คนซื้อบ้านเอื้ออาทรเตรียมควักเงินเพิ่ม หลัง กคช.เตรียมปรับราคาขายอีก 3-5 หมื่นบาท/หน่วย เพื่อรับกับต้นทุนโครงการ หลังจบงาน "ตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร" ครั้งที่ 2 ในราคาต้นทุนเดิม 3.9 แสนบาท เผยไตรมาสแรกระบายบ้านเอื้อฯเกินแผน 176% หรือกว่า 2 หมื่นหน่วย ฟุ้งเป้า 7 หมื่นหน่วยเกินแน่นอน
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า การเคหะฯเตรียมจัดงาน “ตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 ” ขึ้นในระหว่างวันที่ 5 - 14 มิถุนายน 52 ทั่วประเทศ โดยเปิดขายตั้งแต่ 08.30-19.00 น. ซึ่งจะมีการนำโครงการทั้งหมดมาเปิดให้ลูกค้าจอง แต่จะเน้นเฉพาะโครงการในย่านปริมณฑล ประกอบด้วย 5 จังหวัด คือ นครปฐม , สมุทรสาคร , ปทุมธานี , นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งทุกโครงการที่นำมาขายก่อสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทันที โดยในงานจะมีสถาบันการเงินมาให้บริการ 3 แห่ง คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ,ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาดอกเบี้ยพิเศษ 3% ในปีแรกให้สำหรับลูกค้าอยู่ คาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆนี้
“การเปิดขายดังกล่าวจะเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ ข้าราชการ , ครู และหน่วยงานปกครอง โดยตั้งเป้ายอดขายจากการจัดงาน10,000 ยูนิต และมั่นใจว่าทำได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญ งานในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเอื้ออาทร ในราคาเดิม คือ 390,000 บาทต่อยูนิต เพราะหลังจากนี้ การเคหะฯจะประกาศปรับราคาบ้านขึ้นอีกยูนิตละ 30,000 - 50,000 บาทแน่นอน โดยโครงการที่อยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูงก็จะปรับราคาขึ้นตามความต้องการ และโดยเฉพาะ ชั้น 1 ที่มีความต้องการมาก ก็จะปรับราคาจะแพงกว่าชั้นอื่นๆ และหากช่วงนั้น คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบแผนที่เสนอไปก่อนหน้านี้ กคช.ก็จะนำโครงการขายยกอาคารมาขายด้วย” นายศิริโรจน์ กล่าว
ไตรมาส1ขายออก2หมื่นหน่วย
สำหรับความก้าวหน้าของผลการขายและเช่าซื้อโครงการบ้านเอื้อฯนั้น ผู้ช่วยผู้ว่าการกคช.กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปี 52 สามารถทำได้เฉลี่ย เดือนละ 6,987 หน่วย ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายซึ่งตั้งไว้เดือนละ 3,950 หน่วย ซึ่งเกินกว่าแผนไป 176 % ถือว่าเกินแผนและเกินเป้าหมายสูงมาก
ส่วนการขอสินเชื่อกับธนาคาร ตามแผนต้องได้เดือนละ 2,916 หน่วย แต่ทำได้จริงถึง 3,277 หน่วย สูงกว่าเป้า 112 % คิดเป็นมูลค่า 3,203.85 ล้านบาท เมื่อเทียบกับตุลาคมถึงธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งทำได้ 3,328.26 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้นที่ขายได้มาก เพราะเป็นลูกค้าเก่าที่รอขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ก็ไม่ได้น้อยกว่ากันมากนัก และเฉพาะเดือนเมษายนที่ผ่านมาสามารถขายได้ 2,139 หน่วย โดยขอสินเชื่อผ่านและได้เงินมาแล้ว จำนวน 2,050 หน่วย หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 799.50 ล้านบาท จากเป้าขายที่ตั้งไว้ของเดือนเมษายน 3,950 หน่วย แม้จะทำยอดขายเดือนเมษายนได้เท่านี้ แต่กคช.ก็พอใจแล้ว เพราะปกติเป็นเดือนที่ขายได้น้อย เนื่องจากมีวันหยุดมาก
และหากรวมยอดสะสมตั้งแต่เดือนม.ค.-มี.ค.52สามารถขายบ้านเอื้อฯได้ จำนวน 20,962 หน่วย และตั้งเป้าเดือนเม.ย.-มิ.ย. อีกประมาณ 20,000 หน่วย, ตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 อีก 10,000 หน่วย และโครงการบ้านยิ้ม อีก 10,000 หน่วย ในเดือนก.ค.-ก.ย. ประมาณ 10,000 - 15,000 หน่วย และ ยอดขายต.ค.-ธ.ค.51 ที่ผ่านมา ทำยอดขายได้ 9,700 หน่วย สรุปแล้วปีนี้ ยอดขายรวม 70,000 กว่าหน่วยก็ได้ตามเป้า
“ เรื่องเงินของการเคหะช่วงนี้ไม่ได้ขาดแคลน กระแสเงินมีจำนวนมากพอ กคช. เราไปใช้หนี้ดอกเบี้ยใช้หนี้เงินต้นไปแล้วเป็นบางส่วนก่อนกำหนดด้วย อย่างไรก็ตามการขายยังทำการขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายแต่ละเดือนขึ้นเกินเป้าอยู่ขณะนี้ แม้มีวิกฤตการการเมือง เศรษฐกิจ ก็ยังขายได้และขายดีด้วย เพราะทีมขายกคช. เป็นนักขาย พยายามขายทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่ามีอะไร เราก็ไม่หยุดขาย”นายศิริโรจน์กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนก.ค.หรือต้นส.ค.ทางกคช.จะเปิดมหกรรมขายที่ดินพร้อมบ้านเป็นแปลงๆ โดยมีขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวา, 200 ตารางวา ไปจนถึง 1 ไร่ และมีบ้านเอื้ออาทรมาขายด้วยแต่ การจัดงานนั้นจะเน้นการขายที่ดินพร้อมบ้านเป็นหลัก เงื่อนไขอาจจะวางเงินจองเริ่ม 6,000 บาท ถึง 10,000 บาท
นายศิริโรจน์ ชาวปากน้ำ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า การเคหะฯเตรียมจัดงาน “ตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 ” ขึ้นในระหว่างวันที่ 5 - 14 มิถุนายน 52 ทั่วประเทศ โดยเปิดขายตั้งแต่ 08.30-19.00 น. ซึ่งจะมีการนำโครงการทั้งหมดมาเปิดให้ลูกค้าจอง แต่จะเน้นเฉพาะโครงการในย่านปริมณฑล ประกอบด้วย 5 จังหวัด คือ นครปฐม , สมุทรสาคร , ปทุมธานี , นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งทุกโครงการที่นำมาขายก่อสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าทันที โดยในงานจะมีสถาบันการเงินมาให้บริการ 3 แห่ง คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ,ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาดอกเบี้ยพิเศษ 3% ในปีแรกให้สำหรับลูกค้าอยู่ คาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆนี้
“การเปิดขายดังกล่าวจะเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือ ข้าราชการ , ครู และหน่วยงานปกครอง โดยตั้งเป้ายอดขายจากการจัดงาน10,000 ยูนิต และมั่นใจว่าทำได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญ งานในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเอื้ออาทร ในราคาเดิม คือ 390,000 บาทต่อยูนิต เพราะหลังจากนี้ การเคหะฯจะประกาศปรับราคาบ้านขึ้นอีกยูนิตละ 30,000 - 50,000 บาทแน่นอน โดยโครงการที่อยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูงก็จะปรับราคาขึ้นตามความต้องการ และโดยเฉพาะ ชั้น 1 ที่มีความต้องการมาก ก็จะปรับราคาจะแพงกว่าชั้นอื่นๆ และหากช่วงนั้น คณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบแผนที่เสนอไปก่อนหน้านี้ กคช.ก็จะนำโครงการขายยกอาคารมาขายด้วย” นายศิริโรจน์ กล่าว
ไตรมาส1ขายออก2หมื่นหน่วย
สำหรับความก้าวหน้าของผลการขายและเช่าซื้อโครงการบ้านเอื้อฯนั้น ผู้ช่วยผู้ว่าการกคช.กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปี 52 สามารถทำได้เฉลี่ย เดือนละ 6,987 หน่วย ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายซึ่งตั้งไว้เดือนละ 3,950 หน่วย ซึ่งเกินกว่าแผนไป 176 % ถือว่าเกินแผนและเกินเป้าหมายสูงมาก
ส่วนการขอสินเชื่อกับธนาคาร ตามแผนต้องได้เดือนละ 2,916 หน่วย แต่ทำได้จริงถึง 3,277 หน่วย สูงกว่าเป้า 112 % คิดเป็นมูลค่า 3,203.85 ล้านบาท เมื่อเทียบกับตุลาคมถึงธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งทำได้ 3,328.26 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้นที่ขายได้มาก เพราะเป็นลูกค้าเก่าที่รอขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ก็ไม่ได้น้อยกว่ากันมากนัก และเฉพาะเดือนเมษายนที่ผ่านมาสามารถขายได้ 2,139 หน่วย โดยขอสินเชื่อผ่านและได้เงินมาแล้ว จำนวน 2,050 หน่วย หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 799.50 ล้านบาท จากเป้าขายที่ตั้งไว้ของเดือนเมษายน 3,950 หน่วย แม้จะทำยอดขายเดือนเมษายนได้เท่านี้ แต่กคช.ก็พอใจแล้ว เพราะปกติเป็นเดือนที่ขายได้น้อย เนื่องจากมีวันหยุดมาก
และหากรวมยอดสะสมตั้งแต่เดือนม.ค.-มี.ค.52สามารถขายบ้านเอื้อฯได้ จำนวน 20,962 หน่วย และตั้งเป้าเดือนเม.ย.-มิ.ย. อีกประมาณ 20,000 หน่วย, ตลาดนัดบ้านเอื้ออาทร ครั้งที่ 2 อีก 10,000 หน่วย และโครงการบ้านยิ้ม อีก 10,000 หน่วย ในเดือนก.ค.-ก.ย. ประมาณ 10,000 - 15,000 หน่วย และ ยอดขายต.ค.-ธ.ค.51 ที่ผ่านมา ทำยอดขายได้ 9,700 หน่วย สรุปแล้วปีนี้ ยอดขายรวม 70,000 กว่าหน่วยก็ได้ตามเป้า
“ เรื่องเงินของการเคหะช่วงนี้ไม่ได้ขาดแคลน กระแสเงินมีจำนวนมากพอ กคช. เราไปใช้หนี้ดอกเบี้ยใช้หนี้เงินต้นไปแล้วเป็นบางส่วนก่อนกำหนดด้วย อย่างไรก็ตามการขายยังทำการขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายแต่ละเดือนขึ้นเกินเป้าอยู่ขณะนี้ แม้มีวิกฤตการการเมือง เศรษฐกิจ ก็ยังขายได้และขายดีด้วย เพราะทีมขายกคช. เป็นนักขาย พยายามขายทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่ามีอะไร เราก็ไม่หยุดขาย”นายศิริโรจน์กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนก.ค.หรือต้นส.ค.ทางกคช.จะเปิดมหกรรมขายที่ดินพร้อมบ้านเป็นแปลงๆ โดยมีขนาดตั้งแต่ 50 ตารางวา, 200 ตารางวา ไปจนถึง 1 ไร่ และมีบ้านเอื้ออาทรมาขายด้วยแต่ การจัดงานนั้นจะเน้นการขายที่ดินพร้อมบ้านเป็นหลัก เงื่อนไขอาจจะวางเงินจองเริ่ม 6,000 บาท ถึง 10,000 บาท