xs
xsm
sm
md
lg

บีเอ็มเอ็นปรับเกมรบรถไฟใต้ดินควบ“รีเทล-โฆษณา-เดินรถ”สู้ศ.ก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - 3 บริษัทลูกรถไฟฟ้าใต้ดิน ควบรวม เป็น "แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์" ช่วงเศรษฐกิจทรุด ปรับทัพใหม่ เตรียมลุยเต็มที่กลางปีหน้า ชี้แนวทางการขายโฆษณาแบบแพ็กเกจ มั่นใจดัน แบงคอก เมโทรฯ ไปได้ไกล ส่วนเมโทรมอลล์ เตรียมรีเรชรแบรนด์ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเดินทาง สิ้นปีวางรายได้รวมที่ 150 ล้านบาท ปีหน้าขยับขึ้นอีกอย่างน้อย 3-5%
นายเอกลักษณ์ ยิ้มวิไล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท  แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) เปิดเผยว่า บีเอ็มเอ็น คือ การควบรวมกันระหว่าง 3 บริษัทลูก ของ BMCL คือ เมโทร มอลล์ ดีเวลลอปเม้นท์, บีเอ็มซีแอล เน็ตเวิร์ค และ ไตรแอด เน็ตเวิร์ค โดยได้รวมกันเป็นบริษัทเดียวตั้งแต่ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยBMCL ถือหุ้น 65% กลุ่มตระกูลยิ้มวิไล ถือหุ้น 14% และที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย จากเดิมในส่วนของไตรแอด เน็ตเวิร์ค กลุ่มตระกูลยิ้มวิไล ถือหุ้นอยู่ 44% ที่เหลือเป็นBMCLกว่า 56%
สำหรับเหตุผลที่มีการรวมบริษัทนั้น เนื่องจากเดิมต่างคนต่างดำเนินธุรกิจ อีกทั้งมีสายงานบางส่วนมีการทับซ้อนกันเกิดขึ้น ทำให้เกิดแนวคิดในการรวมบริษัทกัน เพื่อช่วยในการทำงานที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการขายโฆษณา ที่จะสามารถทำการขายออกมาได้หลายรูปแบบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำกิจกรรมคู่การขายโฆษณาได้มากขึ้น ซึ่งการรวมบริษัทในช่วงนี้ ถือเป็นช่วงที่ดีขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัว
สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ในส่วนของทีมงานจำนวนกว่า 84 คน ยังอยู่ครบ แต่จะมีการรวมแผนกเข้าด้วยกัน ทำงานเป็นทีมเดียวกัน เช่นในส่วนของการตลาด กำลังฟอร์มทีมกันใหม่ คาดว่าจะมีประมาณ 7-8 คน ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มแผนกความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเข้ามาอีกทีมด้วย โดยจะทำงานร่วมกับทีมฝ่ายขาย ที่นำเสนอแพกเกจโฆษณาให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ในส่วนของการขายโฆษณาแบบเป็นแพ็กเกจนั้น ได้เริ่มแนะนำลูกค้าไปบ้างแล้ว และจะขายจริงตั้งแต่ช่วงเดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป ขณะที่ 4 เดือนที่ผ่านมา ยอดรายได้จากการขายโฆษณายังดีอยู่ เทียบกับปีที่แล้ว ถือว่าใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม การรวมบริษัทครั้งนี้ จะมุ่งเน้นเรื่องของการปรับปรุงเป็นหลัก โดยในส่วนของเมโทรมอลล์ จะมีการรีเฟรชแบรนด์ และปรับโพซิชั่นนิ่งให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหาพันธมิตรร้านค้าและบริการ ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสาร โดยขณะนี้ในส่วนของเมโทรมอลล์ สาขา พหลโยธิน พื้นที่กว่า 40-60 % ถูกจัดเป็นโรงเรียนกวดวิชา และพ.ท.ที่เหลือจะเป็นร้านค้าและบริการต่างๆ
ขณะที่สาขาจตุจักร ได้ร่วมกับทางกระทรวงพาณิชย์ จัดเป็นบลูคอมเพล็กซ์ หรือ เป็นโครงการธงฟ้าราคาประหยัด โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณ ต้นเดือนมิ.ย.นี้ ส่วนสาขาสุขุมวิท จะมีการเพิ่มร้านค้าและบริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้โดยสารมากขึ้น  
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของสื่อบนรถไฟฟ้าใต้ดิน อาจจะทำให้ลูกค้ามองว่าไม่ช่วยให้เกิดการสร้างแบรนด์ได้ แต่ในความเป็นจริง การรับรู้สื่อโฆษณาทางรถไฟฟ้าใต้ดิน มีน้อยกว่าสื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอสเพียง 3 % เท่านั้น ดังนั้นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้บีเอ็มเอ็น ก้าวไปข้างหน้าได้ คือ การเรียนรู้ และทำความรู้จักกับผู้โดยสารให้มากที่สุด
ดังนั้นจึงได้ร่วมกับทางเอซีนีลสัน ร่วมกันทำผลสำรวจ จากจำนวนผู้โดยสารกว่า 1,600 คน ณ สถานี และอีก 600 คนจากอินเทอร์เน็ต พบว่า ลูกค้าหลักของรถไฟฟ้าใต้ดินกว่า 50% เป็นกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ซึ่งมีฐานเงินเดือนสูงกว่า 20,000 บาทขึ้นไปต่อครัวเรือน รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และระดับผู้บริหาร ซึ่งเห็นชัดเจนว่าเป็นคนละกลุ่มกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่หลักๆแล้วจะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เป็นหลัก ขณะที่จำนวนผู้โดยสาร จะใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ประมาณ 4.47 วันต่อสัปดาห์ โดยผู้ที่ใช้บริการทุกวันมีกว่า 435 จากจำนวนผู้สำรวจทั้งหมด
"ในอนาคตการทำงานในการดำเนินธุรกิจของ บีเอ็มเอ็น จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น คาดว่ากลางปี 2553 ทุกอย่างจะลงตัว และขับเคลื่อนไปได้อย่างดี โดยภายในสิ้นปี 2553 มั่นใจว่าอย่างน้อยบีเอ็มเอ็นจะเติบโตขึ้นประมาณ 3-5% จากรายได้ 150 ล้านบาท ที่วางไว้ในปีนี้ ซึ่งมองดูแล้วอาจจะเป็นตัวเลขที่ดูน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายได้ของไตรแอดฯ ปีก่อนที่ทำได้ 112 ล้านบาท แต่เมื่อรวมกัน 3 บริษัท กลับตั้งไว้ที่ 150 ล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากบางบริษัทก็มีการปรับลดรายได้ลง เนื่องจากมีการลงทุนค่อนข้างมาก ทั้งนี้ต้นปีหน้า จะเริ่มเห็นการลงทุนของทางBMCL ในการเพิ่มจอภาพแอลซีดี ทีวี ทั้งภายในสถานี และภายในรถไฟฟ้าใต้ดินเพิ่มเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจต่อไป" นายเอกลักษณ์ กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น