เลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท หลังประธานสภาฯ ส่งให้ศาล รธน.วินิจฉัยขัด รธน.หรือไม่ คาดศาลฯนำเข้าหารือ 20 พ.ค.นี้ “กรณ์”พร้อมชี้แจง มั่นใจผ่านฉลุย พร้อมจี้ฝ่ายค้านรับผิดชอบความเสียหาย ทำประชาชนเสียโอกาส ด้านประธานวิปรัฐบาล จวกนำปัญหาเศรษฐกิจมาเล่นเกมการเมือง ส่วนนักวิชาการห่วงการกู้ 4 แสนล้านบาทสะดุด กระทบแผนกอบกู้เศรษฐกิจ ส่วน พ.ร.ก.รีดภาษีบุหรี่-น้ำมัน สภาฯอนุมัติเรียบร้อย แม้ถูกฝ่ายค้านต้าน
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.45 น. วานนี้ (18 พ.ค.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาพ.ร.ก. 3 ฉบับ คือ 1. พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 (พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท) 2.พ.ร.ก.เพิ่มเติมพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 (ฉบับที่ 2) และ 3. พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2552 นอกจากนี้ ยังมีวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.....
“ชัย”ส่งตีความพ.ร.ก.กู้4แสนล.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า ที่ประชุมสภาต้องชะลอวาระที่ 1 คือ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ออกไปก่อน เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์(ส.ส.)จำนวน 99 คน เข้าชื่อเสนอให้ตน ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 หรือไม่ โดยตนเพิ่งได้รับเรื่องเช้าวันนี้ ถือว่าครบ 3 วันพอดี และจากการตรวจสอบแล้ว เห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องส่งความเห็นของ ส.ส.ดังกล่าว ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน ดังนั้น ที่ประชุมสภาฯจึงต้องชะลอการพิจารณาจนกว่าจะได้รับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เพื่อความสามัคคีปรองดอง
ผ่านพ.ร.บ.เพิ่มภาษียาสูบ-น้ำมัน
จากนั้น ที่ประชุมได้เริ่มพิจารณาวาระที่ 2 ของ พ.ร.ก.เพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 (ฉบับที่ 2) ซึ่งมีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ สำหรับยาเส้นและยาสูบให้สูงขึ้น ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์เศรษฐกิจ โดย ส.ส.ฝ่ายค้าน ได้อภิปรายคัดค้านไปในแนวทางเดียวกัน เพราะเห็นว่า ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง อีกทั้ง ยังจะมีผลกระทบต่อเกษตกรผู้ปลูกยาสูบ และเพิ่มการลักลอบการนำเข้าบุหรี่มายิ่งขึ้น
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ทราบมาว่า มีการนำเงินจากกองทุนยาสูบประมาณ 7 พันล้านบาทมาเข้าในระบบงบประมาณเพื่อปรับปรุงโรงงานการผลิตยาสูบ ซึ่งกองทุนนี้ควรจะเก็บเงินเอาไว้เพื่อส่งเสริม สวัสดิการของพนักงานของโรงงานยาสูบมากกว่า ขณะเดียวกัน การที่นายกฯบอกว่า การเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าวจะสามารถลดยอดผู้สูบบุหรี่ได้นั้น คิดว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะถ้าพิจารณาจากสถิติจะพบว่าหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีจำนวนผู้สูบลดลง แต่เป็นในส่วนของผู้สูงอายุ ตรงกันข้ามกลับมีการเพิ่มผู้สูบหน้าใหม่ ซึ่งมีอายุ 15 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ อัตราภาษีดังกล่าวยังมีเพดานไม่เท่ากัน เพราะตอนนี้บุหรี่ที่นำเข้า มีอัตรานำเข้าจำนวนในราคาที่ต่ำ ทำให้การเก็บอัตราภาษีจำเป็นต้องต่ำไปด้วย ดั้งนั้นการเพิ่มอัตราภาษีลักษณะนี้จึงไม่ช่วยให้มีผู้สูบลดลงแต่ กลับกัน ถ้าบุหรี่ยี่ห้อเดิม ที่เคยสูบแล้วมีราคาแพงขึ้น ก็คิดว่าผู้สูบจะเลือกไปสูบบุหรี่ที่มีอัตราต่ำกว่าแทน อยากสอบถามว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางโรงงานยาสูบได้มีอัตราการผลิตลดลง หรือไม่หลังจากที่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.นี้ไปแล้ว เพราะที่ผ่านมามีการเก็งกำไร ของผู้ค้าส่งจำนวนมาก สร้างผลกระทบให้แก่ประชาชน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวบีบให้เกษตรกรที่ปลูกใบยาสูบเปลี่ยนอาชีพ ทำให้ต่างประเทศหัวเราะ เพราะทำให้โรงงานยาสูบอ่อนแอ และสามารถเข้าครอบงำตลาดในเมืองไทย ขณะนี้สัดส่วนของบุหรี่ต่างประเทศอยู่ในไทยไม่น้อยกว่า 20% และบุหรี่เถื่อนอีก 17% รวมเป็น 37% ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสารปรุงแต่งมากกว่าของไทยที่มีอยู่เพียง 11 ชนิด เพราะรัฐบาลไทยควบคุมได้ แต่การสูบบุหรี่ต่างประเทศจะกระทบต่อสุขภาพปอด และเสพติดง่ายกว่า จึงอยากถามว่ารัฐบาลวางมาตรการป้องกันโรงงานยาสูบ และป้องกันบุหรี่ต่างประเทศเข้าไทยเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ดูแลเกษตรกรอย่างไร นอกจากนี้การขึ้นราคาบุหรี่ทำให้ยาเสพติดชนิดอื่นเพิ่มขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมได้มีมติ อนุมัติ ด้วยคะแนนเสียง 245 เสียง ไม่เห็นด้วย 33 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง และไม่ลงคะแนน 13 เสียง
ขณะเดียว ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติพ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตพ.ศ.2527 (ฉบับที่5)พ.ศ.2552ให้แก้ไขอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงว่า หากไม่จำเป็นไม่มีรัฐบาลไหนอยากพิ่มภาษีเพื่อเป็นภาระกับประชาชน ซึ่งการปรับภาษีสรรพสามิตน้ำมันเป็นการปรับที่รัฐบาลพิจารณาแล้วเห็นว่ากระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ถ้าเทียบกับการปรับภาษีในส่วนอื่น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะเพิ่มภาระวงกว้างให้ประชาชนมากกว่า จึงตัดสินใจปรับภาษีน้ำมัน เพราะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและกระทบน้อยสุด
คาด20พ.ค.ศาลฯหารือพ.ร.ก.กู้เงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัย ได้ส่งคำร้องของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในช่วงเช้า วานนี้ (18 พ.ค.) ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้มีการกำหนดวันในการประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ในวันพุธที่ 20 พ.ค. คณะตุลาการฯ มีกำหนดประชุมประจำสัปดาห์ คาดว่าจะมีการหารือว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างไรต่อไป จะมีการพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่
ทั้งนี้ นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบ 3 พรรคการเมืองและมีการข่มขู่ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีการเปิดเผยวาระการประชุมในแต่ละสัปดาห์ ให้สื่อมวลชนได้ทราบ ประกอบขณะนี้นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ลาออกเพื่อไปดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชน และทางคณะตุลาการฯ ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลใดมีหน้าที่ชี้แจง ให้ข้อมูลแนวทางในการปฏิบัติงานของคณะตุลาการฯ
“กรณ์”มั่นใจพ.ร.ก.ผ่านศาลรธน.
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่าเมื่อประธานสภาฯส่งเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามคำร้องของฝ่ายค้าน กระทรวงการคลัง ก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการออกพ.ร.ก.ดังกล่าว
นายกรณ์ มั่นใจว่าการส่งตีความไม่น่ากังวลว่าจะเป็นปัญหา แต่เป็นห่วง เงื่อนเวลาการนำเงินไปลงทุนที่จะเกิดความเสียหาย เนื่องจากการกู้เงินเป็นภาระผูกพันในระยะยาว และต้องเคารพการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งแม้ฝ่ายค้านจะใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบและชี้แจงกับประชาชนถึงสาเหตุการคัดค้านดังกล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า การเสนอร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ไม่ใช่เป็นการรวบรัด แต่เนื่องจากมีปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ มีคนตกงานจำนวนมาก จึงต้องเร่งช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนมีคนว่างงานเดือนละ 70,000 คน หากโครงการลงทุนของรัฐบาลสะดุด จะกระทบต่อการแก้ไขปัญหาการว่างงาน ซึ่งต้องไปถามประชาชนผู้รอการช่วยเหลือว่าจะรอได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องออก พ.ร.ก.ดังกล่าว ดังนั้น ฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
ซัดฝ่ายค้านนำปัญหาศก.มาเล่นเกม
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมสภาฯ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล แถลงหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า วิปรัฐบาลตกลงให้ชะลอการพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทออกไป โดยจะนำมาพิจารณาหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสร็จสิ้น โดยจะมีการเปิดสภาสมัยวิสามัญ พิจารณาเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางที่ออก พ.ร.ก.ไว้ทุกประการ
ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าการออกพ.ร.ก.เงินกู้ครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ทุกอย่าง และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนเพราะต้องนำเงินมาชดเชยเงินคงคลัง เนื่องจากไม่สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และยังมีการคาดการณ์ว่า จะมีคนตกงานถึง 1 ล้านคน หากรัฐบาลมีเงินมากก็จะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ในสมัยอดีตรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยออกพ.ร.ก.ในลักษณะนี้มาหลายครั้ง โดยในการออก พ.ร.ก.แก้ไขอัตราภาษีสรรพสามิต เพื่อแก้ไขอัตราภาษีโทรคมนาคม เมื่อปี 2546 ศาลรัฐธรรมนูญเอง ก็เคยวินิจฉัยไว้แล้วว่าสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า การออกพ.ร.ก.ไม่ชอบ ก็มีความเป็นไปได้ว่า รัฐบาลจะออกเป็นพ.ร.บ.ฉบับเดียว ในการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินจำนวน 8 แสนล้าน
“ แม้ว่า การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.ก.จะถือเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน แต่เราขอเรียกร้องว่าอย่านำเรื่องปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของประชาชนมาใช้เป็นเกมการเมือง และยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรมที่ป่วนงานสภา เพื่อไม่ให้การทำงานของสภาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเห็นว่า การเคลื่อนไหวนอกสภาและการใช้ความรุนแรงไม่ได้รับความยอมรับจากประชาชน อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาประชาชนด้วย”.
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.45 น. วานนี้ (18 พ.ค.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาพ.ร.ก. 3 ฉบับ คือ 1. พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 (พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้านบาท) 2.พ.ร.ก.เพิ่มเติมพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 (ฉบับที่ 2) และ 3. พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2552 นอกจากนี้ ยังมีวาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ พ.ศ.....
“ชัย”ส่งตีความพ.ร.ก.กู้4แสนล.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า ที่ประชุมสภาต้องชะลอวาระที่ 1 คือ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ออกไปก่อน เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์(ส.ส.)จำนวน 99 คน เข้าชื่อเสนอให้ตน ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 หรือไม่ โดยตนเพิ่งได้รับเรื่องเช้าวันนี้ ถือว่าครบ 3 วันพอดี และจากการตรวจสอบแล้ว เห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องส่งความเห็นของ ส.ส.ดังกล่าว ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน ดังนั้น ที่ประชุมสภาฯจึงต้องชะลอการพิจารณาจนกว่าจะได้รับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เพื่อความสามัคคีปรองดอง
ผ่านพ.ร.บ.เพิ่มภาษียาสูบ-น้ำมัน
จากนั้น ที่ประชุมได้เริ่มพิจารณาวาระที่ 2 ของ พ.ร.ก.เพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 (ฉบับที่ 2) ซึ่งมีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ สำหรับยาเส้นและยาสูบให้สูงขึ้น ให้เหมาะสมกับสภาวการณ์เศรษฐกิจ โดย ส.ส.ฝ่ายค้าน ได้อภิปรายคัดค้านไปในแนวทางเดียวกัน เพราะเห็นว่า ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง อีกทั้ง ยังจะมีผลกระทบต่อเกษตกรผู้ปลูกยาสูบ และเพิ่มการลักลอบการนำเข้าบุหรี่มายิ่งขึ้น
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ทราบมาว่า มีการนำเงินจากกองทุนยาสูบประมาณ 7 พันล้านบาทมาเข้าในระบบงบประมาณเพื่อปรับปรุงโรงงานการผลิตยาสูบ ซึ่งกองทุนนี้ควรจะเก็บเงินเอาไว้เพื่อส่งเสริม สวัสดิการของพนักงานของโรงงานยาสูบมากกว่า ขณะเดียวกัน การที่นายกฯบอกว่า การเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าวจะสามารถลดยอดผู้สูบบุหรี่ได้นั้น คิดว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะถ้าพิจารณาจากสถิติจะพบว่าหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีจำนวนผู้สูบลดลง แต่เป็นในส่วนของผู้สูงอายุ ตรงกันข้ามกลับมีการเพิ่มผู้สูบหน้าใหม่ ซึ่งมีอายุ 15 ปีขึ้นไป
นอกจากนี้ อัตราภาษีดังกล่าวยังมีเพดานไม่เท่ากัน เพราะตอนนี้บุหรี่ที่นำเข้า มีอัตรานำเข้าจำนวนในราคาที่ต่ำ ทำให้การเก็บอัตราภาษีจำเป็นต้องต่ำไปด้วย ดั้งนั้นการเพิ่มอัตราภาษีลักษณะนี้จึงไม่ช่วยให้มีผู้สูบลดลงแต่ กลับกัน ถ้าบุหรี่ยี่ห้อเดิม ที่เคยสูบแล้วมีราคาแพงขึ้น ก็คิดว่าผู้สูบจะเลือกไปสูบบุหรี่ที่มีอัตราต่ำกว่าแทน อยากสอบถามว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางโรงงานยาสูบได้มีอัตราการผลิตลดลง หรือไม่หลังจากที่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.นี้ไปแล้ว เพราะที่ผ่านมามีการเก็งกำไร ของผู้ค้าส่งจำนวนมาก สร้างผลกระทบให้แก่ประชาชน
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวบีบให้เกษตรกรที่ปลูกใบยาสูบเปลี่ยนอาชีพ ทำให้ต่างประเทศหัวเราะ เพราะทำให้โรงงานยาสูบอ่อนแอ และสามารถเข้าครอบงำตลาดในเมืองไทย ขณะนี้สัดส่วนของบุหรี่ต่างประเทศอยู่ในไทยไม่น้อยกว่า 20% และบุหรี่เถื่อนอีก 17% รวมเป็น 37% ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสารปรุงแต่งมากกว่าของไทยที่มีอยู่เพียง 11 ชนิด เพราะรัฐบาลไทยควบคุมได้ แต่การสูบบุหรี่ต่างประเทศจะกระทบต่อสุขภาพปอด และเสพติดง่ายกว่า จึงอยากถามว่ารัฐบาลวางมาตรการป้องกันโรงงานยาสูบ และป้องกันบุหรี่ต่างประเทศเข้าไทยเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ดูแลเกษตรกรอย่างไร นอกจากนี้การขึ้นราคาบุหรี่ทำให้ยาเสพติดชนิดอื่นเพิ่มขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมได้มีมติ อนุมัติ ด้วยคะแนนเสียง 245 เสียง ไม่เห็นด้วย 33 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง และไม่ลงคะแนน 13 เสียง
ขณะเดียว ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติพ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตพ.ศ.2527 (ฉบับที่5)พ.ศ.2552ให้แก้ไขอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน
โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ชี้แจงว่า หากไม่จำเป็นไม่มีรัฐบาลไหนอยากพิ่มภาษีเพื่อเป็นภาระกับประชาชน ซึ่งการปรับภาษีสรรพสามิตน้ำมันเป็นการปรับที่รัฐบาลพิจารณาแล้วเห็นว่ากระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ถ้าเทียบกับการปรับภาษีในส่วนอื่น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะเพิ่มภาระวงกว้างให้ประชาชนมากกว่า จึงตัดสินใจปรับภาษีน้ำมัน เพราะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและกระทบน้อยสุด
คาด20พ.ค.ศาลฯหารือพ.ร.ก.กู้เงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัย ได้ส่งคำร้องของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญในช่วงเช้า วานนี้ (18 พ.ค.) ซึ่งคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้มีการกำหนดวันในการประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ในวันพุธที่ 20 พ.ค. คณะตุลาการฯ มีกำหนดประชุมประจำสัปดาห์ คาดว่าจะมีการหารือว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างไรต่อไป จะมีการพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่
ทั้งนี้ นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบ 3 พรรคการเมืองและมีการข่มขู่ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีการเปิดเผยวาระการประชุมในแต่ละสัปดาห์ ให้สื่อมวลชนได้ทราบ ประกอบขณะนี้นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ อดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ลาออกเพื่อไปดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชน และทางคณะตุลาการฯ ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลใดมีหน้าที่ชี้แจง ให้ข้อมูลแนวทางในการปฏิบัติงานของคณะตุลาการฯ
“กรณ์”มั่นใจพ.ร.ก.ผ่านศาลรธน.
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่าเมื่อประธานสภาฯส่งเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามคำร้องของฝ่ายค้าน กระทรวงการคลัง ก็มีหน้าที่ต้องชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการออกพ.ร.ก.ดังกล่าว
นายกรณ์ มั่นใจว่าการส่งตีความไม่น่ากังวลว่าจะเป็นปัญหา แต่เป็นห่วง เงื่อนเวลาการนำเงินไปลงทุนที่จะเกิดความเสียหาย เนื่องจากการกู้เงินเป็นภาระผูกพันในระยะยาว และต้องเคารพการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งแม้ฝ่ายค้านจะใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบและชี้แจงกับประชาชนถึงสาเหตุการคัดค้านดังกล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า การเสนอร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ไม่ใช่เป็นการรวบรัด แต่เนื่องจากมีปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ มีคนตกงานจำนวนมาก จึงต้องเร่งช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนมีคนว่างงานเดือนละ 70,000 คน หากโครงการลงทุนของรัฐบาลสะดุด จะกระทบต่อการแก้ไขปัญหาการว่างงาน ซึ่งต้องไปถามประชาชนผู้รอการช่วยเหลือว่าจะรอได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องออก พ.ร.ก.ดังกล่าว ดังนั้น ฝ่ายค้านต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
ซัดฝ่ายค้านนำปัญหาศก.มาเล่นเกม
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมสภาฯ นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล แถลงหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า วิปรัฐบาลตกลงให้ชะลอการพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทออกไป โดยจะนำมาพิจารณาหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสร็จสิ้น โดยจะมีการเปิดสภาสมัยวิสามัญ พิจารณาเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแนวทางที่ออก พ.ร.ก.ไว้ทุกประการ
ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าการออกพ.ร.ก.เงินกู้ครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ทุกอย่าง และถือเป็นเรื่องเร่งด่วนเพราะต้องนำเงินมาชดเชยเงินคงคลัง เนื่องจากไม่สามารถเก็บภาษีได้ตามเป้า ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และยังมีการคาดการณ์ว่า จะมีคนตกงานถึง 1 ล้านคน หากรัฐบาลมีเงินมากก็จะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ในสมัยอดีตรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยออกพ.ร.ก.ในลักษณะนี้มาหลายครั้ง โดยในการออก พ.ร.ก.แก้ไขอัตราภาษีสรรพสามิต เพื่อแก้ไขอัตราภาษีโทรคมนาคม เมื่อปี 2546 ศาลรัฐธรรมนูญเอง ก็เคยวินิจฉัยไว้แล้วว่าสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า การออกพ.ร.ก.ไม่ชอบ ก็มีความเป็นไปได้ว่า รัฐบาลจะออกเป็นพ.ร.บ.ฉบับเดียว ในการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินจำนวน 8 แสนล้าน
“ แม้ว่า การยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ.ร.ก.จะถือเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน แต่เราขอเรียกร้องว่าอย่านำเรื่องปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของประชาชนมาใช้เป็นเกมการเมือง และยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรมที่ป่วนงานสภา เพื่อไม่ให้การทำงานของสภาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเห็นว่า การเคลื่อนไหวนอกสภาและการใช้ความรุนแรงไม่ได้รับความยอมรับจากประชาชน อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหาประชาชนด้วย”.
