ASTVผู้จัดการรายวัน – บอร์ด อสมท เพิ่มเวลารับสมัคร “บอส” คนใหม่ อีก 1 เดือน ถึง 15 มิ.ย.นี้ ยันทำงานเต็มที่ ไม่มีใบสั่งล๊อกสเป็คใครไว้ เชื่อภายในก.ค. อสมท มีผู้นำแน่ เผยสัญญาทรูวิชั่นส์ เรียกเก็บรายละเอียดดูใหม่หมด ทั้งเรื่องผิดสัญญา และข้อตกลงเรื่องโฆษณาได้ ตามคำขอสหภาพแรงงาน ย้ำชัดบอร์ดตั้งใจทำงานเต็มที่ พร้อมปรับลดดคณะกรรมการย่อยเหลือ 6 ชุด จากเดิม 13 ชุด
วานนี้ (14พ.ค.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบอร์ด อสมท ขึ้น ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ภายใต้ประธานบอร์ดคนใหม่ที่ชื่อ นายสุรพล นิติไกรพจน์ โดยวาระการประชุมที่สำคัญครั้งนี้ คือ เรื่องของคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เสนอเรื่องขอเลื่อนเวลารับสมัครกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เพิ่มไปอีก 1 เดือน นับตั้งแต่ 15 พ.ค. -15มิ.ย.นี้ ภายใต้เงื่อนไขเดิมของการรับสมัคร โดยทางที่ประชุมมีมติเห็นชอบ
นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการ บอร์ด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเลื่อนเวลารับสมัครเพิ่มครั้งนี้ เหตุผลสำคัญ คือ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องของการบริหาร และสนใจด้านสื่อสารมวลชนเข้ามาบริหาร อสมท จากเดิมที่อาจจะยังไม่มั่นใจ เนื่องจากช่วงเวลาเดือนก.พ. กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ต้องออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลในเรื่องของการทำงานที่ขัดแย้งกับบอร์ด อีกทั้งยังมีเรื่องของการทำงานของคณะกรรมการบอร์ดอสมท บางท่านที่หมดวาระลง อาจส่งผลให้ไม่มั่นใจถึงการเปิดรับสมัครครั้งนี้
“ทั้งนี้ในนามของตัวแทนคณะกรรมการบอร์ด อสมท ขอยืนยันว่า การสรรหาครั้งนี้ ไม่มีใบสั่งหรือมีการล๊อกรายชื่อใครไว้แน่นอน อีกทั้งขอยืนยันว่าผู้ที่จะมาเป็นผู้นำอสมทครั้งนี้ จะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมา เพราะการสรรหาครั้งนี้ ทางคณะกรรมการบอร์ด อสมท จะต้องมั่นใจและเข้าใจถึงวิธีการทำงานว่าจะสามารถทำงานร่วมกับคณะกรรมการบอร์ดอสมท ได้แน่นอน”
นายสุรพล กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้ ยังมีเรื่องของทรูวิชั่นส์ ที่ยังมีข้อมูลไม่ครบในบางเรื่องที่ทางคณะกรรมการบอร์ด อสมท ชุดนี้ ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งทางที่ประชุมต้องการที่จะขอดูเรื่องของทรูวิชั่นส์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผิดสัญญาของทรูวิชั่นส์ ในการออกจากตลาดหลักทรัพย์ หรือกรณีโฆษณาก่อนขออนุญาต
และเรื่องของสัญญาและรายละเอียดตัวเลขค่าตอบแทนที่ทรูวิชั่นส์ ทำไว้ และบอร์ด อสมท ชุดก่อน ลงมติไปแล้ว
ทั้งนี้เพื่อต้องการจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสิ้นให้หมด เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามของทางสหภาพแรงงาน อสมท ได้ ตามที่ทางสหภาพฯเรียกร้องให้ตรวจสอบถึงค่าตอบแทนที่ดูเหมือน อสมท จะเสียเปรียบ และเรื่องอื่นๆที่ทางทรูวิชั่นส์ ผิดสัญญา โดยภายในวันที่ 28 พ.ค.นี้ จะมีการนำเรื่องของทรูวิชั่นส์ เข้าที่ประชุมบอร์ดอีกครั้ง ซึ่งหากที่ประชุมไม่พบปัญหาอะไร ก็จะมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมการบอร์ดชุดก่อนหน้านี้ที่ลงมติเห็นชอบไปแล้ว
อย่างไรก็ตามการทำงานของคณะกรรมการบอร์ดชุดนี้ พบว่าค่อนข้างมีการทำงานที่ทับซ้อนอยู่มาก ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการติดขัดในการทำงานต่อๆไป ดังนั้นจากเดิมที่คณะกรรมการบอร์ด จะมีคณะกรรมการย่อย รวม 6 ชุด และอนุกรรมการอีก 7 ชุด รวม 13 ชุด ได้ปรับลดลงเหลือเพียง 6 ชุด คือ 1. คณะกรรมการตรวจสอบ 2.คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง 3.คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน4.
คณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ 5. คณะกรรมการบรรษัทภิบาล และ6.คณะกรรมการกลั่นกรองงานบริหาร
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของผลประกอบการรวม อสมท ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำได้ 1,031 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11% มีกำไร 290 ล้านบาท เติบโตขึ้น 24% เทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน โดยในส่วนของรายได้จากโทรทัศน์ เติบโตขึ้น 16% ในแง่ของค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4% ส่วนวิทยุ เติบโต 1% ขณะที่ภาพรวมวิทยุโตติดลบ 12% โดยในแง่ของสัดส่วนผู้ชม ขึ้นมาเป็นอันดับ3 มีมาร์เก็ตแชร์โตขึ้น 12%
วานนี้ (14พ.ค.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้มีการประชุมคณะกรรมการบอร์ด อสมท ขึ้น ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ภายใต้ประธานบอร์ดคนใหม่ที่ชื่อ นายสุรพล นิติไกรพจน์ โดยวาระการประชุมที่สำคัญครั้งนี้ คือ เรื่องของคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เสนอเรื่องขอเลื่อนเวลารับสมัครกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เพิ่มไปอีก 1 เดือน นับตั้งแต่ 15 พ.ค. -15มิ.ย.นี้ ภายใต้เงื่อนไขเดิมของการรับสมัคร โดยทางที่ประชุมมีมติเห็นชอบ
นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการ บอร์ด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเลื่อนเวลารับสมัครเพิ่มครั้งนี้ เหตุผลสำคัญ คือ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องของการบริหาร และสนใจด้านสื่อสารมวลชนเข้ามาบริหาร อสมท จากเดิมที่อาจจะยังไม่มั่นใจ เนื่องจากช่วงเวลาเดือนก.พ. กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ต้องออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลในเรื่องของการทำงานที่ขัดแย้งกับบอร์ด อีกทั้งยังมีเรื่องของการทำงานของคณะกรรมการบอร์ดอสมท บางท่านที่หมดวาระลง อาจส่งผลให้ไม่มั่นใจถึงการเปิดรับสมัครครั้งนี้
“ทั้งนี้ในนามของตัวแทนคณะกรรมการบอร์ด อสมท ขอยืนยันว่า การสรรหาครั้งนี้ ไม่มีใบสั่งหรือมีการล๊อกรายชื่อใครไว้แน่นอน อีกทั้งขอยืนยันว่าผู้ที่จะมาเป็นผู้นำอสมทครั้งนี้ จะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมา เพราะการสรรหาครั้งนี้ ทางคณะกรรมการบอร์ด อสมท จะต้องมั่นใจและเข้าใจถึงวิธีการทำงานว่าจะสามารถทำงานร่วมกับคณะกรรมการบอร์ดอสมท ได้แน่นอน”
นายสุรพล กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้ ยังมีเรื่องของทรูวิชั่นส์ ที่ยังมีข้อมูลไม่ครบในบางเรื่องที่ทางคณะกรรมการบอร์ด อสมท ชุดนี้ ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งทางที่ประชุมต้องการที่จะขอดูเรื่องของทรูวิชั่นส์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผิดสัญญาของทรูวิชั่นส์ ในการออกจากตลาดหลักทรัพย์ หรือกรณีโฆษณาก่อนขออนุญาต
และเรื่องของสัญญาและรายละเอียดตัวเลขค่าตอบแทนที่ทรูวิชั่นส์ ทำไว้ และบอร์ด อสมท ชุดก่อน ลงมติไปแล้ว
ทั้งนี้เพื่อต้องการจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสิ้นให้หมด เพื่อที่จะสามารถตอบคำถามของทางสหภาพแรงงาน อสมท ได้ ตามที่ทางสหภาพฯเรียกร้องให้ตรวจสอบถึงค่าตอบแทนที่ดูเหมือน อสมท จะเสียเปรียบ และเรื่องอื่นๆที่ทางทรูวิชั่นส์ ผิดสัญญา โดยภายในวันที่ 28 พ.ค.นี้ จะมีการนำเรื่องของทรูวิชั่นส์ เข้าที่ประชุมบอร์ดอีกครั้ง ซึ่งหากที่ประชุมไม่พบปัญหาอะไร ก็จะมีมติเห็นชอบตามคณะกรรมการบอร์ดชุดก่อนหน้านี้ที่ลงมติเห็นชอบไปแล้ว
อย่างไรก็ตามการทำงานของคณะกรรมการบอร์ดชุดนี้ พบว่าค่อนข้างมีการทำงานที่ทับซ้อนอยู่มาก ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการติดขัดในการทำงานต่อๆไป ดังนั้นจากเดิมที่คณะกรรมการบอร์ด จะมีคณะกรรมการย่อย รวม 6 ชุด และอนุกรรมการอีก 7 ชุด รวม 13 ชุด ได้ปรับลดลงเหลือเพียง 6 ชุด คือ 1. คณะกรรมการตรวจสอบ 2.คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง 3.คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน4.
คณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ 5. คณะกรรมการบรรษัทภิบาล และ6.คณะกรรมการกลั่นกรองงานบริหาร
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของผลประกอบการรวม อสมท ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำได้ 1,031 ล้านบาท เติบโตขึ้น 11% มีกำไร 290 ล้านบาท เติบโตขึ้น 24% เทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน โดยในส่วนของรายได้จากโทรทัศน์ เติบโตขึ้น 16% ในแง่ของค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4% ส่วนวิทยุ เติบโต 1% ขณะที่ภาพรวมวิทยุโตติดลบ 12% โดยในแง่ของสัดส่วนผู้ชม ขึ้นมาเป็นอันดับ3 มีมาร์เก็ตแชร์โตขึ้น 12%