บอร์ด อสมท มีมติแต่งตั้ง "สุรพล นิติไกรพจน์" อธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดคนใหม่ พร้อมเลื่อนระยะเวลารับสมัครกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่
นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) อสมท โดยระบุว่า ที่ประชุมบอร์ดในวันนี้ มีมติแต่งตั้งให้ตนเป็นประธานบอร์ด อสมท และให้นายนัที เปรมรัศมี เป็นรองประธานคนที่ 1 นางมัทนา วัทนฤทธิ์ เป็นรองประธานคนที่ 2 รวมเป็นกรรมการทั้งหมด 12 คน
หลังจากนั้น จึงได้ประชุมบอร์ดชุดใหม่ นัดแรกในวันนี้ และได้มีมติเกี่ยวกับการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หลังจากนายธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการสรรหา ครบวาระในการเป็นกรรมการแล้ว
ทั้งนี้ ที่ประชุมจึงได้แต่งตั้งให้นางมัทนา วัทนฤทธิ์ เป็นประธานกรรมการสรรหาแทนนายธงทอง โดยกรรมการสรรหาทั้ง 5 คน ยังเหมือนเดิม และแม้ว่าขั้นตอนการสรรหายังเดินหน้าอยู่ และมีผู้มาสมัครแล้วบางส่วน แต่ที่ประชุมบอร์ดเห็นว่าในช่วงที่มีการเปิดรับสมัครกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ ผอ.วสันต์ ภัยหลีกลี้ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ซึ่งมีปัญหาแนวคิดดำเนินงานกับคณะกรรมการ อีกทั้งยังเป็นช่วงปลายการทำงานของกรรมการชุดเดิม 1 ใน 3 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยเหตุผลทั้ง 2 ข้อ เป็นข้อจำกัดของผู้ที่จะเข้ามาสมัคร ในส่วนของคุณสมบัติผู้สมัคร จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากที่ประกาศไว้แล้ว เพียงแต่ต้องการขยายโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาสมัครเพิ่มเติม
ส่วนระยะเวลาสรรหาขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหา แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะใช้เวลาสรรหามานาน 4 เดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายได้ให้เวลาสรรหาภายใน 1 ปี แต่ทางคณะกรรมการฯ จะเร่งให้สรรหาโดยเร็วที่สุดตามนโยบายของรัฐบาล เบื้องต้นกำหนดให้รายงานความคืบหน้าแก่ที่ประชุมบอร์ด อสมท ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2552 นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการพิจารณาสัญญาสัมปทานเคเบิลทีวี ระหว่าง อสมท และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลังจากบอร์ดชุดที่ผ่านมาอนุมัติให้ทรูมีโฆษณาได้ แต่มีการคัดค้านจากสหภาพแรงงาน อสมท และเห็นว่าขั้นตอนดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการ และการพิจารณาแง่กฎหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด จึงให้ฝ่ายบริหารรวบรวมข้อมูลรายงานต่อที่ประชุมในครั้งต่อไป เพราะหากมีพบข้อบกพร่องร้ายแรงตามที่สหภาพฯ เสนอมา ก็จะพิจารณาเปลี่ยนแปลง แต่หากไม่มีอะไรผิดปกติ ก็ต้องเดินหน้าต่อ เพื่อให้เกียรติการตัดสินใจของบอร์ดชุดที่ผ่านมา
ที่ประชุมบอร์ด อสมท ยังกำหนดภารกิจสำคัญ 3 ด้านได้ แก่ 1.อสมท ต้องเป็นองค์กรสื่อสารมวลชน มืออาชีพ 2. อสมท ต้องเป็นองค์กรที่มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่และรายย่อย และประการที่ 3. ต้องเป็นองค์กรสื่อที่สามารถสื่อข้อมูลข่าวสารไปยังประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เรื่อง ไข้หวัดเม็กซิโก มาตรการของรัฐบาล โดยไม่ทำลายหลักการของความเป็นสื่อมวลชน