xs
xsm
sm
md
lg

เฟดระบุมีสัญญาณศก.กระเตื้องขึ้น จะเห็นอัตราเติบโตในครึ่งหลังปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - บรรดาผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) กำลังมองเห็น "หลักฐานแม้ยังไม่สู้แน่นอน" ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังโผล่พ้นภาวะถดถอย และอาจจะได้เห็นเศรษฐกิจกลับไปมีอัตราการเติบโตเป็นบวกพอประมาณในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ตามเนื้อหาในรายงานบันทึกการประชุมที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ(20)

ขณะเดียวกันในวันพุธนี้เอง ธนาคารกลางสหรัฐฯยังได้ทบทวนแก้ไขทิศทางอนาคตเศรษฐกิจในมุมมองของตน โดยระบุว่า จีดีพีของสหรัฐฯในปีนี้จะหดตัวในระดับระหว่าง 1.3 ถึง 2.0% แต่ก็บอกด้วยว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯน่าจะผ่านพ้นช่วงดิ่งลงรุนแรงที่สุดไปแล้ว

แม้ว่าตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้ จะแย่กว่าการคาดการณ์ของเดือนกุมภาพันธ์ ที่บอกว่าผลผลิตของสหรัฐฯจะลดลงราว 0.5 - 1.3% แต่เมื่อดูในรายงานบันทึกการประชุมที่เพิ่งนำออกมาเผยแพร่ ก็จะพบว่ามีการระบุว่า พวกเจ้าหน้าที่ของเฟดได้ทบทวนและปรับแก้ทิศทางอนาคตให้ดีขึ้นสำหรับการมองภาพรวมเศรษฐกิจในระยะหลังๆ นี้ "เพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการต่างๆ ทางการเงินที่เอื้ออำนวยยิ่งขึ้นในช่วงหลังๆ มานี้ รวมทั้งตัวเลขซื้อขายต่าง ๆซึ่งดีกว่าที่คาดไว้มาก"

รายการการประชุมของคณะกรรมการนโยบายกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(เอฟโอเอ็มซี) ที่นำออกเผยแพร่คราวนี้ เป็นของการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 28-29 เมษายนที่ผ่านมา โดยเนื้อหาของรายงานทำให้เห็นว่าคณะกรรมการได้พูดในทางบวกมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ แม้ว่าจะยังคงชี้ว่าปัญหาเศรษฐกิจต่าง ๆยังคงดำรงอยู่

"ผู้เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องกันว่า ข้อมูลที่ได้มาภายหลังจากการประชุมเดือนมีนาคม ทำให้เห็นหลักฐานแม้ยังไม่สู้แน่นอนบางประการว่า การหดตัวของกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงเริ่มที่ชะลอตัวลงบ้างแล้ว" รายงานการประชุมกล่าว

"ผู้เข้าร่วมประชุมชี้ว่าสภาพด้านต่างๆ ของตลาดการเงินเริ่มแข็งแกร่งขึ้นโดยทั่วไป และผลการสำรวจรวมทั้งรายงานเกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ก็ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจและภาคครัวเรือนที่ดีขึ้น แม้ว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำมากก็ตาม"

รายงานการประชุมระบุว่า การคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่พวกเจ้าหน้าที่เฟดเตรียมมาสำหรับการประชุมเมื่อสิ้นเดือนเมษายนคราวนั้น แสดงให้เห็นว่ามีสัญญาณมากมายชี้ให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2007 นั้น กำลังผ่อนคลายลงแล้ว

"การจับจ่ายของผู้บริโภคดูเหมือนจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากที่ดิ่งลงมาในช่วงครึ่งหลังของปี 2008 และการร่วงลงรุนแรงของภาคที่อยู่อาศัยก็ดูเหมือนจะรุนแรงลดน้อยลงไปด้วย" รายงานการประชุมของเฟดระบุว่าเป็นการคาดการณ์ที่จัดทำโดยเจ้าหน้าที่เฟด

"อย่างไรก็ตาม การหดตัวในตลาดแรงงานยังคงมีอยู่ในเดือนมีนาคม ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมก็ยังคงดิ่งลงรวดเร็วต่อเนื่องไป การลงทุนในซอฟท์แวร์และอุปกรณ์อื่น ๆก็ลดลงต่อจากช่วงเวลาก่อนหน้า"

ในขณะเดียวกัน เฟดกล่าวว่าสัญญาณของการกระเตื้องขึ้นในภาคการเงินและตลาดสินเชื่อ เป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดกำลังใจ

"อัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมในภาคเอกชนเริ่มลดลง ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นชัดเจน และระดับของแรงกดดันในภาคการเงินบางประการก็เริ่มผ่อนคลายลงไปเช่นกัน" เฟดชี้

"การคาดการณ์กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เจ้าหน้าที่เฟดจัดทำไว้สำหรับครึ่งหลังของปี 2009 และ 2010 ได้มีการทบทวนเพื่อปรับให้สูงขึ้น โดยคาดหมายว่าจีดีพีแท้จริงจะเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นพอประมาณในปีหน้า"

รายงานการประชุมนี้สอดคล้องกับสิ่งที่ประธานเฟด เบน เบอร์นันกีกล่าวเมื่อก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ โดยเบอร์นันกีชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะลงถึงก้นเหว จากนั้นก็ไต่ขึ้นมาในช่วงต่อไปของปีนี้

ทั้งนี้จีดีพีสหรัฐฯอยู่ในอาการหดตัวด้วยอัตราน่าตกใจถึง 6.1%ในไตรมาสแรกของปี 2009 หลังจากที่ตกลงไปแล้ว 6.3%ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า

เกี่ยวกับภาวะการว่างงาน รายการประชุมของเฟดคาดว่าอัตราการว่างงานยังจะขยับขึ้นจากระดับ 8.9% อันเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี โดยอาจจะขึ้นไปแตะระดับ 9.2-9.6%ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่เฟดได้คาดเอาไว้ในเดือนกุมภาพันธ์
ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปี 2009 นั้นจะอยู่ระหว่าง 0.6-0.9% และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2010 จะอยู่ที่ 20-3.0%

เมื่อมองในภาพรวมแล้ว เฟดระบุว่ายังจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่จะบรรลุเป้าหมายของธนาคารกลางทั้งในด้านอัตราการเติบโต, ภาวะเงินเฟ้อ, และระดับการจ้างงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น