ASTVผู้จัดการรายวัน – ซีคอน ไม่หวั่นเศรษฐกิจ โว 4 เดือนลูกค้าตบเท้าเข้าศูนย์เพิ่มขึ้น รายได้แตะ 390 ล้านบาท เติบโต 4% มั่นใจมาถูกทาง เดินหน้ารีโนเวท เพิ่มความหรูสู่ซีคอน จับฐานลูกค้าระดับซีบวกขึ้นไป ทั้งปี เชื่อรายได้เป็นไปตามเป้า
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เปิดเผยว่า ช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมารายได้มีอัตราการเติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 390 ล้านบาท สำหรับปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น บริษัทได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย ทั้งนี้
เพราะศูนย์การค้าซีคอนสแควร์เป็นศูนย์การค้าแถบชานเมือง ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาเดินซื้อสินค้าส่วนใหญ่ที่จะต้องเข้ามาเดินซื้อสินค้าภายในศูนย์เพื่อนำไปใช้และเพื่อการบริโภคเป็นหลัก ขณะที่ราคาสินค้าที่จำหน่ายก็มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสินค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง
ทั้งนี้ในส่วนแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทก็ยังได้มีการดำเนินแผนงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการรีโนเวทศูนย์การค้าให้มีความทันสมัย ซึ่งขณะนี้ก็ได้ดำเนินไปเกือบจะสมบูรณ์ คาดว่าภายในช่วงต้นปี 2553 จะเสร็จเรียบร้อย ซึ่งการรีโนเวทในครั้งนี้มองว่าจะสามารถช่วยยกภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ให้ดีขึ้นหรือคาดว่าจะสามารถช่วยในการเพิ่มกลุ่มลูกค้าสู่ระดับบนมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ระดับซีบวกขึ้นไป รวมถึงกลุ่มลูกค้าแถบสุวรรณภูมิ ที่ย้ายเข้ามาอาศัยใหม่
ล่าสุดในส่วนของการรีโนเวท ครั้งนี้ ทางศูนย์ฯได้มีการขอพื้นที่เช่าส่วนกลางคืนด้วยประมาณ 50% เพื่อต้องการให้ศูนย์ฯดูไม่รกตาจนเกินไป ดังนั้นในแง่ของค่าเช่าพื้นที่อาจจะลดลงเล็กน้อย แต่ทั้งปี 2552ยังหวัง 1,177 ล้านบาท อัตราการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 2.3% โดยมียังมีกำไรสุทธิ ประมาณ 310 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของส่วนแผนการลงทุนจัดทำโครงสร้างซีคอน ซิตี้นั้นขณะนี้บริษัทได้ชะลอการลงทุนไว้ก่อน เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ส่วนแผนการลงทุนในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ด้านโรงแรมนั้นก็ยังได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว โดยได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงการตกแต่งห้อง ซึ่งคาดว่าประมาณปลายไตรมาสหนึ่ง
หรือช่วงต้นไตรมาสสองของปีหน้า จะสามารถเปิดให้บริการได้ ภายใต้พื้นที่กว่า 25 ไร่ จำนวนห้องพักทั้งหมด 175 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักวิลล่า 25 ห้อง ราคาอยู่ระหว่าง 1-3 หมื่นบาทต่อห้อง และห้องพักทั่วไป 150 ห้องราคาระหว่าง 7-8 พันบาทคต่อห้อง ใช้งบลงทุนไปประมาณ 1.4 พันล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2551
โดยในส่วนของโครงการโรงแรมที่จังหวัดกระบี่ พื้นที่ประมาณ 50 ไร่นั้น บริษัทได้ชะลอแผนไว้ก่อน เนื่องจากมองว่าหลังจากที่เปิดให้บริการโรงแรมที่ภูเก็ตแล้ว 1 ปีดูว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ก่อนที่จะเริ่มลงทุนโรงแรมที่กระบี่ต่อ เนื่องจากต้องใช้งบลงทุนจำนวนมาก
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ เปิดเผยว่า ช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมารายได้มีอัตราการเติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 390 ล้านบาท สำหรับปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น บริษัทได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย ทั้งนี้
เพราะศูนย์การค้าซีคอนสแควร์เป็นศูนย์การค้าแถบชานเมือง ซึ่งลูกค้าที่เข้ามาเดินซื้อสินค้าส่วนใหญ่ที่จะต้องเข้ามาเดินซื้อสินค้าภายในศูนย์เพื่อนำไปใช้และเพื่อการบริโภคเป็นหลัก ขณะที่ราคาสินค้าที่จำหน่ายก็มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสินค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง
ทั้งนี้ในส่วนแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทก็ยังได้มีการดำเนินแผนงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของการรีโนเวทศูนย์การค้าให้มีความทันสมัย ซึ่งขณะนี้ก็ได้ดำเนินไปเกือบจะสมบูรณ์ คาดว่าภายในช่วงต้นปี 2553 จะเสร็จเรียบร้อย ซึ่งการรีโนเวทในครั้งนี้มองว่าจะสามารถช่วยยกภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ให้ดีขึ้นหรือคาดว่าจะสามารถช่วยในการเพิ่มกลุ่มลูกค้าสู่ระดับบนมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ระดับซีบวกขึ้นไป รวมถึงกลุ่มลูกค้าแถบสุวรรณภูมิ ที่ย้ายเข้ามาอาศัยใหม่
ล่าสุดในส่วนของการรีโนเวท ครั้งนี้ ทางศูนย์ฯได้มีการขอพื้นที่เช่าส่วนกลางคืนด้วยประมาณ 50% เพื่อต้องการให้ศูนย์ฯดูไม่รกตาจนเกินไป ดังนั้นในแง่ของค่าเช่าพื้นที่อาจจะลดลงเล็กน้อย แต่ทั้งปี 2552ยังหวัง 1,177 ล้านบาท อัตราการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 2.3% โดยมียังมีกำไรสุทธิ ประมาณ 310 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของส่วนแผนการลงทุนจัดทำโครงสร้างซีคอน ซิตี้นั้นขณะนี้บริษัทได้ชะลอการลงทุนไว้ก่อน เนื่องจากต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ส่วนแผนการลงทุนในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ด้านโรงแรมนั้นก็ยังได้ดำเนินการอยู่ ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว โดยได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงการตกแต่งห้อง ซึ่งคาดว่าประมาณปลายไตรมาสหนึ่ง
หรือช่วงต้นไตรมาสสองของปีหน้า จะสามารถเปิดให้บริการได้ ภายใต้พื้นที่กว่า 25 ไร่ จำนวนห้องพักทั้งหมด 175 ห้อง แบ่งเป็นห้องพักวิลล่า 25 ห้อง ราคาอยู่ระหว่าง 1-3 หมื่นบาทต่อห้อง และห้องพักทั่วไป 150 ห้องราคาระหว่าง 7-8 พันบาทคต่อห้อง ใช้งบลงทุนไปประมาณ 1.4 พันล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2551
โดยในส่วนของโครงการโรงแรมที่จังหวัดกระบี่ พื้นที่ประมาณ 50 ไร่นั้น บริษัทได้ชะลอแผนไว้ก่อน เนื่องจากมองว่าหลังจากที่เปิดให้บริการโรงแรมที่ภูเก็ตแล้ว 1 ปีดูว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ก่อนที่จะเริ่มลงทุนโรงแรมที่กระบี่ต่อ เนื่องจากต้องใช้งบลงทุนจำนวนมาก