xs
xsm
sm
md
lg

แก้วสรรเบิกความอุ้มเนวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วานนี้ (22 พ.ค.) นายบุญรอด ตันประเสริฐ ประธานแผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา เจ้าของสำนวนทุจริตจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น คดีหมายเลขดำที่ อม.4/2551 พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ไต่สวนพยานจำเลย ที่ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ฟ้อง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ประธานคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) , นายวราเทพ รัตนากร อดีตรมช.คลัง ในฐานะ คชก. นายสรอรรถ กลิ่นปทุม รมว.เกษตรฯ ในฐานะ คชก. , นายเนวิน ชิดชอบ อดีต รมช.เกษตรฯ ในฐานะเป็นผู้ริเริ่มโครงการ และนายอดิศัย โพธารามิก อดีตรมว.พาณิชย์ ในฐานะ คชก. กับพวกบริษัทเอกชน และกลุ่มข้าราชการ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-44 ในความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ จัดการหรือรักษาทรัพย์สินใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ , ผู้ใดทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน อันเป็นความผิดฐานฉ้อโกง และ ความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ.2542 มาตรา 4,10 -14 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11
โดยฝ่ายจำเลยได้นำ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. ซึ่งเป็น คตส. เสียงข้างน้อย ในชั้นพิจารณาสำนวน ที่เห็นว่ามีปัญหาประเด็นข้อกฎหมายที่ยังไม่อาจชี้มูลความผิดว่ามีการทุจริต ซึ่งนายแก้วสรร เบิกความว่า เหตุผลที่พยาน เป็นเสียงข้างน้อยในชั้นพิจารณารายงานสอบสวนอนุฯ คตส. เรื่องนี้ เพราะไม่เห็นหลักฐานที่ชี้ว่า มีการสมคบกันกับนายเนวินผู้ริเริ่มโครงการตั้งแต่แรก เช่นเดียวกับ คชก. ที่เห็นว่า การกระทำนั้นยังไม่ใช่การทุจริต แต่เป็นเรื่องที่ คชก. ดื้อพยายามจะทำโครงการนี้ ส่วนข้อเท็จจริงเรื่องการประมูลจัดซื้อจัดจ้างมีการทุจริตหรือไม่นั้น ประเด็นนี้ คตส. มีมติเป็นเอกฉันท์ว่ามีการสมยอมในการประกวดราคา โดยไม่ได้แข่งขันกันเลยซึ่งบุคคลที่มาร่วมก็อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
ศาลถามว่า นายเนวิน ซึ่งรับผิดชอบเรื่องกล้ายาง รวมทั้งอธิบดี กรมวิชาการเกษตร และคณะกรรมการบริหารประกวดราคา ต่างมีความสัมพันธ์กันในทางตำแหน่งแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีพฤติการณ์ร่วมกัน นายแก้วสรร ตอบว่า ในสำนวนคดี อนุฯ คตส. ไม่สามารถเจาะลงไปว่ามีการบัญชาการดังกล่าว ส่วนเรื่อง ความสัมพันธ์โดยส่วนตัวนั้นมีแต่คำบอกเล่า ซึ่งตนไม่เห็นว่าจะนำมาเป็นหลักฐานได้
ภายหลังศาลไต่สวนนายแก้วสรรเสร็จสิ้น ฝ่ายจำเลยได้นำพยานเข้าไต่สวนอีก 4 ปาก
ขณะที่นายแก้วสรร กล่าวว่า การที่มาเป็นพยานจำเลยครั้งนี้ ไม่กลัวว่าใครจะมองยังไง เพราะอยากจะให้มองในมุมกลับว่าเป็นกระบวนการยุติธรรม จำเลย มีโอกาสต่อสู้เต็มที่เมื่อเขาต้องการให้เรามาให้ปากคำเราก็ต้องมา เมื่อมาแล้วเราจะมาพูดความเท็จไม่ได้เพราะในความเป็นจริง คตส. ก็มีการถกเถียงกันตั้งเยอะไม่ใช่ว่าจะมีมติเอกฉันท์เสมอไป แต่ตรงนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
กำลังโหลดความคิดเห็น