ส.ว.สมชาย เรียกร้องกทม.อาสาแก้ปัญหาเมล์สาธารณะ รับป.ป.ช.ภาคประชาชน เตรียมเข้าชื่อถอดถอน ครม.หากยังคิดอนุมัติโครงการจัดซื้อรถเมล์ 4,000 คัน
วานนี้ (29 พ.ค.) นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภาได้ออกมาเรียกร้องให้ส.ส.กทม. ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 30 คน และพรรคเพื่อไทย อีก 6 คน ร่วมตรวจสอบโครงการที่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้ดำเนินการขออนุมัติจัดซื้อรถเมล์ 4,000 คัน จากครม. โดยเห็นว่าหากปล่อยให้โครงการนี้ได้รับการพิจารณาอนุมัติ ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่ใช้บริการขนส่งรถเมล์สาธารณะโดยเฉพาะงบประมาณของประเทศจำนวนมหาศาล ที่จะต้องจ่าย เฉพาะข่าวทุจริตการจัดซื้อนับหมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ เห็นว่า ทางออกการแก้ไขปัญหาการขนส่งมวลชนสาธารณะ น่าที่จะต้องให้หน่วยงานที่มีความรับผิดชอบ และรู้ปัญหาการแก้ไขปัญหาจราจร อย่างกรุงเทพมหานคร รับไปดำเนินการเหมือนกับโอนย้ายตำรวจดับเพลิงมาสังกัด เพราะจะได้สะดวกต่อการบริหารแบบองค์รวม โดยขณะที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ก็เคยมีแนวคิดที่จะโอนย้ายองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.เข้าสังกัด แต่ติดอยู่ที่มีหนึ้ผูกพันจำนวนมหาศาล ซึ่งหากม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน มีความจริงใจแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่จะใช้รถเมล์สาธารณะ และแก้ปัญหาจราจรไปพร้อมกัน ก็จะต้องรับอาสาไปดำเนินการ และหากจะจัดซื้อรถเมล์เพิ่มแทนรถเก่าที่ชำรุด ก็ต้องดำเนินการจัดซื้อเฉพาะที่จำเป็น และเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทยเท่านั้นเพราะจะเป็นการช่วยเหลือแรงงาน และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมกันด้วย
นายสมชาย กล่าวว่าขณะนี้ทราบมาว่า ป.ป.ช.ภาคประชาชน กำลังเคลื่อนไหวที่จะเป็นผู้ยื่นแสดงเจตจำนง รวบรวมประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา164 เพื่อถอดถอนรัฐมนตรี และ ครม.ออกจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ต่อประธานวุฒิสภา หากครม.ยังจะคิดอนุมัติ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีข่าวการทุจริตเกิดขึ้นกับการจัดซื้อของโครงการนี้อยู่
วานนี้ (29 พ.ค.) นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภาได้ออกมาเรียกร้องให้ส.ส.กทม. ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 30 คน และพรรคเพื่อไทย อีก 6 คน ร่วมตรวจสอบโครงการที่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้ดำเนินการขออนุมัติจัดซื้อรถเมล์ 4,000 คัน จากครม. โดยเห็นว่าหากปล่อยให้โครงการนี้ได้รับการพิจารณาอนุมัติ ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่ใช้บริการขนส่งรถเมล์สาธารณะโดยเฉพาะงบประมาณของประเทศจำนวนมหาศาล ที่จะต้องจ่าย เฉพาะข่าวทุจริตการจัดซื้อนับหมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ เห็นว่า ทางออกการแก้ไขปัญหาการขนส่งมวลชนสาธารณะ น่าที่จะต้องให้หน่วยงานที่มีความรับผิดชอบ และรู้ปัญหาการแก้ไขปัญหาจราจร อย่างกรุงเทพมหานคร รับไปดำเนินการเหมือนกับโอนย้ายตำรวจดับเพลิงมาสังกัด เพราะจะได้สะดวกต่อการบริหารแบบองค์รวม โดยขณะที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ก็เคยมีแนวคิดที่จะโอนย้ายองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.เข้าสังกัด แต่ติดอยู่ที่มีหนึ้ผูกพันจำนวนมหาศาล ซึ่งหากม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน มีความจริงใจแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่จะใช้รถเมล์สาธารณะ และแก้ปัญหาจราจรไปพร้อมกัน ก็จะต้องรับอาสาไปดำเนินการ และหากจะจัดซื้อรถเมล์เพิ่มแทนรถเก่าที่ชำรุด ก็ต้องดำเนินการจัดซื้อเฉพาะที่จำเป็น และเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทยเท่านั้นเพราะจะเป็นการช่วยเหลือแรงงาน และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมกันด้วย
นายสมชาย กล่าวว่าขณะนี้ทราบมาว่า ป.ป.ช.ภาคประชาชน กำลังเคลื่อนไหวที่จะเป็นผู้ยื่นแสดงเจตจำนง รวบรวมประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา164 เพื่อถอดถอนรัฐมนตรี และ ครม.ออกจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ต่อประธานวุฒิสภา หากครม.ยังจะคิดอนุมัติ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีข่าวการทุจริตเกิดขึ้นกับการจัดซื้อของโครงการนี้อยู่