ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบสูติบัตรให้ลูก "หมีแพนด้าน้อย" เกิดใหม่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เผยเตรียมเร่งเจรจาจีนเพื่อขอขยายเวลาให้ครอบครัวหมีแพนด้าทั้ง 3 ตัวอยู่ในประเทศไทยต่อไป คาดไม่เกินต้นเดือน ก.ค.52 มีความคืบหน้า เล็งชวนตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาร่วมไทย-จีนเป็นการถาวร ส่วนการตั้งชื่อจะเปิดโอกาสให้ประชาชนส่งชื่อได้ที่สวนสัตว์ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศและผ่านสื่อมวลชน แล้วส่งไปรษณียบัตรโหวตให้คะแนนชิงเงินรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์ 1 คัน
วานนี้ (2 มิ.ย.52) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่เกิดจาก "หลินฮุ่ย" แม่หมีแพนด้า โดยการผสมเทียมจากน้ำเชื้อของ "ช่วงช่วง" หมีแพนด้าตัวผู้ พร้อมทั้งมอบสูติบัตรให้กับลูกหมีแพนด้าตัวนี้ ซึ่งวานนี้มีอายุครบ 7 วันพอดีและมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี เช่นเดียวกับแม่หมีแพนด้า "หลินฮุ่ย"
นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า การเกิดของลูกหมีแพนด้าน้อยตัวนี้ที่มีอายุครบ 7 วันพอดี เป็นสิ่งที่สร้างความดีใจให้ทั้งชาวไทยและชาวจีน รวมทั้งชาวต่างชาติที่ชื่นชมหมีแพนด้าเป็นอย่างยิ่ง โดยการมาในครั้งนี้นอกจากการตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าแล้ว ยังเป็นการมาตรวจดูโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยด้วย ว่ามีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด เพื่อสร้างความร่วมมือกับจีนต่อไปในระยะยาว
สำหรับการเจรจากับทางจีนเพื่อขอขยายระยะเวลาในการอนุญาตให้หมีแพนด้าทั้ง 3 ตัวอยู่ในประเทศไทยต่อไปนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่แล้ว จากนั้นจึงจะเป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งการเจรจาระดับรัฐมนตรีนั้น คาดว่าน่าจะมีขึ้นไม่เกินต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ที่จะมีการเดินทางไปจีนและเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์และวิจัยขยายพันธุ์หมีแพนด้าด้วย
โดยแนวทางในการเจรจาขยายเวลานั้นเบื้องต้นมองว่าอยากจะให้เป็นไปในลักษณะของการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาการขยายพันธุ์หมีแพนด้าร่วมไทย-จีน เป็นการถาวรอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จีนสามารถมาทำการศึกษาวิจัยได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ เชื่อว่าจากการที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์หมีแพนด้า จนให้กำเนิดลูกหมีแพนด้าน้อย มาแล้ว น่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับทางจีนในการพิจารณาการขยายเวลาดังกล่าวออกไป
"ที่ผ่านมาในส่วนของเราได้มีการหารือกันแล้วถึงการเจรจาขอขยายเวลาให้มีหมีแพนด้าอยู่ในประเทศไทยต่อไป ซึ่งเมื่อดูจากรายละเอียดเนื้อหาของข้อตกลงที่จีนอนุญาตให้หมีแพนด้ามาอยู่ในประเทศไทย ก็พบว่าสามารถที่จะขอเจรจาเพื่อขยายเวลาได้หาก ช่วงช่วง และหลินฮุ่ย อยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ครบ 10 ปี แล้ว โดยในการเจรจาขอขยายเวลานั้น จะรวมหมีแพนด้าทั้ง 3 ตัว และหากเป็นไปได้ไม่อยากให้เป็นการขยายเวลาเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่อยากให้เป็นการสร้างความร่วมมือกันในระยะยาวเพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการขยายพันธุ์หมีแพนด้ามากกว่า" นายสุวิทย์ กล่าว
ขณะที่นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงการตั้งชื่อลูกหมีแพนด้าตัวนี้ว่า เบื้องต้นจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถส่งชื่อได้ที่สวนสัตว์ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งส่งชื่อผ่านไปยังสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และวิทยุภายในวันที่ 12 มิ.ย.52 จากนั้นทางองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะทำการรวบรวมรายชื่อทั้งหมดมาให้คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำการพิจารณาคัดเลือกให้เหลือเพียง 4 ชื่อ ซึ่งผู้ที่เสนอชื่อทั้ง 4 ชื่อนี้จะได้รับเงินรางวัลรายละ 100,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวชมศูนย์อนุรักษ์และวิจัยขยายพันธุ์หมีแพนด้าที่ประเทศจีน
ทั้งนี้ เมื่อเหลือเพียง 4 ชื่อที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว จะเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศร่วมกันโหวตผ่านไปรษณียบัตรว่าชื่อใดมีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งชื่อได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์ 1 คัน โดยการประกวดตั้งชื่อลูกหมีแพนด้าตัวนี้ ทางองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งใจที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 12 ส.ค.52 นี้ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าเกิดใหม่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะในครั้งนี้ ได้มีกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จำนวนหนึ่ง ได้ไปรวมตัวชุมนุมและแสดงปฏิกิริยาต่อต้านด้วยการปราศรัยโจมตีที่บริเวณหน้าท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวมทั้งยังติดตามไปชุมนุมที่บริเวณหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ด้วย
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า จากการชั่งน้ำหนักตัวแพนด้าน้อยครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันวานนี้ (2 มิ.ย.) อยู่ที่ 290 กรัม เพิ่มขึ้นจากน้ำหนักแรกเกิด 55 กรัม ความยาวลำตัวอยู่ที่ 18 ซม.สีผิวหนังบริเวณหู รอบดวงตา และขาทั้ง 4 ข้าง เป็นสีเทาดำชัดเจนขึ้น สุขภาพทั่วไปแข็งแรงสมบูรณ์
วานนี้ (2 มิ.ย.52) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่เกิดจาก "หลินฮุ่ย" แม่หมีแพนด้า โดยการผสมเทียมจากน้ำเชื้อของ "ช่วงช่วง" หมีแพนด้าตัวผู้ พร้อมทั้งมอบสูติบัตรให้กับลูกหมีแพนด้าตัวนี้ ซึ่งวานนี้มีอายุครบ 7 วันพอดีและมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี เช่นเดียวกับแม่หมีแพนด้า "หลินฮุ่ย"
นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า การเกิดของลูกหมีแพนด้าน้อยตัวนี้ที่มีอายุครบ 7 วันพอดี เป็นสิ่งที่สร้างความดีใจให้ทั้งชาวไทยและชาวจีน รวมทั้งชาวต่างชาติที่ชื่นชมหมีแพนด้าเป็นอย่างยิ่ง โดยการมาในครั้งนี้นอกจากการตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าแล้ว ยังเป็นการมาตรวจดูโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยด้วย ว่ามีความก้าวหน้ามากน้อยเพียงใด เพื่อสร้างความร่วมมือกับจีนต่อไปในระยะยาว
สำหรับการเจรจากับทางจีนเพื่อขอขยายระยะเวลาในการอนุญาตให้หมีแพนด้าทั้ง 3 ตัวอยู่ในประเทศไทยต่อไปนั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มอบหมายให้องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่แล้ว จากนั้นจึงจะเป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งการเจรจาระดับรัฐมนตรีนั้น คาดว่าน่าจะมีขึ้นไม่เกินต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ที่จะมีการเดินทางไปจีนและเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์และวิจัยขยายพันธุ์หมีแพนด้าด้วย
โดยแนวทางในการเจรจาขยายเวลานั้นเบื้องต้นมองว่าอยากจะให้เป็นไปในลักษณะของการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาการขยายพันธุ์หมีแพนด้าร่วมไทย-จีน เป็นการถาวรอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จีนสามารถมาทำการศึกษาวิจัยได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ เชื่อว่าจากการที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์หมีแพนด้า จนให้กำเนิดลูกหมีแพนด้าน้อย มาแล้ว น่าจะเป็นสิ่งที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับทางจีนในการพิจารณาการขยายเวลาดังกล่าวออกไป
"ที่ผ่านมาในส่วนของเราได้มีการหารือกันแล้วถึงการเจรจาขอขยายเวลาให้มีหมีแพนด้าอยู่ในประเทศไทยต่อไป ซึ่งเมื่อดูจากรายละเอียดเนื้อหาของข้อตกลงที่จีนอนุญาตให้หมีแพนด้ามาอยู่ในประเทศไทย ก็พบว่าสามารถที่จะขอเจรจาเพื่อขยายเวลาได้หาก ช่วงช่วง และหลินฮุ่ย อยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ครบ 10 ปี แล้ว โดยในการเจรจาขอขยายเวลานั้น จะรวมหมีแพนด้าทั้ง 3 ตัว และหากเป็นไปได้ไม่อยากให้เป็นการขยายเวลาเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่อยากให้เป็นการสร้างความร่วมมือกันในระยะยาวเพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการขยายพันธุ์หมีแพนด้ามากกว่า" นายสุวิทย์ กล่าว
ขณะที่นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงการตั้งชื่อลูกหมีแพนด้าตัวนี้ว่า เบื้องต้นจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถส่งชื่อได้ที่สวนสัตว์ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งส่งชื่อผ่านไปยังสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์และวิทยุภายในวันที่ 12 มิ.ย.52 จากนั้นทางองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะทำการรวบรวมรายชื่อทั้งหมดมาให้คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทำการพิจารณาคัดเลือกให้เหลือเพียง 4 ชื่อ ซึ่งผู้ที่เสนอชื่อทั้ง 4 ชื่อนี้จะได้รับเงินรางวัลรายละ 100,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวชมศูนย์อนุรักษ์และวิจัยขยายพันธุ์หมีแพนด้าที่ประเทศจีน
ทั้งนี้ เมื่อเหลือเพียง 4 ชื่อที่ได้รับการคัดเลือกแล้ว จะเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศร่วมกันโหวตผ่านไปรษณียบัตรว่าชื่อใดมีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งชื่อได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์ 1 คัน โดยการประกวดตั้งชื่อลูกหมีแพนด้าตัวนี้ ทางองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งใจที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 12 ส.ค.52 นี้ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมลูกหมีแพนด้าเกิดใหม่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะในครั้งนี้ ได้มีกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จำนวนหนึ่ง ได้ไปรวมตัวชุมนุมและแสดงปฏิกิริยาต่อต้านด้วยการปราศรัยโจมตีที่บริเวณหน้าท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวมทั้งยังติดตามไปชุมนุมที่บริเวณหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ด้วย
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า จากการชั่งน้ำหนักตัวแพนด้าน้อยครั้งล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันวานนี้ (2 มิ.ย.) อยู่ที่ 290 กรัม เพิ่มขึ้นจากน้ำหนักแรกเกิด 55 กรัม ความยาวลำตัวอยู่ที่ 18 ซม.สีผิวหนังบริเวณหู รอบดวงตา และขาทั้ง 4 ข้าง เป็นสีเทาดำชัดเจนขึ้น สุขภาพทั่วไปแข็งแรงสมบูรณ์