xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คเปิดฺBTSฝั่งธนฯคนกรุงใช้บริการแน่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -“อภิสิทธิ์” กดปุ่มเปิดเที่ยวปฐมฤกษ์รถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายฝั่งธนบุรี ระยะทาง 2.2 กม. ลั่นเดินหน้าขยายเครือข่ายเพิ่มเติม ด้านประชาชนมารอใช้บริการแน่นทุกขบวน เผยรอคอยมานาน ระบุช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางมาก "สุขุมพันธุ์" เปิดให้ใช้ฟรี 3 เดือน รุกหนักขอทำส่วนต่อขยายสายสีเขียวอีก ชี้หากให้ กทม.ก่อสร้างประชาชนจะเสียค่าโดยสารถูกลงครึ่งหนึ่ง "บิ๊กบีทีเอส" คาดยอดผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีก 5หมื่นเที่ยวคน/วัน แย้มเข็นบริษัทเข้าตลาดหุ้นไตรมาส 4นี้ หลังจากจ่อออกหุ้นกู้รีไฟแนนซ์หนี้เดิม 1หมื่นล้านบาทในกลางปี 52
วานนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 05.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังสถานีวงเวียนใหญ่ (s8) เขตคลองสาน เพื่อเป็นประธานงาน “Bangkok ’s Morning Smile เช้าวันใหม่..แสนสดใส..ที่คนกรุงเทพฯ รอคอย” พร้อมทั้งปล่อยขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีลมระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าสายแรกของฝั่งธนบุรี โดยนายกรัฐมนตรีได้นั่งรถไฟฟ้าจากสถานีวงเวียนใหญ่ไปลงที่สถานีสุรศักดิ์

**”มาร์ค”ลั่นเดินหน้าขยายต่อ        
          นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกคนทราบถึงความสำคัญของระบบชนส่งมวลชน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ หรือในมหานครอย่างเช่น กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นระบบการขนส่งที่เน้นการขนคนมากกว่าขนรถ เพื่อที่จะช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา การเดินทางของพี่น้องประชาชนในเมืองใหญ่ และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนหากมีโอกาสได้สัมผัสกับระบบขนส่งมวลชน ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นรถลอยฟ้า หรือรถใต้ดิน ก็คงจะเข้าใจดีถึงคุณค่าของการมีระบบขนส่งมวลชนอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง กทม.
สำหรับในส่วนของการดำเนินการทำส่วนต่อขยาย 2.2 กม.แห่งนี้ ได้ใช้เวลาผ่านผู้บริหารมาหลายชุด และประสบกับปัญหาอุปสรรคต่างๆ มากมาย ตนคิดว่าพี่น้องชาวฝั่งธนบุรีจะมีความรู้สึกมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่มองเห็นโครงสร้างพื้นฐานอยู่ตรงหน้า แต่ว่าไม่มีโอกาสได้ใช้บริการรถไฟฟ้าเสียที และมีความรู้สึกว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่สิ้นสุดการรอคอยอันยาวนานและเป็นจุดเริ่มต้นของการที่เราจะต้องมุ่งต่อขยายระบบขนส่งมวลชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ กทม.ต่อไป โดยขอยืนยันว่าการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนจะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในรอบที่ 2 ที่จะมีการดำเนินการ ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป และจะร่วมมือกับทางท้องถิ่น และภาคเอกชน เพื่อพี่น้องชาว กทม. มีบริการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ประหยัด และสะดวกรวดเร็ว
         
**สุขุมพันธุ์รุกส่วนต่อสายสีเขียว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ดีใจแทนพี่น้องประชาชนฝั่งธนบุรีที่มีโอกาสใช้บริการรถไฟฟ้า 2.2 กม. ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ตนประกาศไว้ เมื่อครั้งหาเสียงเลือกตั้ง โดยจะเปิดให้บริการโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 เดือน
         ส่วนกรณีที่ทางกทม.ได้ทำหนังสือถึง ครม.โดยผ่านกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ ครม.เปลี่ยนแปลงมติ ครม. และอนุมัติ ให้กทม.สามารถ เดินหน้าส่วนต่อขยาย สายสีเขียว แบริ่งถึงสมุทรปราการ และหมอชิตถึงสะพานใหม่นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ตนได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่า ว่างๆ ก็ขอคืนแล้วกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบกลับมาว่าไม่ได้เอาไป
ทั้งนี้ จากการติดตามเรื่องทราบว่าเรื่องนี้ยังอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่ง กทม.ได้ส่งเรื่องไปตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เสนอข้อมูลและข้อเท็จจริงให้ทราบหมดแล้วถึงข้อดีหาก กทม.ได้ทำส่วนต่อขยายทั้ง 2 สายทางนี้เพราะหาก กทม.เป็นผู้ดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวประชาชนจะเสียค่าโดยสารเพียง 60 บาท ขณะที่ถ้ามีหลายหน่วยงานทำค่าโดยสารแพงถึง 120 บาท ดังนั้น ทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคมต้องพิจารณาให้ดีๆ และต้องตอบให้ได้ว่า ถ้ามหาดไทยไม่นำเรื่องเสนอ ครม.ก็ต้องอธิบายเหตุผลว่าทำไม และถ้าเข้า ครม. และครม.ไม่อนุมัติก็ต้องมีเหตุผลให้ ประชาชน และกทม. หากเหตุผลไม่ดีพอ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
          อย่างไรก็ตาม ถ้าได้ทั้ง 2 สายทางกลับคืนมาก็จะเดินหน้าเต็มสูบ แม้จะไม่เสร็จในวาระผู้ว่าฯ แต่อย่างน้อยขอให้เริ่มก่อสร้างในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง ส่วนเงินลงทุนนั้น กทม.สามารถระดมทุนได้หลายทาง ซึ่งได้มอบหมายให้ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รอง ผู้ว่าฯ กทม. ถามวิธีการแล้วคาดว่าอาจจะออกพันธบัตรก็ได้ ทั้งนี้ ครม.เศรษฐกิจได้มีมติเห็นชอบให้ กทม.ออกพันธบัตรได้ ส่วนการกู้เงินจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ตนจะทำ

**แย้มทำต่อขยายสนามศุภฯ-พรานนกอีก
         ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวต่อว่า ถ้ากทม.ไม่ได้ทำก็คงต้องไปพิจารณาโครงการอื่นๆ แทน ซึ่งขณะนี้กทม.ได้วางแผนดำเนินการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสถานีสนามกีฬาแห่งชาติไปพรานนกแล้ว
สำหรับส่วนต่อขยายจากสถานีวงเวียนใหญ่ถึงบางหว้า ขณะนี้ต้องยกเลิกประกวดราคาจากที่ปรึกษาโครงการส่วนต่อขยายสายทางนี้ เนื่องจากมีผู้มายื่นเปิดซองเพียงรายเดียว จึงต้องยกเลิก ทำให้ส่วนต่อขยายดังกล่าวจะต้องล่าช้าออกไปอีก 4 เดือน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเริ่มขบวนการสรรหาได้สัปดาห์หน้า
  ขณะที่นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงเรื่องนี้สั้นว่าๆ เรื่องนี้อยู่ที่กระทรวง

**”คีรี” คาดคนเพิ่ม 5หมื่นเที่ยวคน/วัน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ บีทีเอส กล่าวว่า การเปิดเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลมได้รับความสนใจจากประชาชนชาวฝั่งธนบุรีเป็นจำนวนมาก ทำให้มั่นใจว่าจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 5 หมื่นเที่ยวคน/วันจากปัจจุบันที่มีผู้โดยสารเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสอยู่4.5-4.7 แสนเที่ยวคน/วัน และบางวันสูงถึง 5.7 แสนเที่ยวคน/วัน หากบีทีเอสให้บริการส่วนต่อขยายเพิ่มเติมทั้งเส้นอ่อนนุช-แบริ่ง และหมอชิต-สะพานใหม่ เชื่อว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นอีก1แสนเที่ยวคน/วัน ดังนั้นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสในปีนี้จะเติบโตขึ้น 5%ขณะที่ผลประกอบการบริษัทฯจะโตขึ้น 3-4%จากปีก่อน
หลังจากนี้ไป บริษัทจะเจรจากับกทม.เพื่อขอเป็นผู้เดินรถในส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ,หมอชิต-สะพานใหม่ โดยใช้หลักการเดียวกับส่วนต่อขยายสายสีลมนี้ คือใช้วิธีการจ้างแทนการให้สัมปทานที่จะใช้เวลานาน หากสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันเชื่อว่าจะให้บริการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายได้ภายใน 2ปีข้างหน้า โดยบีทีเอสสนใจที่จะเดินรถสายสีเขียว ซึ่งช่วงต่อขยายสะพานตากสินไปวงเวียนใหญ่ ทางกทม.จ้างบีทีเอสเดินรถในระยะเวลา 28 เดือน เป็นจำนวนเงินประมาณ 400 ล้านบาท สำหรับราคาค่าโดยสารส่วนต่อขยายนี้จะมีการเจรจากับกทม.ต่อไป โดยเห็นว่าถ้ามีการเดินรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยายเพิ่มขึ้นก็จำเป็นที่จะต้องมีการเก็บอัตราค่าโดยสารสูงกว่าปัจจุบันที่จัดเก็บอยู่ 15-40 บาท/เที่ยว
ส่วนจำนวนรถไฟฟ้าที่จะรองรับส่วนต่อขยายที่จะเพิ่มขึ้นนั้น นายคีรี กล่าวว่า ในเดือนต.ค.นี้จะมีรถไฟฟ้าที่บริษัทสั่งซื้อจากจีนทยอยส่งมอบมาให้จำนวน 12 ขบวน ซึ่งเพียงพอรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น สำหรับตั๋วโดยสารร่วม เบื้องต้นบริษัทฯจะ ถือหุ้น 100% หลังจากนั้นจะให้บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ(BMCL) จะเข้าร่วมทุน โดยบีทีเอสเข้าถือหุ้นใหญ่

**คาดใช้ตั๋วร่วมได้ต้นปีหน้า
นายคีรี กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ มีแผนจะนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯในไตรมาส 4 ปีนี้ โดยจะออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 15%ของทุนจดทะเบียนเพื่อนำไปเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ) โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใในการลงทุนซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่อรองรับส่วนต่อขยาย รวมทั้งการเข้าไปให้บริหารเดินรถไฟฟ้าในต่างประเทศซึ่งขณะนี้ได้อยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาความเป็นไปได้ใน 2ประเทศคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฎิบัติการ บริษัท ระบบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมจะออกหุ้นกู้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทภายในไตรมาส 2/2552 เพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ที่มีอยู่ หลังจากนั้นจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ประมาณปลายปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าภาวะตลาดหุ้นจะเอื้ออำนวยเพราะขณะนี้ตลาดหุ้นโลกก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น
 
**ปชช.รอใช้บริการแน่นขนัด     
          ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 2.2 กม. สถานีวงเวียนใหญ่ว่า มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา มารอใช้บริการกันตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) จะเปิดให้บริการฟรีอย่างเป็นทางการในเวลา 08.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่ ตอบทิศทางเดียวกันว่ารู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายนี้เสียที
นางธันนยันธ์ กาญจนวิลัย อายุ 32 ปี อาชีพพยาบาล ซึ่งเดินทางมาพร้อมครอบครัว 4 คน มารอขึ้นรถไฟฟ้าสถานีวงเวียนใหญ่ เพื่อเดินทางไป รพ.จุฬาฯ กล่าวว่า รู้สึกดีใจไม่ต้องทนรถติด ปกติตนจะขับรถไปทำงานกว่าจะข้ามสะพานสาทรไปได้ต้องใช้เวลาเฉลี่ยวันละ 1 ชม. แต่วันไหนถ้ารถติดมากก็ใช้เวลานานถึง 2 ชม. ทั้งนี้ หลังจากที่รถไฟฟ้าเปิดให้บริการ ตนตั้งใจเป็นขาประจำทุกวัน โดยสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่ park and ride และนั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางมาก
ด้าน น.ส.รัชนี เชี่ยวธนวัฒน์ อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน เดินทางมาใช้บริการรถไฟฟ้า กล่าวว่า โดยปกติจะต้องนั่งเรือข้ามฝากและนั่งรถไฟฟ้าไปทำงานย่านชิดลม เมื่อรถไฟฟ้า 2.2 กม.เปิดให้บริการตั้งใจว่าจะใช้บริการทุกวัน เพราะประหยัดเวลา อย่างไรก็ตาม อยากให้มีส่วนต่อขยายไปถึงบ้านของตนย่านพระราม 2 ด้วย
นายธนสาร ปินะลัง อายุ 27 ปี พนักงานบริษัทเอกชน เดินทางมาจากบานย่านวงเวียนใหญ่ เพื่อใช้บริการรถไฟฟ้าไปทำงานย่านศาลาแดง กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีวันนี้ เพราะรอคอยมานานมาก แต่ก็คิดว่ารัฐบาลชุดนี้เข้ามายังไงก็ต้องมีวันนี้ ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้ทำให้รถประหยัดเวลาการเดินทางได้ 30 นาที ไม่ต้องนั่งรถโดยสารแล้วมาต่อเรือและรถไฟฟ้า แต่สามารถนั่งรถโดยสารมาต่อรถไฟฟ้าได้เลย ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็น่าจะเท่าเดิม
         
**เรือข้ามฟากครวญยอดหด         
          นายบุญเสริม สุภาพร เจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด ทรัพย์ธนนคร ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเดินเรือข้ามฟากจากท่าเรือเป๊ปซี่-ท่าเรือสาทร กล่าวว่า ในชั่วโมงเร่งด่วนยังคงมีประชาชนมาใช้บริการเอข้ามฟากไปสาทรในปริมาณเท่าเดิม เนื่องจากรถไฟฟ้า 2.2 กิโลเมตร เปิดให้บริการเวลา 08.00 น.จึงทำให้ยอดผู้โดยสารเรือข้ามฟากในชั่วโมงเร่งด่วนระหว่างเวลา 07.00-09.00 น.นั้นมีปริมาณเท่าเดิม แต่หลังจากนั้นยอดผู้โดยสารลดลงจนเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่สามารถคำนวณได้ว่ายอดผู้โดยสารหายไปเท่าไหร่ในวันแรกของการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะทราบตัวเลขที่แท้จริง แต่จากที่ได้มีการสำรวจนั้นคาดว่ายอดผู้โดยสารจะหายไปประมาณ 30% จากจำนวนผู้โดยสารวันละ 12,000 คนในอัตราค่าโดยสาร 3 บาทในวันธรรมดา ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ คาดว่าจะหายไปประมาณ 70-80% จากจำนวนผู้โดยสาร 7,000 คน
นายบุญเสริมกล่าวอีกว่า หากจำนวนผู้โดยสารหายไปจากระบบตามที่เราคาดการณ์ไว้จริงเราก็คงต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถเอาตัวรอดได้ซึ่งตนได้เตรียมทางออกไว้หลายทาง เช่น อาจจะเปิดขายก๋วยเตี๋ยวน้ำตกบนท่าเรือ และใช้เรือเป็นสถานที่รับประทานอาหารแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น