รอยเตอร์/เอเอฟพี – กลุ่มกบฎแบ่งแยกดินแดนพยัคฆ์ทมิฬ ยอมรับความพ่ายแพ้เมื่อวานนี้(17) ในสงครามที่ต่อสู้กับรัฐบาลศรีลังกามา 25 ปี ภายหลังมีรายงานว่าได้พยายามใช้ระเบิดฆ่าตัวตายอยู่เป็นระลอก ในการสกัดกั้นการรุกโจมตีครั้งสุดท้ายของฝ่ายทหาร ซึ่งมุ่งมั่นที่จะกำจัดพวกเขาให้สำเร็จ
ประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษี ได้ประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มกบฎพยัคฆ์ทมิฬอีแลม (แอลทีทีอี)ตั้งแต่วันเสาร์(16) ถึงแม้ยังคงมีการสู้รบปะทุขึ้นในพื้นที่เล็กๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะศรีลังกา และกองทัพกล่าวว่ากำลังพยายามปลดปล่อยพลเรือนนับหมื่นคนกลุ่มสุดท้ายที่ตกอยู่ในมือกบฎให้เป็นอิสระ
เมื่อถึงช่วงเที่ยงวานนี้ กองทัพแถลงว่าสามารถปลดปล่อยพลเรือนทั้งหมดที่ติดอยู่ภายในที่มั่นสุดท้ายของพวกแอลทีทีอี ซึ่งมีเนื้อที่ไม่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร ฝ่ายทหารบอกด้วยว่า มีพลเรือนหนีออกมาทั้งสิ้น 72,000 คนตั้งแต่วันพฤหัสบดี(14)
ชะตากรรมของ เวฬุพิไล ประภาการัน ผู้ก่อตั้งและผู้นำของกลุ่มกบฎยังไม่เป็นที่ชัดเจน ถึงแม้แหล่งข่าวฝ่ายทหารหลายรายบอกว่า พบศพที่เชื่อว่าเป็นเขา และกำลังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ทราบ
แอลทีทีอี ซึ่งมีชื่อฉาวในการใช้วิธีต่อสู้แบบฆ่าตัวตาย ยังไม่ได้แสดงสัญญาณของการยอมจำนน ตามคำบอกเล่าของฝ่ายทหาร มีนักรบฆ่าตัวตายหลายรายระเบิดตัวเองที่บริเวณแนวหน้าเมื่อเช้าวานนี้ และมีกว่า 70 คนถูกสังหารขณะพยายามหลบหนีในตอนกลางคืน
แต่เมื่อถึงบ่ายวานนี้ ฝ่ายทหารบอกว่าการสู้รบได้เบาบางลงมาก และเว็บไซต์สนับสนุนฝ่ายกบฎที่ชื่อ www.TamilNet.com ได้เผยแพร่คำแถลงฉบับหนึ่งจาก เสลวาราชาห์ ปัทมานาธาน หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของแอลทีทีอี ซึ่งกล่าวว่า “สงครามคราวนี้ได้มาถึงจุดจบอันขมขื่นแล้ว”
“เรายังคงมีมีทางเลือกสุดท้าย นั่นคือการลบล้างคำกล่าวหาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของฝ่ายศัตรูที่จะสังหารประชาชนของเรา เราได้ตัดสินใจที่จะสงบเสียงปืนของเราแล้ว” คำแถลงบอก
ฝ่ายทหารยังไม่ได้มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนนี้
ปัทมานาธาน ซึ่งทางตำรวจสากลขึ้นบัญชีต้องการจับกุมตัว และทำหน้าที่เป็นหัวหน้าใหญ่ดำเนินการลักลอบขนอาวุธให้แก่กลุ่มกบฎมานานปี บอกว่ามีประชาชนเสียชีวิตไป 3,000 คน และอีก 25,000 คนได้รับบาดเจ็บ
การรายงานภาพเหตุการณ์ในพื้นที่สงครามคราวนี้อย่างเป็นอิสระ นับเป็นงานที่ยากลำบากอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างบิดเบือนข้อมูลกันบ่อยครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องราวที่ฝ่ายตนต้องการนำเสนอ รวมทั้งปกติแล้วจะห้ามปรามไม่ให้ผู้สังเกตการณ์ภายนอกเข้าไปดูข้อเท็จจริง
กองทัพศรีลังกาสามารถยึดที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏ และขีดวงล้อมกลุ่มกบฏให้จำกัดอยู่แต่ในพื้นที่ป่าขนาดเล็กริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นผลสำเร็จเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่กลุ่มกบฏเปิดฉากทำสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบกับรัฐบาลเมื่อปี 1983 และเคยยึดครองพื้นที่ได้ถึง 1 ใน 3 ของประเทศ
กระทรวงกลาโหมศรีลังกาบอกว่าสมาชิกกลุ่มกบฏที่เหลือมีเพียงทางเลือกเดียว คือ ยอมจำนนหากไม่ต้องการถูกกวาดล้างขั้นเด็ดขาดและเชื่อว่า เวฬุพิไล ประภาการัน ผู้นำกลุ่มกบฏยังคงซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าขนาดเล็กดังกล่าว โดยกลุ่มกบฏที่เหลืออาจตัดสินใจฆ่าตัวตายหมู่หลังถูกปิดล้อมทั้งทางบกและทางทะเลแทนการยอมจำนนต่อรัฐบาล
อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ “ ทมิฬเน็ท ด็อท คอม ” รายงานเมื่อวานนี้ (17) โดยอ้างคำพูดของ ปัทมานาธาน ที่เตือนรัฐบาลศรีลังกาว่า การประกาศกวาดล้างกลุ่มกบฏจะทำให้พลเรือนจำนวนมากต้องเสียชีวิต และจะทำให้เกิดสงครามระลอกใหม่ เนื่องจากยังมีชาวทมิฬจากทั่วโลกพร้อมที่สนับสนุนทั้งทางการเงินและอาวุธ ต่อกลุ่มกบฏเพื่อกลับมาทำสงครามอีกครั้ง
ประธานาธิบดีมหินทา ราชปักษี ได้ประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มกบฎพยัคฆ์ทมิฬอีแลม (แอลทีทีอี)ตั้งแต่วันเสาร์(16) ถึงแม้ยังคงมีการสู้รบปะทุขึ้นในพื้นที่เล็กๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะศรีลังกา และกองทัพกล่าวว่ากำลังพยายามปลดปล่อยพลเรือนนับหมื่นคนกลุ่มสุดท้ายที่ตกอยู่ในมือกบฎให้เป็นอิสระ
เมื่อถึงช่วงเที่ยงวานนี้ กองทัพแถลงว่าสามารถปลดปล่อยพลเรือนทั้งหมดที่ติดอยู่ภายในที่มั่นสุดท้ายของพวกแอลทีทีอี ซึ่งมีเนื้อที่ไม่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร ฝ่ายทหารบอกด้วยว่า มีพลเรือนหนีออกมาทั้งสิ้น 72,000 คนตั้งแต่วันพฤหัสบดี(14)
ชะตากรรมของ เวฬุพิไล ประภาการัน ผู้ก่อตั้งและผู้นำของกลุ่มกบฎยังไม่เป็นที่ชัดเจน ถึงแม้แหล่งข่าวฝ่ายทหารหลายรายบอกว่า พบศพที่เชื่อว่าเป็นเขา และกำลังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ทราบ
แอลทีทีอี ซึ่งมีชื่อฉาวในการใช้วิธีต่อสู้แบบฆ่าตัวตาย ยังไม่ได้แสดงสัญญาณของการยอมจำนน ตามคำบอกเล่าของฝ่ายทหาร มีนักรบฆ่าตัวตายหลายรายระเบิดตัวเองที่บริเวณแนวหน้าเมื่อเช้าวานนี้ และมีกว่า 70 คนถูกสังหารขณะพยายามหลบหนีในตอนกลางคืน
แต่เมื่อถึงบ่ายวานนี้ ฝ่ายทหารบอกว่าการสู้รบได้เบาบางลงมาก และเว็บไซต์สนับสนุนฝ่ายกบฎที่ชื่อ www.TamilNet.com ได้เผยแพร่คำแถลงฉบับหนึ่งจาก เสลวาราชาห์ ปัทมานาธาน หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของแอลทีทีอี ซึ่งกล่าวว่า “สงครามคราวนี้ได้มาถึงจุดจบอันขมขื่นแล้ว”
“เรายังคงมีมีทางเลือกสุดท้าย นั่นคือการลบล้างคำกล่าวหาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของฝ่ายศัตรูที่จะสังหารประชาชนของเรา เราได้ตัดสินใจที่จะสงบเสียงปืนของเราแล้ว” คำแถลงบอก
ฝ่ายทหารยังไม่ได้มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนนี้
ปัทมานาธาน ซึ่งทางตำรวจสากลขึ้นบัญชีต้องการจับกุมตัว และทำหน้าที่เป็นหัวหน้าใหญ่ดำเนินการลักลอบขนอาวุธให้แก่กลุ่มกบฎมานานปี บอกว่ามีประชาชนเสียชีวิตไป 3,000 คน และอีก 25,000 คนได้รับบาดเจ็บ
การรายงานภาพเหตุการณ์ในพื้นที่สงครามคราวนี้อย่างเป็นอิสระ นับเป็นงานที่ยากลำบากอย่างยิ่ง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างบิดเบือนข้อมูลกันบ่อยครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับเรื่องราวที่ฝ่ายตนต้องการนำเสนอ รวมทั้งปกติแล้วจะห้ามปรามไม่ให้ผู้สังเกตการณ์ภายนอกเข้าไปดูข้อเท็จจริง
กองทัพศรีลังกาสามารถยึดที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏ และขีดวงล้อมกลุ่มกบฏให้จำกัดอยู่แต่ในพื้นที่ป่าขนาดเล็กริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นผลสำเร็จเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่กลุ่มกบฏเปิดฉากทำสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบกับรัฐบาลเมื่อปี 1983 และเคยยึดครองพื้นที่ได้ถึง 1 ใน 3 ของประเทศ
กระทรวงกลาโหมศรีลังกาบอกว่าสมาชิกกลุ่มกบฏที่เหลือมีเพียงทางเลือกเดียว คือ ยอมจำนนหากไม่ต้องการถูกกวาดล้างขั้นเด็ดขาดและเชื่อว่า เวฬุพิไล ประภาการัน ผู้นำกลุ่มกบฏยังคงซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าขนาดเล็กดังกล่าว โดยกลุ่มกบฏที่เหลืออาจตัดสินใจฆ่าตัวตายหมู่หลังถูกปิดล้อมทั้งทางบกและทางทะเลแทนการยอมจำนนต่อรัฐบาล
อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ “ ทมิฬเน็ท ด็อท คอม ” รายงานเมื่อวานนี้ (17) โดยอ้างคำพูดของ ปัทมานาธาน ที่เตือนรัฐบาลศรีลังกาว่า การประกาศกวาดล้างกลุ่มกบฏจะทำให้พลเรือนจำนวนมากต้องเสียชีวิต และจะทำให้เกิดสงครามระลอกใหม่ เนื่องจากยังมีชาวทมิฬจากทั่วโลกพร้อมที่สนับสนุนทั้งทางการเงินและอาวุธ ต่อกลุ่มกบฏเพื่อกลับมาทำสงครามอีกครั้ง