นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ออกมาเรียกร้องให้ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ทั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 30 คน และพรรคเพื่อไทยอีก 6 คน ร่วมตรวจสอบโครงการกรณีที่ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดำเนินการขออนุมัติเช่าซื้อรถเมล์ 4,000 คันจากคณะรัฐมนตรี โดยเห็นว่าหากปล่อยให้โครงการนี้ได้รับการพิจารณาอนุมัติ ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับประชาชนชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ใช้บริการขนส่งรถเมล์สาธารณะโดยเฉพาะงบประมาณของประเทศจำนวนมหาศาล ที่จะต้องจ่าย เฉพาะข่าวทุจริตการจัดซื้อนับหมื่นล้านบาท
ทั้งนี้เห็นว่าทางออกการแก้ไขปัญหาการขนส่งมวลชนสาธารณะ น่าที่จะต้องให้หน่วยงานที่มีความรับผิดชอบและรู้ปัญหาการแก้ไขปัญหาจราจร อย่างกรุงเทพมหานคร รับไปดำเนินการเหมือนกับโอนย้ายตำรวจดับเพลิงมาสังกัด เพราะจะได้สะดวกต่อการบริหารแบบองค์รวม
ขณะที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เคยมีแนวคิดที่จะโอนย้ายองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.เข้าสังกัด แต่ติดอยู่ที่มีหนี้ผูกพันจำนวนมหาศาล ซึ่งหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนบัจจุบัน มีความจริงใจแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ที่จะใช้รถเมล์สาธารณะและแก้ปัญหาจราจรไปพร้อมกัน ก็จะต้องรับอาสาไปดำเนินการ และหากจะจัดซื้อรถเมล์เพิ่มแทนรถเก่าที่ชำรุด ก็ต้องดำเนินการจัดซื้อเฉพาะที่จำเป็น และเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทยเท่านั้น เพราะจะเป็นการช่วยเหลือแรงงานและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมกันด้วย
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ทราบมาว่า ป.ป.ช.ภาคประชาชน กำลังเคลื่อนไหวที่จะเป็นผู้ยื่นแสดงเจตจำนงรวบรวมประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 เพื่อถอดถอนรัฐมนตรีและครม. ออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ต่อประธานวุฒิสภา หาก ครม.ยังจะคิดอนุมัติ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีข่าวการทุจริตเกิดขึ้นกับการจัดซื้อของโครงการนี้อยู่
ทั้งนี้เห็นว่าทางออกการแก้ไขปัญหาการขนส่งมวลชนสาธารณะ น่าที่จะต้องให้หน่วยงานที่มีความรับผิดชอบและรู้ปัญหาการแก้ไขปัญหาจราจร อย่างกรุงเทพมหานคร รับไปดำเนินการเหมือนกับโอนย้ายตำรวจดับเพลิงมาสังกัด เพราะจะได้สะดวกต่อการบริหารแบบองค์รวม
ขณะที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เคยมีแนวคิดที่จะโอนย้ายองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.เข้าสังกัด แต่ติดอยู่ที่มีหนี้ผูกพันจำนวนมหาศาล ซึ่งหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนบัจจุบัน มีความจริงใจแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ที่จะใช้รถเมล์สาธารณะและแก้ปัญหาจราจรไปพร้อมกัน ก็จะต้องรับอาสาไปดำเนินการ และหากจะจัดซื้อรถเมล์เพิ่มแทนรถเก่าที่ชำรุด ก็ต้องดำเนินการจัดซื้อเฉพาะที่จำเป็น และเป็นรถที่ประกอบในประเทศไทยเท่านั้น เพราะจะเป็นการช่วยเหลือแรงงานและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมกันด้วย
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้ทราบมาว่า ป.ป.ช.ภาคประชาชน กำลังเคลื่อนไหวที่จะเป็นผู้ยื่นแสดงเจตจำนงรวบรวมประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 20,000 คน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 เพื่อถอดถอนรัฐมนตรีและครม. ออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 270 ต่อประธานวุฒิสภา หาก ครม.ยังจะคิดอนุมัติ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีข่าวการทุจริตเกิดขึ้นกับการจัดซื้อของโครงการนี้อยู่