ASTVผู้จัดการรายวัน - ธ.ก.ส.ประสานเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนกระตุ้นตลาดผลไม้ เปิดสาขาให้เกษตรกรลูกค้านำผลไม้มาจำหน่าย พร้อมออกมาตรการเร่งด่วนระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิต เป้าหมาย 1 พันตัน
นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ รักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่กำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ธ.ก.ส.จึงได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือทางด้านการตลาดเพื่อระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ จะดำเนินการทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
โดยตลาดภายในประเทศจะใช้ช่องทางด้านการตลาดผ่านระบบเครือข่ายพันธมิตรที่ ธ.ก.ส. ได้ประสานงานไว้แล้ว จำนวน 7 เครือข่ายด้วยกัน ได้แก่ 1. เชื่อมโยงตลาดทั่วประเทศผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. หรือ สกต. เพื่อเป็นช่องทางช่วยกระจายผลไม้จากภูมิภาคไปสู่ภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ 2. ร่วมกับห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ ท็อปซุปเปอร์มาเก็ต โลตัส เพื่อส่งผลไม้ไปจำหน่ายตามสาขาต่างๆทั่วประเทศ
3. ประสานงานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และสื่อมวลชน เพื่อขอพื้นที่ให้เกษตรกรนำผลไม้มาจำหน่าย เช่น ที่กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้าฝ่ายผลิต สนามบินสุวรรณภูมิ สถานีโทรทัศน์ เป็นต้น 4. ประสานงานผู้ค้าต้นทางกับผู้ค้าตลาดปลายทาง เพื่อนำผลไม้ไปส่งตามตลาดกลางของจังหวัดต่างๆ เช่น ตลาดกลางผลไม้จังหวัดราชบุรี พิษณุโลก เป็นต้น
5. ร่วมกับสมาคมผู้ค้าผลไม้รวบรวมผลผลิต เพื่อจัดจำหน่ายให้พ่อค้าส่งทั่วประเทศ 6. จำหน่ายผลไม้ผ่านชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา พม่า มาเลเซีย และ 7. นำผลไม้มาจำหน่ายผ่านสาขา ธ.ก.ส. ทั่วประเทศและ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่
ในด้านตลาดต่างประเทศ ธ.ก.ส. จะร่วมกับบริษัทเอกชน เช่น บริษัทไทยฮงผลไม้ จำกัด รวบรวมผลไม้ เช่น ลำไย มังคุด ลิ้นจี่ มะม่วง ทุเรียน ส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น จีน ซึ่งเป็นตลาดผลไม้ส่งออกรายใหม่ของไทย และร่วมกับส่วนราชการนำผลไม้ไปจัดแสดงและจำหน่ายในประเทศต่างๆ เช่น จีน และอินเดีย เป็นต้น ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้ตั้งเป้าหมายให้ความช่วยเหลือด้านการตลาดผลไม้ผ่านระบบตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศตามมาตรการเร่งด่วนดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน
นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการ รักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่กำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ ธ.ก.ส.จึงได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือทางด้านการตลาดเพื่อระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้ จะดำเนินการทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
โดยตลาดภายในประเทศจะใช้ช่องทางด้านการตลาดผ่านระบบเครือข่ายพันธมิตรที่ ธ.ก.ส. ได้ประสานงานไว้แล้ว จำนวน 7 เครือข่ายด้วยกัน ได้แก่ 1. เชื่อมโยงตลาดทั่วประเทศผ่านสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. หรือ สกต. เพื่อเป็นช่องทางช่วยกระจายผลไม้จากภูมิภาคไปสู่ภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ 2. ร่วมกับห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ ท็อปซุปเปอร์มาเก็ต โลตัส เพื่อส่งผลไม้ไปจำหน่ายตามสาขาต่างๆทั่วประเทศ
3. ประสานงานกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และสื่อมวลชน เพื่อขอพื้นที่ให้เกษตรกรนำผลไม้มาจำหน่าย เช่น ที่กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข การไฟฟ้าฝ่ายผลิต สนามบินสุวรรณภูมิ สถานีโทรทัศน์ เป็นต้น 4. ประสานงานผู้ค้าต้นทางกับผู้ค้าตลาดปลายทาง เพื่อนำผลไม้ไปส่งตามตลาดกลางของจังหวัดต่างๆ เช่น ตลาดกลางผลไม้จังหวัดราชบุรี พิษณุโลก เป็นต้น
5. ร่วมกับสมาคมผู้ค้าผลไม้รวบรวมผลผลิต เพื่อจัดจำหน่ายให้พ่อค้าส่งทั่วประเทศ 6. จำหน่ายผลไม้ผ่านชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา พม่า มาเลเซีย และ 7. นำผลไม้มาจำหน่ายผ่านสาขา ธ.ก.ส. ทั่วประเทศและ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่
ในด้านตลาดต่างประเทศ ธ.ก.ส. จะร่วมกับบริษัทเอกชน เช่น บริษัทไทยฮงผลไม้ จำกัด รวบรวมผลไม้ เช่น ลำไย มังคุด ลิ้นจี่ มะม่วง ทุเรียน ส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น จีน ซึ่งเป็นตลาดผลไม้ส่งออกรายใหม่ของไทย และร่วมกับส่วนราชการนำผลไม้ไปจัดแสดงและจำหน่ายในประเทศต่างๆ เช่น จีน และอินเดีย เป็นต้น ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้ตั้งเป้าหมายให้ความช่วยเหลือด้านการตลาดผลไม้ผ่านระบบตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศตามมาตรการเร่งด่วนดังกล่าวจำนวนทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ตัน