xs
xsm
sm
md
lg

มธ.เผยเด็กเก่งทิ้งหมอเรียนกฎหมาย นักศึกษาคณะนิติศาสตร์คุณภาพพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อธิการบดี มธ.เผย เด็กนิติศาสตร์คุณภาพพุ่งสูงขึ้นกว่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเท่าตัว ยันนักศึกษาบางคณะคุณภาพต่ำไม่เกี่ยวแอดมิชชัน แต่เพราะค่านิยมวิชาชีพของสังคมเปลี่ยนเด็กเก่งหันเรียน “นิติ-บัญชี-เศรษฐศาสตร์” มากขึ้น เพราะมีงานรองรับ ค่าตอบแทนดี เผยมีเด็กทิ้งสิทธิ์เรียนหมอ เลือกเรียนกฎหมายแทน ระบุเด็กคะแนนสูงลำดับ 1-10 แอดมิชชันไม่เลือก มธ.เพราะ มธ.รับตรงไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่มีผลคะแนนในระบบแอดมิชชันของ สกอ.

ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงการประกาศผลการรับบุคคลเข้าศึกษาในระบบกลาง (Admissions) ประจำปีการศึกษา 2552 ว่า ไม่อยากให้สังคมจับตามองเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนสูง หรือส่วนยอดสุดของแอดมิชชัน แต่อยากให้มองไปยังมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด หรือสถาบันการศึกษาที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะคะแนนแอดมิชชันของมหาวิทยาลัยในกลุ่มนี้ดีขึ้น และใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัยเก่าแก่มากขึ้น จากเดิมที่เคยห่างกันมาก ซึ่งถือว่าการอุดมศึกษาของไทยมีพัฒนาการดีขึ้น

ส่วนที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ในระยะหลังมหาวิทยาลัยคัดเลือกเด็กเข้าเรียนได้คุณภาพด้อยลงนั้น ที่เห็นเป็นปัญหาในบางกลุ่มสาขาเพราะในอดีตเด็กผ่านระบบเอนทรานซ์ประมาณ 2-3 หมื่นคนเท่านั้น ขณะที่ปัจจุบันระบบแอดมิชชันรับนักศึกษาถึง 1 แสนคน แต่เดิมมีมหาวิทยาลัยให้เลือกเรียนไม่กี่แห่ง แต่ปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยให้เลือกเรียนมากขึ้น ทำให้มีคนเข้าสู่ระบบอุดมศึกษาเยอะขึ้น และทำให้เด็กมีทางเลือกทางการศึกษา ในบางคณะ/สาขาวิชาที่เคยได้เด็กที่เก่งที่สุดเข้าเรียน ก็อาจจะได้เด็กที่เก่งน้อยลง ขณะเดียวกันเมื่อเมื่อจำนวนรับนักศึกษาของแต่ละคณะเพิ่มมากขึ้นก็ทำให้ค่าเฉลี่ยผลการเรียนของนักศึกษาในคณะอาจจะต่ำลง

“นอกจากนี้ ค่านิยมในวิชาชีพของสังคมที่เปลี่ยนไปจากเดิมก็มีส่วนสำคัญ โดยเดิมนั้นคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะแพทย์ศาสตร์ได้รับความนิยมสูงสุด ทำให้หลายมหาวิทยาลัยเปิดสอนคณะวิศวกรรมศาสตร์เพิ่มมากขึ้น แต่ปัจจุบันคณะนิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี และคณะเศรษฐศาสตร์กลับได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเด็กเห็นว่าเมื่อเรียนจบออกไปแล้วมีอาชีพรองรับที่มั่นคง ได้ผลตอบแทนในการทำงานดี จึงทำให้เด็กเก่งๆ หันไปเลือกเรียนคณะเหล่านี้แทน ดังนั้น การที่บอกว่าคุณภาพของเด็กที่ผ่านระบบแอดมิชชันเข้ามามีคุณภาพด้อยลงนั้นคงไม่ถูกต้อง เพราะหากเทียบคุณภาพเด็กที่เข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าเด็กในคณะนี้มีคุณภาพสูงขึ้นมากเป็นเท่าตัว เช่น ความรู้วิชาภาษาอังกฤษจากเดิมเด็กคณะนิติศาสตร์ค่อนข้างอ่อนวิชานี้ แต่ปัจจุบันเด็กคณะนิติศาสตร์จำนวนมากได้รับการยกเว้นการเรียนภาษาอังกฤษบางตัว เนื่องจากมีความรู้ในระดับดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกันก็พบว่า เด็กบางคนที่สอบเข้าเรียนคณะแพทย์ได้ขอสละสิทธิ์เข้าเรียนกฎหมายแทนด้วยซ้ำ”อธิการบดี มธ.กล่าว

สำหรับกรณีที่ มธ.ไม่มีเด็กที่ทำคะแนนแอดมิชชันได้สูงสุดอันดับ 1-10 เลือกเข้าเรียน โดยทั้งหมดเลือกจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น ศ.ดร.สุรพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สอบถามมาหลายปี ซึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจาก มธ.เปิดรับสมัครนักศึกษาผ่านระบบการรับตรงไปส่วนใหญ่แล้ว เช่น คณะนิติศาสตร์ มธ.รับจำนวน 500 ที่นั่ง เปิดรับตรง 300 ที่นั่ง เหลือคัดเลือกผ่านแอดมิชชัน 200 ที่นั่ง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กที่ได้คะแนนแอดมิชชันสูงจะไม่ได้เลือก มธ. เพราะ มธ.ได้คัดเลือกผ่านรับตรงไปเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งเมื่อเด็กสอบติดรับตรงก็จะถูกตัดสิทธิ์แอดมิชชัน ทำให้เด็กที่เลือก มธ.และมีคะแนนแอดมิชชันสูงๆ ไม่มีคะแนนอยู่ในระบบการประกาศผลแอดมิชชันปีการศึกษา 2552 ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
กำลังโหลดความคิดเห็น