ASTVผู้จัดการรายวัน – ไทยสมาร์ทคาร์ด เปิดแผนลึก ลุยเจาะแคชแวน นำร่อง เชนชายสี่หมี่เกี๊ยว-ร้นกาแฟ ขยาฐานยัตรสมาร์ทเพิร์ส ลั่นปีนี้ยอดผู้ถือบตรถึง 2.5 ล้านใบแน่ มั่นใจปีนี้ ยดใช้จ่ายผ่นบัตรทะลุ 5,000 ล้านบาท
นายเฉลิมชัย ฉัตรชัยกนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรกิจและปฎิบัติการ บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเงินสดดิจิตอลสมาร์ทเพิร์ส กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าของบัตรสมาร์ทเพิร์สต่อเนื่อง ล่าสุดคือโครงการ แคชแวน “Cash Van” เป็นการเจาะเข้ากลุ่มรถขนส่งหรือซัปพลายเออร์ที่ต้องส่งสินค้าให้กับเชนร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ แต่แทนที่จะให้ร้านค้าต้องจ่ายเงินสด ก็ให้นำบัตรนี้จ่ายแทนด้วยการเติมเงินกับเครื่องที่จะติดตั้งไปพร้อมกับรถส่งแของต่างๆ
ปัจจุบันเริ่มต้นแล้วกับ เชนร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวประมาณ 20 สาขา และเชนร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรถแคชแวนประมาณ 4 คัน ซึ่งจะทดลองและเก็บรายละเอียด อีก 2 เดือนเพื่อประเมินผลว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะขยายวงออกไปอีก ซึ่งโครงการนี้เน้นเจาะร้านค้าที่เป็นเชนต่างๆ เพราะจะช่วยเรื่องความสะดวกและตัดปัญหาเรื่องอันตรายจากการให้พนักงานถือเงินสดไว้มากๆ
ส่วนแผนงานปีนี้จะเน้นการใช้งบตลาดให้คุ้มค่า ไม่โหมมากเหมือนอดีต เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาตลาดเริ่มรู้จักมากขึ้นแล้ว แต่จะหันไปเพิ่มฐานผู้ถือบัตรและพันธมิตรมากขึ้นในกลุ่มใหม่ๆด้วย
โดยปีนี้ได้พันธมิตรใหม่มาร่วมออกบัตรโคแบรนด์ประมาณ 7 รายแล้วคือ โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์, ม.วงศ์ชวลิตกุล, ม.ลำปางพาณิชยการ, วิทยาลัยลำปางอินเตอร์เทค, โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, โอเรียนทอลบิวตี้ , และล่าสุดคือ โรงพยาบาลวิภาวดี นอกจากนี้ยังได้ลูกค้าลกลุ่มธุรกิจใหม่คือ ท่องเที่ยว โดยร่วมมือกับบริษัททัวร์กานต์กิตติ อยุธยา ทำบัตรส่งเสริมการท่องเที่ยว ทัวร์ 9 วัด ราคา 1,499 บาท ซึ่งจะขยายฐานกับบริษัททัวร์เพิ่มขึ้นอีก
ปัจจุบันมีพันธมิตรร่วมออกบัตรประมาณ 30 รายแล้ว และมีฐานผู้ถือบัตรจำนวน 2.2 ล้านใบ ขณะที่สิ้นปีที่แล้วมี 2 ล้านใบ และตั้งเป้าสิ้นปีนี้มี 2.5 ล้านใบ โดยที่ร้านค้าที่รับบัตรขณะนี้มีประมาณ 13,500 ร้านค้าจากแบรนด์ทุกแบรนด์รวมกัน ซึ่งเป็นของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมากถึง 11,000 สาขา โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้จะมีการออกบัตรร่วมอีกประมาณ 3 ราย
ขณะที่ยอดการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรสมาร์ทเพิร์สในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1,100 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาสที่สองนี้จะมีประมาณ 1,100 ล้านบาทเช่นกัน เพิ่มขึ้นจาก 2 ไตรมาสแรกปี 2551 ที่ยอดใช้จ่ายประมาณ 1,900 ล้านบาท เท่านั้น และคาดว่าทั้งปีนี้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรจะอยู่ที่ 4,800- 5,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีประมาณ 4,800 ล้านบาท
สำหรับโรงพยาบาลวิภาวดีนี้ถือเป็นการจับมือกับพันธมิตรที่เป็นภาคธุรกิจโรงพยาบาลเป็นรายแรกของไทย เป็นการขยายฐานตลาดบัตรให้กว้างขึ้น ซึ่งจะเป็นบัตรที่เก็บข้อมูลรายละเอียดในการติดต่อกับโรงพยาบาลพร้อมกับเป็นบัตรเงินสดด้วย
นายแพทย์ชัยสิทธิ์ คุปต์วิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลวิภาวดี กล่าวว่า การร่วมมือดังกล่าวเป็นการรักษาฐานลูกค้าของโรงพยาบาล และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งโรงพยาบาลด้วยกัน ซึ่งบัตรนี้สามารถชำระค่าใช้จ่ายภายในโรงพยาบาลและภายนอกที่เป็นจุดรับบัตรสมาร์ทเพิร์สทั่วประเทศ และมีแผนติดตั้งจุดรับบัตรให้ครบทุกส่วนของโรงพยาบาลและร้านค้าที่อยู่ในโรงพยาบาลด้วย โดยที่ผู้ถือบัตรนี้จะมีสิทธิพิเศษตามที่กำหนดไว้
นายเฉลิมชัย ฉัตรชัยกนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานธุรกิจและปฎิบัติการ บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเงินสดดิจิตอลสมาร์ทเพิร์ส กล่าวว่า บริษัทฯมีแผนขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าของบัตรสมาร์ทเพิร์สต่อเนื่อง ล่าสุดคือโครงการ แคชแวน “Cash Van” เป็นการเจาะเข้ากลุ่มรถขนส่งหรือซัปพลายเออร์ที่ต้องส่งสินค้าให้กับเชนร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ แต่แทนที่จะให้ร้านค้าต้องจ่ายเงินสด ก็ให้นำบัตรนี้จ่ายแทนด้วยการเติมเงินกับเครื่องที่จะติดตั้งไปพร้อมกับรถส่งแของต่างๆ
ปัจจุบันเริ่มต้นแล้วกับ เชนร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวประมาณ 20 สาขา และเชนร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรถแคชแวนประมาณ 4 คัน ซึ่งจะทดลองและเก็บรายละเอียด อีก 2 เดือนเพื่อประเมินผลว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะขยายวงออกไปอีก ซึ่งโครงการนี้เน้นเจาะร้านค้าที่เป็นเชนต่างๆ เพราะจะช่วยเรื่องความสะดวกและตัดปัญหาเรื่องอันตรายจากการให้พนักงานถือเงินสดไว้มากๆ
ส่วนแผนงานปีนี้จะเน้นการใช้งบตลาดให้คุ้มค่า ไม่โหมมากเหมือนอดีต เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาตลาดเริ่มรู้จักมากขึ้นแล้ว แต่จะหันไปเพิ่มฐานผู้ถือบัตรและพันธมิตรมากขึ้นในกลุ่มใหม่ๆด้วย
โดยปีนี้ได้พันธมิตรใหม่มาร่วมออกบัตรโคแบรนด์ประมาณ 7 รายแล้วคือ โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์, ม.วงศ์ชวลิตกุล, ม.ลำปางพาณิชยการ, วิทยาลัยลำปางอินเตอร์เทค, โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, โอเรียนทอลบิวตี้ , และล่าสุดคือ โรงพยาบาลวิภาวดี นอกจากนี้ยังได้ลูกค้าลกลุ่มธุรกิจใหม่คือ ท่องเที่ยว โดยร่วมมือกับบริษัททัวร์กานต์กิตติ อยุธยา ทำบัตรส่งเสริมการท่องเที่ยว ทัวร์ 9 วัด ราคา 1,499 บาท ซึ่งจะขยายฐานกับบริษัททัวร์เพิ่มขึ้นอีก
ปัจจุบันมีพันธมิตรร่วมออกบัตรประมาณ 30 รายแล้ว และมีฐานผู้ถือบัตรจำนวน 2.2 ล้านใบ ขณะที่สิ้นปีที่แล้วมี 2 ล้านใบ และตั้งเป้าสิ้นปีนี้มี 2.5 ล้านใบ โดยที่ร้านค้าที่รับบัตรขณะนี้มีประมาณ 13,500 ร้านค้าจากแบรนด์ทุกแบรนด์รวมกัน ซึ่งเป็นของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมากถึง 11,000 สาขา โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้จะมีการออกบัตรร่วมอีกประมาณ 3 ราย
ขณะที่ยอดการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรสมาร์ทเพิร์สในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1,100 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาสที่สองนี้จะมีประมาณ 1,100 ล้านบาทเช่นกัน เพิ่มขึ้นจาก 2 ไตรมาสแรกปี 2551 ที่ยอดใช้จ่ายประมาณ 1,900 ล้านบาท เท่านั้น และคาดว่าทั้งปีนี้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรจะอยู่ที่ 4,800- 5,000 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีประมาณ 4,800 ล้านบาท
สำหรับโรงพยาบาลวิภาวดีนี้ถือเป็นการจับมือกับพันธมิตรที่เป็นภาคธุรกิจโรงพยาบาลเป็นรายแรกของไทย เป็นการขยายฐานตลาดบัตรให้กว้างขึ้น ซึ่งจะเป็นบัตรที่เก็บข้อมูลรายละเอียดในการติดต่อกับโรงพยาบาลพร้อมกับเป็นบัตรเงินสดด้วย
นายแพทย์ชัยสิทธิ์ คุปต์วิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลวิภาวดี กล่าวว่า การร่วมมือดังกล่าวเป็นการรักษาฐานลูกค้าของโรงพยาบาล และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งโรงพยาบาลด้วยกัน ซึ่งบัตรนี้สามารถชำระค่าใช้จ่ายภายในโรงพยาบาลและภายนอกที่เป็นจุดรับบัตรสมาร์ทเพิร์สทั่วประเทศ และมีแผนติดตั้งจุดรับบัตรให้ครบทุกส่วนของโรงพยาบาลและร้านค้าที่อยู่ในโรงพยาบาลด้วย โดยที่ผู้ถือบัตรนี้จะมีสิทธิพิเศษตามที่กำหนดไว้