ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - "แพนด้าน้อย" มีพัฒนาการดีต่อเนื่องและสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ท่ามกลางการประคบประหงมของทีมงานสัตว์แพทย์ "กงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่" ร่วมยินดีกับการเกิดของ "แพนด้าน้อย" และพร้อมจัดกิจกรรมรับขวัญร่วมกับเชียงใหม่ ขณะที่สินค้าสารพัดชนิดที่ติดรูป "หมีแพนด้า" ฮิตถึงตลาดชายแดนไทย-พม่า ริมแม่น้ำเมยถึงขั้นขาดตลาด
วานนี้ (1 มิ.ย.52) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ทีมงานสัตวแพทย์ยังคงทำการดูแลลูกหมีแพนด้า ที่เพิ่งเกิดจาก "หลินฮุ่ย" หมีแพนด้าตัวเมียอย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ทำการตรวจสุขภาพลูกหมี พบว่ามีพัฒนาการดีมาก สุขภาพแข็งแรง ดิ้นและร้องเสียงดัง บริเวณใบหู รอบดวงตา ขาสี่ข้าง และปลายจมูกเริ่มมีสีดำ ขนาดตัวและน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจากนี้ทีมงานสัตวแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพลูกหมีแพนด้าวันเว้นวันเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนลูกหมีแพนด้าและหลินฮุ่ย
สำหรับหลินฮุ่ย แม่หมีแพนด้านั้น รายงานข่าวบอกว่า ได้กอดลูกหมีแพนด้าน้อยไว้ในอ้อมอกตลอดเวลา แม้ในเวลาหลับ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในเวลา 12.50 น.วานนี้ (1 มิ.ย.) หลินฮุ่ย เผลอทำลูกแพนดาน้อยหล่นพื้นขณะที่กำลังยื่นมือออกไปรับใบไผ่อ่อนที่ทีมสัตว์แพทย์นำมาจากดอยอินทนนท์ แต่หลักจากนั้นไม่นาน หลินฮุ่ย ได้รีบใช้มือคว้าแพนดาน้อยขึ้นสู่อ้อมอกและหยุดใช้มือกินไผ่ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องป้อนไผ่ใบอ่อนใส่ปากหลินฮุ่ย แทน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแพนดาน้อยไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงเข้าไปชมความน่ารักของคู่แพนด้าแม่-ลูก จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่ส่วนจัดแสดงแพนด้าฯ ของสวนสัตว์เชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แพนด้า "หลินฮุ่ย" ยังคงอุ้มลูกไว้อย่างทะนุถนอมตลอดเวลา และมีอาการเมื่อยล้าบ้าง
ส่วนลูกแพนด้าน้อย ซึ่งจะมีอายุครบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ (2 มิ.ย.) ก็มีพัฒนาการทางร่างกายดีขึ้นจากที่เห็นสีดำราง ๆ บนผิวหนัง ใบหู รอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง และขาทั้ง 4 ขา ซึ่งเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) เริ่มเห็นสีดำชัดเจนมากขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 20-30 กรัม
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้บริหารสวนสัตว์เชียงใหม่ได้เข้าพบกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่เพื่อรายงานผลการเลี้ยงดูและพัฒนาการของแพนด้าน้อยให้ทราบ พร้อมทั้งเรียนเชิญให้เข้าเยี่ยมชมหลินฮุ่ย และแพนด้าน้อยร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จะเดินทางมาวันนี้ (2 มิ.ย.)
ขณะที่นางจิ้น ยี่ หลิน กงสุลจีน รักษาการแทนกงสุลใหญ่ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้แสดงความยินดีและขอบคุณเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ที่ดูแลแพนด้าอย่างดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับ จ.เชียงใหม่ ในการจัดงานรับขวัญลูกแพนด้าน้อย เมื่ออายุครบ 1 เดือน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
มีรายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตากว่า ที่ตลาดริมเมย ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากกว่าวันปกติ ทำให้สินค้าขายดี โดยเฉพาะของที่ระลึกจากจีนที่เกี่ยวกับแพนด้า ทั้ง ม่านไม้ไผ่รูปแพนด้า รวมทั้งตุ๊กตาหมีแพนด้าแบบต่างๆ จนสินค้าขาดตลาด พ่อค้าเปิดเผยว่า สินค้าที่เกี่ยวกับแพนด้าจะขายดีมากหลังจากหลินฮุ่ยตกลูก จนทำให้ช่วงนี้สินค้าขาดตลาด และต้องรออีก 30 วัน เพราะต้องสั่งสินค้าจากจีน
ด้านนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า ตอนนี้ลูกหมีแพนด้ามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี กินนมจากแม่เป็นระยะและกินมากตามต้องการ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี อย่างไรก็ตามจากนี้จะต้องพยายามทำให้ลูกหมีแพนด้ากินนมจากแม่ให้ครบทุกเต้า เพราะแต่ละเต้านั้นจะผลิตน้ำนมได้จำกัด โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลจะช่วยนำทางลูกหมีในการดูดนมแต่ละเต้า
ในส่วน "หลินฮุ่ย" แม่หมีแพนด้านั้น หลังจากที่ออกลูกแล้วพบว่ากินอาหารน้อยลงเพราะมัวแต่ห่วงเลี้ยงลูก โดยกินแต่แอปเปิ้ลและขนมปังไผ่ เป็นหลัก ไม่ค่อยกินไผ่ ซึ่งจริงๆ แล้วทีมสัตวแพทย์อยากให้กินไผ่มากกว่านี้เพราะมีความจำเป็นต่อตัวหลินฮุ่ยเอง ดังนั้น เวลานี้จึงกำลังพยายามหาไผ่ที่หลินฮุ่ย สามารถกินได้ง่าย เช่น ไผ่ลูกศรมาให้ รวมทั้งอาจแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มไผ่เป็นส่วนผสมมากขึ้นในการทำขนมปังไผ่
หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวอีกว่า การที่ลูกหมีแพนด้าที่เกิดในประเทศไทยตัวนี้ นอกจากจะเป็นลูกหมีแพนด้าที่เกิดขึ้นเป็นตัวแรกของปีนี้แล้ว จากบันทึกสถิติที่มีการเก็บไว้ยังพบว่าเป็นลูกหมีแพนด้าตัวแรกที่เกิดในเดือนพฤษภาคมด้วย ซึ่งเรื่องนี้เองทางผู้เชี่ยวชาญจีนจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมากรวมทั้งประคบประหงมใกล้ชิดและพยายามศึกษาว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
ส่วนการผสมพันธุ์หมีแพนด้า "หลินฮุ่ย" ในครั้งต่อไปนั้น นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า คงจะต้องเว้นช่วงไปอีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้หลินฮุ่ย ได้เลี้ยงดูและอยู่กับลูกน้อยอย่างเต็มที่ ซึ่งอย่างเร็วจะทำการผสมพันธุ์หมีแพนด้าครั้งต่อไปได้ในปี 2554 โดยการผสมพันธุ์หมีแพนด้าในครั้งต่อไปนั้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการผสมเทียมไปแล้ว ทางทีมงานสัตวแพทย์จึงมีความตั้งใจว่าในครั้งต่อไปจะพยายามผสมพันธุ์ด้วยวิธีตามธรรมชาติให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น เพราะการที่ หลินฮุ่ย มีประสบการณ์มากขึ้นจากการมีลูกในครั้งนี้ น่าจะช่วย "ช่วงช่วง" หมีแพนด้าตัวผู้ ในการผสมพันธุ์ครั้งต่อไปได้มากขึ้น
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า แม้ว่าขณะนี้ลูกหมีแพนด้าที่เกิดใหม่ตัวนี้จะยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการเรียกชื่อลูกหมีแพนด้าตัวนี้เป็นการภายในอยู่ด้วยกัน 2-3 ชื่อ เช่น "ไทซิน" ซึ่งเป็นภาษาจีน ที่หมายถึง ดวงดาวที่สวยงามของไทย หรือ "อ้อแอ้" ที่เรียกตามพฤติกรรมร้องงอแงอยู่เป็นประจำ และ "ไอ้ตัวน้อย" เป็นต้น.
วานนี้ (1 มิ.ย.52) ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ทีมงานสัตวแพทย์ยังคงทำการดูแลลูกหมีแพนด้า ที่เพิ่งเกิดจาก "หลินฮุ่ย" หมีแพนด้าตัวเมียอย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ทำการตรวจสุขภาพลูกหมี พบว่ามีพัฒนาการดีมาก สุขภาพแข็งแรง ดิ้นและร้องเสียงดัง บริเวณใบหู รอบดวงตา ขาสี่ข้าง และปลายจมูกเริ่มมีสีดำ ขนาดตัวและน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งจากนี้ทีมงานสัตวแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพลูกหมีแพนด้าวันเว้นวันเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนลูกหมีแพนด้าและหลินฮุ่ย
สำหรับหลินฮุ่ย แม่หมีแพนด้านั้น รายงานข่าวบอกว่า ได้กอดลูกหมีแพนด้าน้อยไว้ในอ้อมอกตลอดเวลา แม้ในเวลาหลับ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในเวลา 12.50 น.วานนี้ (1 มิ.ย.) หลินฮุ่ย เผลอทำลูกแพนดาน้อยหล่นพื้นขณะที่กำลังยื่นมือออกไปรับใบไผ่อ่อนที่ทีมสัตว์แพทย์นำมาจากดอยอินทนนท์ แต่หลักจากนั้นไม่นาน หลินฮุ่ย ได้รีบใช้มือคว้าแพนดาน้อยขึ้นสู่อ้อมอกและหยุดใช้มือกินไผ่ทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องป้อนไผ่ใบอ่อนใส่ปากหลินฮุ่ย แทน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแพนดาน้อยไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงเข้าไปชมความน่ารักของคู่แพนด้าแม่-ลูก จากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่ส่วนจัดแสดงแพนด้าฯ ของสวนสัตว์เชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่แพนด้า "หลินฮุ่ย" ยังคงอุ้มลูกไว้อย่างทะนุถนอมตลอดเวลา และมีอาการเมื่อยล้าบ้าง
ส่วนลูกแพนด้าน้อย ซึ่งจะมีอายุครบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ (2 มิ.ย.) ก็มีพัฒนาการทางร่างกายดีขึ้นจากที่เห็นสีดำราง ๆ บนผิวหนัง ใบหู รอบดวงตาทั้ง 2 ข้าง และขาทั้ง 4 ขา ซึ่งเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) เริ่มเห็นสีดำชัดเจนมากขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 20-30 กรัม
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ผู้บริหารสวนสัตว์เชียงใหม่ได้เข้าพบกงสุลจีนประจำจังหวัดเชียงใหม่เพื่อรายงานผลการเลี้ยงดูและพัฒนาการของแพนด้าน้อยให้ทราบ พร้อมทั้งเรียนเชิญให้เข้าเยี่ยมชมหลินฮุ่ย และแพนด้าน้อยร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จะเดินทางมาวันนี้ (2 มิ.ย.)
ขณะที่นางจิ้น ยี่ หลิน กงสุลจีน รักษาการแทนกงสุลใหญ่ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้แสดงความยินดีและขอบคุณเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ที่ดูแลแพนด้าอย่างดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับ จ.เชียงใหม่ ในการจัดงานรับขวัญลูกแพนด้าน้อย เมื่ออายุครบ 1 เดือน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
มีรายงานข่าวจาก อ.แม่สอด จ.ตากว่า ที่ตลาดริมเมย ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากกว่าวันปกติ ทำให้สินค้าขายดี โดยเฉพาะของที่ระลึกจากจีนที่เกี่ยวกับแพนด้า ทั้ง ม่านไม้ไผ่รูปแพนด้า รวมทั้งตุ๊กตาหมีแพนด้าแบบต่างๆ จนสินค้าขาดตลาด พ่อค้าเปิดเผยว่า สินค้าที่เกี่ยวกับแพนด้าจะขายดีมากหลังจากหลินฮุ่ยตกลูก จนทำให้ช่วงนี้สินค้าขาดตลาด และต้องรออีก 30 วัน เพราะต้องสั่งสินค้าจากจีน
ด้านนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวว่า ตอนนี้ลูกหมีแพนด้ามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี กินนมจากแม่เป็นระยะและกินมากตามต้องการ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี อย่างไรก็ตามจากนี้จะต้องพยายามทำให้ลูกหมีแพนด้ากินนมจากแม่ให้ครบทุกเต้า เพราะแต่ละเต้านั้นจะผลิตน้ำนมได้จำกัด โดยเจ้าหน้าที่ที่ดูแลจะช่วยนำทางลูกหมีในการดูดนมแต่ละเต้า
ในส่วน "หลินฮุ่ย" แม่หมีแพนด้านั้น หลังจากที่ออกลูกแล้วพบว่ากินอาหารน้อยลงเพราะมัวแต่ห่วงเลี้ยงลูก โดยกินแต่แอปเปิ้ลและขนมปังไผ่ เป็นหลัก ไม่ค่อยกินไผ่ ซึ่งจริงๆ แล้วทีมสัตวแพทย์อยากให้กินไผ่มากกว่านี้เพราะมีความจำเป็นต่อตัวหลินฮุ่ยเอง ดังนั้น เวลานี้จึงกำลังพยายามหาไผ่ที่หลินฮุ่ย สามารถกินได้ง่าย เช่น ไผ่ลูกศรมาให้ รวมทั้งอาจแก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มไผ่เป็นส่วนผสมมากขึ้นในการทำขนมปังไผ่
หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กล่าวอีกว่า การที่ลูกหมีแพนด้าที่เกิดในประเทศไทยตัวนี้ นอกจากจะเป็นลูกหมีแพนด้าที่เกิดขึ้นเป็นตัวแรกของปีนี้แล้ว จากบันทึกสถิติที่มีการเก็บไว้ยังพบว่าเป็นลูกหมีแพนด้าตัวแรกที่เกิดในเดือนพฤษภาคมด้วย ซึ่งเรื่องนี้เองทางผู้เชี่ยวชาญจีนจึงให้ความสนใจเป็นอย่างมากรวมทั้งประคบประหงมใกล้ชิดและพยายามศึกษาว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
ส่วนการผสมพันธุ์หมีแพนด้า "หลินฮุ่ย" ในครั้งต่อไปนั้น นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า คงจะต้องเว้นช่วงไปอีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้หลินฮุ่ย ได้เลี้ยงดูและอยู่กับลูกน้อยอย่างเต็มที่ ซึ่งอย่างเร็วจะทำการผสมพันธุ์หมีแพนด้าครั้งต่อไปได้ในปี 2554 โดยการผสมพันธุ์หมีแพนด้าในครั้งต่อไปนั้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการผสมเทียมไปแล้ว ทางทีมงานสัตวแพทย์จึงมีความตั้งใจว่าในครั้งต่อไปจะพยายามผสมพันธุ์ด้วยวิธีตามธรรมชาติให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น เพราะการที่ หลินฮุ่ย มีประสบการณ์มากขึ้นจากการมีลูกในครั้งนี้ น่าจะช่วย "ช่วงช่วง" หมีแพนด้าตัวผู้ ในการผสมพันธุ์ครั้งต่อไปได้มากขึ้น
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า แม้ว่าขณะนี้ลูกหมีแพนด้าที่เกิดใหม่ตัวนี้จะยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการเรียกชื่อลูกหมีแพนด้าตัวนี้เป็นการภายในอยู่ด้วยกัน 2-3 ชื่อ เช่น "ไทซิน" ซึ่งเป็นภาษาจีน ที่หมายถึง ดวงดาวที่สวยงามของไทย หรือ "อ้อแอ้" ที่เรียกตามพฤติกรรมร้องงอแงอยู่เป็นประจำ และ "ไอ้ตัวน้อย" เป็นต้น.