อให้เป็นแหล่งน้ำป้อนทั้งจังหวัด
นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เผยถึงการดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อให้เพียงพอต่อการพัฒนาพื้นที่และการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว เกษตรกรรมและอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง แม้ขณะนี้ตัวเลขการขายจะชะลอลงจากผลพวงทางเศรษฐกิจและการเลิกจ้างว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ในเขตอำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรีกว่า 6 พันล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้มีการผลักดันอยู่หลายสมัย ซึ่งจังหวัดชลบุรีจะเร่งเดินหน้าก่อสร้างอ่างเก็บน้ำดังกล่าวเพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนดในปี 2559 โดยหากอ่างเก็บน้ำแห่งนี้แล้วเสร็จจะสามารถรองรับการลงทุนทุกประเภทได้อย่างเพียงพอ
ไม่เพียงเท่านั้น การมีปัจจัยที่เข้มแข็งทั้งการพัฒนาโครงการลอจิสติกส์ต่างๆ หรือท่าเรือพาณิชย์ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และการมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทำให้จังหวัดชลบุรี เป็นเป้าหมายสำคัญของการย้ายเข้ามาอยู่อาศัยทั้งในกลุ่มครอบครัว และกลุ่มคนทำงานทั้งชาวไทยและต่างชาติในนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีถึง 5 แห่ง ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มชาวต่างชาติที่เกษียณอายุราชการและต้องการเข้ามาใช้ชีวิตบั้นปลายในเมืองพัทยา โดยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจังหวัดชลบุรีอยู่ที่ร้อยละ 8.4 ขณะที่ตัวเลข GDP อยู่ในอันดับที่ 5 ของประเทศ รองจากจังหวัดระยอง สมุทรสาคร สมุทรปราการและอยุธยา โดยประชากรของจังหวัดชลบุรีมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 3 แสนบาทต่อปี
ทั้งนี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วและต่อเนื่องทำให้ในระยะ2-3 ปีที่ผ่านมา จังหวัดชลบุรีประสบปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ดังนั้นหากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแห่งใหม่แล้วเสร็จก็จะช่วยสนับสนุนการลงทุนภาคต่างๆ ได้ ที่สำคัญจังหวัดชลบุรี ยังมีโครงการที่จะเพิ่มศักยภาพการเก็บน้ำของอ่างเก็บน้ำบางพระ อำเภอศรีราชาให้มีขีดความสามารถสูงสุดอีกด้วย
“ยืนยันได้ว่าแหล่งน้ำของจังหวัดชลบุรี นับจากนี้จะไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือในอีก 10 ปีข้างหน้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการลงทุนจะทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม มลพิษและขยะ โดยในวันนี้จังหวัดชลบุรี มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนามากกว่า 200 โครงการ 3 หมื่นกว่าหน่วย และมีการทำสัญญาซื้อขายแล้วมากกว่า 50% และยังมีโครงการบ้านจัดสรรที่รอการขายจำนวน 799 หน่วย โดยส่วนที่ยังไม่ก่อสร้างแต่ขออนุญาตดำเนินการไว้แล้วมีกว่า 4 พันหน่วย ทำให้เห็นว่าเมื่อสิ้นไตรมาสที่ 2การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดชลบุรีจะยังดีอยู่ ซึ่งจังหวัดจะต้องเร่งจัดทำโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อให้เพียงพอต่อการเติบโตของชุมชน”
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จังหวัดชลบุรี ยังพร้อมที่จะปรับเงื่อนไขทางกฎหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายที่ดิน กฎหมายอาคารชุดหรือแม้แต่กฎหมายผังเมืองเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ประกอบการน้อยที่สุด แต่จะต้องอยู่บนเงื่อนไขที่ไม่ส่งผลกระทบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นทางการลงทุนให้เกิดขึ้น